เชื่อว่าสำหรับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นทำการตลาดแบบออนไลน์ คงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการทำ SEO มาไม่มากก็น้อย ซึ่งการทำ SEO สำหรับ SME นั้นจะเป็นตัวช่วยในการโฆษณาเว็บไซต์ของคุณให้ติดหน้าค้นหาในอันดับต้น ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา แต่สำหรับเหล่านักธุรกิจมือใหม่ก็คงมีความสงสัยกันอยู่บ้างว่า SEO ทำอย่างไร สามารถทำด้วยตัวเองได้หรือไม่ แล้วมีเทคนิคการทำ SEO อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด วันนี้ ZORT จะมาให้คำตอบเอง แต่ก่อนจะไปเรียนรู้เทคนิคในการทำ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า SEO คืออะไร และSEO ต้องทำอย่างไร

       SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือการปรับแต่งเว็บไซต์ เนื้อหา โค้ด และความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ เพื่อทำให้เว็บไซต์ติดหน้าค้นหาในอันดับต้น ๆ และมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น เมื่อมีการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ โดยการทำ SEO ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าค้นหา โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ Algorithm ของ Search Engine นั้น ๆ

       หลายคนอาจคิดว่า การทำ SEO ด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก แต่ในความจริงแล้ว วิธีทำ SEO ด้วยตัวเองนั้นง่ายกว่าที่คิด และยังทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ย่อมเข้าใจธุรกิจของตัวเองมากกว่า ซึ่งการทำ SEO ที่เป็นเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจจริง ๆ ถือเป็นการทำ SEO ที่มีคุณภาพ และจะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว

เทคนิคการทำ SEO ด้วยตัวเองให้ประสบความสำเร็จที่สุด

1.) เลือกใช้ CMS ที่แก้ไข้ง่ายและเหมาะกับการทำ SEO

       การที่เราทำ SEO เองนั้นอาจจะต้องมีการเลือกใช้ CMS หรือตัวจัดการข้อมูลหลังบ้าน เพราะสามารถจัดการข้อมูลทุกอย่าง และตกแต่งเองได้ง่าย แถมเหมาะสำหรับการทำ Website และมี Plugin มากมายที่คอยช่วยเหลือในการทำ SEO ดังนั้นแล้วในการทำ SEO ที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นนั้นควรเลือก CMS ที่แก้ไขง่าย และตอบโจทย์ในการทำ SEO อย่างเช่น WordPress หรือ Wix เป็นต้น

2.) On-Site Optimization ต้องปัง

       การปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดีทั้งการปรับโครงสร้างเนื้อหา, ความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์, Url ที่ดูน่าเชื่อถือ และเข้าใจง่าย, เพิ่มรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับบทความ, สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเข้าใจง่าย จะช่วยให้บทความและเว็บไซต์ของเราดูมีความน่าเชื่อถือ และเพิ่มยอดผู้เข้าชมได้ง่ายขึ้น

3.) เลือกคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาเยอะ

       การเลือกคีย์เวิร์ดที่คนนิยมใช้ในการค้นหา จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรา เข้ามาชมเว็บไซต์ของเรามากขึ้น การเขียนบทความโดยไม่คำนึงถึงความนิยมของคีย์เวิร์ด จะเป็นการเสียเวลาเปล่า และไม่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับแต่อย่างใด โดยสามารถเช็คความนิยมของคีย์เวิร์ดได้จาก Kwfinder หรือ Ahrefs เป็นต้น

4.) เข้าชมผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่าย

       แน่นอนว่าหากคุณเปิดเข้ามาในเว็บไซต์ที่อ่านข้อมูลลำบาก ต้องซูมเข้า-ออก ก็คงจะรีบปิดและไปเลือกเปิดเว็บไซต์อื่นกันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นการทำให้หน้าเว็บไซต์สะดวกต่อการเปิดในโทรศัพท์มือถือก็จะเป็นอีกทางที่จะช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าชมได้ และทำให้ผู้เข้าชมกลับมาเปิดเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง

5.) สร้าง UX ให้ดูน่าเชื่อถือ

       UX หรือ Users Experience คือความพึงพอใจ และความน่าเชื่อถือที่ผู้เข้าชมมีต่อเว็บไซต์ ซึ่งการสร้าง UX ให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ และสามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้น 

6.) บทความต้องมีประโยชน์

       ไม่ว่าคุณจะใส่บทความลงไปในเว็บไซต์มากเพียงใด แต่หากบทความนั้นเป็นบทความที่นำมาลงซ้ำ ๆ หรือไม่มีการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ผู้เข้าชมก็คงไม่เลือกคลิกเว็บไซต์ของคุณอีกเป็นครั้งที่สอง และเว็บไซต์ของคุณจะถูกลดความน่าเชื่อถือลงอย่างแน่นอน ดังนั้นการใส่บทความลงไปในเว็บไซต์ ควรจะเป็นบทความที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้บทความที่ขึ้นในหน้า Search Engine มีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มยอดเข้าชมให้มากขึ้น

7.) ใช้ Social Media ให้เป็น

       สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มทำ การใช้ Social Media เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะถือเป็นอีกช่องทางในการทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จัก และช่วยเพิ่ม Traffic ในการเข้าชมเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน

       สำหรับธุรกิจ SME ที่กำลังเริ่มทำการตลาดแบบออนไลน์ แม้ว่าเทคนิคการทำ SEO จะถือเป็นการทำการตลาดระยะยาว แต่บอกเลยว่าหากทำ SEO จนเว็บไซต์ติดอันดับแล้ว จะเป็นผลดีต่อธุรกิจอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในการทำโฆษณาแล้ว ยังถือเป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณแบบ 24 ชั่วโมงอีกด้วย แต่ก่อนจะเริ่มการทำ SEO ด้วยตัวเอง ก็อย่าลืมกำหนดจุดประสงค์ในการทำ SEO ให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้ตอบโจทย์กับธุรกิจ และเกิดประโยชน์มากที่สุด

       นอกจากการทำการตลาดด้วย SEO จะสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ในระยะยาวแล้ว เจ้าของธุรกิจเองก็ควรมองหาเครื่องมือจัดการธุรกิจให้ดำเนินอย่างเป็นระบบมากขึ้นเพื่อเสริมพื้นฐานของกิจการให้แกร่งขึ้นไป ให้ ZORT ระบบจัดการร้านค้าครบวงจรเป็นผู้ช่วยธุรกิจของคุณอีกแรง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทดลองใช้งานระบบ ฟรี 15 วันได้เลย