Privacy Policy - ZORT

ข้อตกลงการใช้บริการของซอร์ทเอาท์

 

ข้อตกลงการใช้บริการนี้ รวมถึงนโยบายอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของซอร์ทเอาท์ ได้กำหนดเงื่อนไขการเข้าถึง และการใช้งานบนเว็บไซต์ บริการ แอปพลิเคชัน และเครื่องมืออื่น ๆ ของเรา โดยซอร์ทเอาท์ได้ดำเนินการภายใต้กฎระเบียบและขอบเขตอำนาจภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

 

นิติบุคคลที่คุณกำลังทำสัญญาด้วย คือ บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ในที่นี้ อาจเรียกว่า “ซอร์ทเอาท์” หรือ “Zortout” หรือ “Zort” หรือ “บริษัท”) ซึ่งตั้งอยู่ที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย บริษัทตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญแก่ความปลอดภัยในข้อมูลของผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ โดยข้อความต่อไปนี้ได้อธิบายขอบเขตแนวปฏิบัติ และการดำเนินงานของเว็บไซต์ www.zortout.com ในการใช้บริการของซอร์ทเอาท์ ผู้ใช้งานตกลงปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่กล่าวไว้ด้านล่าง โดยผู้ใช้งานรับทราบว่า ผู้ใช้งานได้อ่านและเข้าใจนโยบายและแนวปฏิบัติของบริษัททั้งหมดแล้ว โดยข้อตกลงในการใช้บริการนี้จะมีผลทันทีที่คุณสร้างบัญชีผู้ใช้งานขึ้นมาบนเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานในช่วงทดลองใช้ฟรี นอกจากนี้ ผู้ใช้งานตกลงปฏิบัติตามกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง 

 

ระบบซอร์ทเอาท์ คือแพลตฟอร์มจัดการออเดอร์และสต๊อกสินค้าออนไลน์ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการการจำหน่ายสินค้ารายวัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการบริหารจัดการและเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจของลูกค้า 

 

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบต่อความสูญหาย ความเสียหาย หรือทางกฎหมายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เว็บไซต์ www.zortout.com และบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการจำหน่ายสินค้าที่ผิดกฎหมาย การละเมิด หรือสินค้าที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท  

 

1.1 ข้อกำหนดการใช้งานระบบซอร์ทเอาท์ 

การใช้ซอร์ทเอาท์ 

ในขณะที่เข้าใช้หรือเข้าถึงบริการของซอร์ทเอาท์ ผู้ใช้งานจะต้องไม่ปฎิบัติดังนี้ 

  • โพสต์ แสดงรายการ หรืออัปโหลดเนื้อหาใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมบนเว็บไซต์ของบริษัท 
  • ละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายใด ๆ ต่อสิทธิของบุคคลที่สาม ระบบ และนโยบายของบริษัท 
  • ใช้บริการของบริษัทโดยไม่สามารถเข้าทำสัญญาได้ตามกฎหมาย (เช่น หากคุณอายุต่ำกว่า 18 ปี) หรือถูกระงับชั่วคราว หรือถูกระงับถาวรไม่ให้ใช้เว็บไซต์ บริการ แอปพลิเคชัน หรือเครื่องมืออื่น ๆ ของบริษัท 
  • ไม่จำหน่ายสินค้าที่ตนไม่สามารถจัดส่งให้แก่ผู้ซื้อได้ เว้นแต่ผู้ซื้อจะไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของผู้ใช้บริการ หรือผู้ใช้บริการไม่สามารถติดต่อผู้ซื้อได้ 
  • โพสต์ข้อมูลเท็จหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องทำให้ผู้ซื้ออาจเข้าใจผิดในสินค้า 
  • แจกจ่าย โพสต์สแปม จดหมายลูกโซ่ หรือส่งข้อความอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ใช้คนอื่นไม่ได้ร้องขอเป็นจำนวนมาก 
  • เผยแพร่ไวรัสหรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบซอร์ทเอาท์หรือผลประโยชน์และทรัพย์สินของผู้ใช้บริการของบริษัท 
  • ใช้เทคโนโลยีหรือวิธีการอัตโนมัติอื่น ๆ ในการเข้าถึงบริการของบริษัท 
  • แทรกแซงการบริการของเราหรือสร้างภาระที่มากเกินสมควรหรือที่ไม่เหมาะสมกับระบบของบริษัท 
  • คัดลอก แก้ไข หรือจำหน่ายสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของเราหรือลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า โลโก้ ของบริษัท 
  • คัดลอก ทำซ้ำ วิศวกรรมย้อนกลับ แก้ไข สร้างผลงานลอกเลียนแบบ จำหน่ายหรือแสดงเนื้อหาใด ๆ จากเว็บไซต์ บริการ แอปพลิเคชันหรือเครื่องมือต่าง ๆ ของบริษัท (ยกเว้นข้อมูลของคุณ) โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทและ/หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง 
  • แสวงหาประโยชน์บนแอปพลิเคชัน เครื่องมือต่าง ๆ ข้อมูล หรือซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันของบริษัทโดยไม่ได้รับความยินยอม 
  • ใช้ประโยชน์จากบริการของระบบซอร์ทเอาท์เพื่อเก็บเกี่ยวหรือรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้คนอื่น ๆ เช่น อีเมล เป็นต้น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ 

บริษัทมีสิทธิตามกฎหมายในการยกเลิกบัญชีที่ละเมิดข้อตกลงในการใช้บริการนี้ทันที นอกจากนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกบัญชีที่ไม่ได้รับการยืนยัน บัญชีที่ไม่มีการใช้งานเป็นเวลานานหรือทำการแก้ไขหรือยุติการให้บริการ 

 

1.2 ข้อกำหนดการใช้งานอุปกรณ์ซอร์ทเอาท์ 

บริษัทขอรับประกันการใช้งานระบบซอร์ทเอาท์ร่วมกับอุปกรณ์ (Hardware) ที่ผู้ใช้งานได้ทำการจัดซื้อจากบริษัท พร้อมกับระบบซอร์ทเอาท์ เป็นระยะเวลา หนึ่ง (1) ปี นับจากวันที่ส่งมอบอุปกรณ์ โดยเมื่อบริษัทตรวจสอบและพิจารณาเห็นว่าอุปกรณ์เกิดความชำรุดบกพร่องอันเนื่องมาจากข้อบกพร่องของอุปกรณ์เอง บริษัทจะดำเนินการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ การรับประกันดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากการกระทำหรือละเว้นการกระทำของผู้ใช้งาน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การทำหล่น การตกกระแทก การสัมผัสกับน้ำ ความชื้น หรือของเหลวอื่นใด การใช้งานผิดวัตถุประสงค์หรือนอกเหนือจากคู่มือการใช้งาน รวมทั้งความเสียหายที่เกิดจากสาเหตุภายนอก อันได้แก่ อุบัติเหตุ วาตภัย หรือเหตุสุดวิสัย การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การดัดแปลงหรือซ่อมแซมโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทอย่างไรก็การรับประกันนี้ไม่ครอบคลุมถึงค่าขนส่งอุปกรณ์ โดยผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งด้วยตนเอง 

 

2. ข้อตกลงและขอบเขตการให้บริการและการสนับสนุน

 

มาตรฐานการสนับสนุน

บริษัทให้บริการสนับสนุนลูกค้าแก่ผู้ใช้งานที่ทำการใช้บริการหรือต่ออายุการเป็นสมาชิกของระบบซอร์ทเอาท์ โดยขอบเขตการสนับสนุนประกอบด้วย การให้คำแนะนำ การแสดงวิธีการใช้งาน และการแสดงขั้นตอนตัวอย่างเกี่ยวกับการใช้งานระบบซอร์ทเอาท์ ทั้งนี้ การสนับสนุนตามมาตรฐานของบริษัท มิได้รวมถึงการให้บริการเพิ่มเติมใดๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น รวมทั้งการติดตั้งข้อมูลของผู้ใช้งานทั้งหมด และผู้ใช้งานตกลงยอมรับว่าบริษัทไม่มีภาระผูกพันในการให้บริการสนับสนุนนอกเหนือจากขอบเขตที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขนี้ 

 

การแก้ไขปัญหา 

ผู้ใช้งานสามารถแจ้งปัญหาที่พบบนแพลตฟอร์มของระบบซอร์ทเอาท์ ได้ทันทีผ่านช่องทางการสื่อสารที่บริษัทกำหนดไว้ โดยบริษัทอาจใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาทั่วไปตั้งแต่ สอง (2) วัน ขึ้นไป นับจากวันที่ได้รับแจ้งปัญหา ทั้งนี้ สำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม ฮาร์ดแวร์ หรือเครือข่ายของผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตามบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาว่าปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อบริษัทสามารถตรวจสอบข้อมูลและส่งหลักฐานแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มของบริษัททำงานอย่างถูกต้องแล้ว และผู้ใช้บริการตกลงยอมรับการพิจารณาและการแก้ไขปัญหาตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้ 

 

3. นโยบายการคืนเงิน

เมื่อสถานะการเป็นสมาชิกของผู้ใช้งานได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว คำขอคืนเงินใดๆ จะไม่ได้รับการอนุมัติ เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดโดยตรงของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ หากผู้ใช้งานมีข้อสงสัยว่าระบบซอร์ทเอาท์เป็นซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมหรือมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับคุณสมบัติของบริการ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอทดลองใช้บริการฟรีเป็นระยะเวลา สิบห้า (15) วัน พร้อมทั้งการให้บริการสนับสนุนเพิ่มเติม บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบในความเสียหายที่นอกเหนือจากความเสียหายธรรมดาที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบซอร์ทเอาท์ และในกรณีที่บริษัทต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบซอร์ทเอาท์  

บริษัทขอจำกัดวงเงินในการชดเชยรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดไม่เกินจำนวนเงินค่าใช้บริการที่ผู้ใช้งานได้ชำระให้แก่ซอร์ทเอาท์ทั้งหมดภายในระยะเวลา หนึ่ง (1) ปี ย้อนหลังนับแต่วันที่เกิดความผิดพลาดของระบบซอร์ทเอาท์และผู้ใช้งานตกลงยอมรับข้อจำกัดความรับผิดชอบดังกล่าว 

 

4. คำขอการลบข้อมูลผู้ใช้

ผู้ใช้งานมีสิทธิเข้าร้องขอการลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ของตน ซึ่งทางบริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ การขอการลบข้อมูลสามารถทำได้โดยการติดต่อเราทางอีเมลที่ support@zortout.com หรือผ่านพอร์ทัลบริการลูกค้าของบริษัทที่https://zortout.com/contactหลังจากได้รับคำขอการลบข้อมูล บริษัทจะทำการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ และดำเนินการลบข้อมูลทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับบัญชีที่ระบุออกจากระบบให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทไม่รองรับการขอการลบข้อมูลแบบบางส่วน เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น ผู้ใช้จะได้รับการยืนยันการลบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว 

 

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคลผู้ใช้งานสามารถขอให้ลบข้อมูล หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้ – เมื่อหมดความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล – เมื่อผู้ใช้งานเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่มีเหตุผลตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไป – เมื่อผู้ใช้งานคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว – เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกประมวลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยผู้ใช้งานสามารถแจ้งคำขอเพื่อลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยส่งอีเมลมาที่Dpo@zortout.com 

 

 

5. การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้หรือการบริการของซอร์ทเอาท์

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ได้ตลอดเวลา โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งล่วงหน้าผ่านทางช่องทางต่างๆ ไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนการบังคับใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับและมีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายกับคุณนับตั้งแต่พ้นระยะเวลาที่กำหนดเมื่อได้มีการประกาศบนเว็บไซต์ของเราแล้ว สำหรับเรื่องของการให้บริการหรือเมื่อบริษัทใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงโดยวิธีอื่น โปรดตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้เป็นประจำสำหรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลง การใช้บริการนี้ต่อไปภายหลังจากมีการประกาศข้อกำหนดและเงื่อนไขบนเว็บไซต์แล้วหรือเมื่อบริษัทมีการแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงเรื่องนี้ในช่องทางอื่น ถือว่าคุณตกลงและยอมรับที่จะมีผลผูกพันธ์ตามกฎหมายสำหรับข้อตกลงและเงื่อนไขที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง 

 

ข้อตกลงการใช้งานระหว่าง ZORT Platform และผู้ใช้งาน 

 

ข้อกำหนดฉบับนี้ได้ถูกทำขึ้นและยินยอมโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท และข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่น รวมทั้งนโยบายต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้งาน รูปแบบ และการส่งเสริมการขายบางประการ รวมทั้งการบริการแก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นส่วนหนึ่งและรวมอยู่ในข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ (รวมเรียกว่า “ข้อกำหนดและเงื่อนไข”) โดยการใช้บริการ  ผู้ใช้งานยอมรับว่าได้อ่าน เข้าใจและตกลงที่จะผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ และผู้ใช้บริการตกลงใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ประกอบการขนส่งสินค้า ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

 
สิทธิ์และหน้าที่ของ ZORT Platform

 

1. ZORT Platform เป็นเพียงตัวกลางระหว่างผู้ใช้งานและผู้ให้บริการขนส่ง (Logistics Provider) เท่านั้น โดย ZORT Platform จะให้บริการในส่วนของการเรียกใช้บริการขนส่งสินค้า และส่งต่อข้อมูลรายการส่งไปยังผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider ผ่านระบบ Application Programming Interface (API) 

 

2. ZORT Platformมีหน้าที่ดำเนินการส่งต่อข้อมูลการจัดส่งไปยังผู้ให้บริการขนส่งLogistics Provider และแสดงสถานะการจัดส่งในระบบโดยอ้างอิงข้อมูลจากผู้ให้บริการขนส่ง ตั้งแต่ขั้นตอนการส่งสินค้าตลอดจนสินค้าถึงมือผู้รับ

 

3. ZORT Platformมีสิทธิ์ในการชำระค่าจัดส่งที่ได้รับจากผู้ใช้งานให้แก่ผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider รวมถึงค่าประกันสินค้าที่จัดส่งตามที่ผู้ใช้บริการได้มีการระบุและร้องขอไว้ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) 

 

3.1 อัตราค่าจัดส่งให้เป็นไปตามที่ ZORT Platform กำหนด โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบอัตราค่าบริการส่งพัสดุ ที่หน้าบริการเรียกขนส่งบน ZORT Platform 

 

3.2  เมื่อมีนโยบายของรัฐบาล เช่น ราคาเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น ราคาไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น หรือปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อการอัตราค่าจัดส่งของผู้ให้บริการส่งสินค้า ZORT Platform มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงอัตราค่าจัดส่ง 

 

3.3 หากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าจัดส่ง ZORT Platform จะมีการประกาศให้ผู้ใช้งานให้ทราบล่วงหน้า 

 

3.4 รูปแบบในการคำนวณค่าจัดส่งจะคำนวณตามน้ำหนักหรือขนาดกล่องบรรจุสินค้า อย่างใดอย่างหนึ่งที่มีจำนวนมากกว่า โดยขนาดและน้ำหนักที่รับจัดส่งพัสดุ ให้เป็นไปตามที่ Logistics Provider กำหนด 

 

4. ZORT Platformมีหน้าที่เป็นตัวกลางให้บริการขนส่งแบบชำระเงินปลายทาง โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขการให้บริการเก็บเงินและการชำระเงินปลายทาง (Cash on Delivery)ดังต่อไปนี้ 

 

4.1 ในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการจัดส่งสินค้าโดยเลือกวิธีการชำระเงินปลายทาง ZORT Platform มีสิทธิ์รับยอดชำระปลายทางแทนผู้ใช้บริการ และ ZORT Platform มีหน้าที่คืนยอดชำระปลายทางดังกล่าวตามจริงให้แก่ผู้ใช้งานในภายหลัง 

 

4.2 ZORT Platform ทำการเก็บค่าบริการชำระเงินปลายทางจากมูลค่าของสินค้าเมื่อทำธุรกรรมเสร็จสิ้นในแต่ละคร้ัง เพื่อให้ ZORT Platform ส่งต่อค่าบริการชำระเงินปลายทางดังกล่าวให้กับผู้ให้บริการขนส่ง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกรายละเอียดเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หลังมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกรายละเอียดข้อกำหนด บริษัทจะแจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์ หากคุณยังคงใช้บริการ ZORT Platform หลังมีการแจ้งข่าวการเปลี่ยนแปลง จะถือว่าผู้ใช้งานได้อ่าน เข้าใจ และยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดโดยผู้ใช้งานตกลงและเข้าใจว่าค่าบริการส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางภายใต้ข้อกำหนดนี้จะมีการหักค่าภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด 

 

4.3 ZORT Platform จะทำการโอนเงินค่าสินค้าที่ได้รับจากการเก็บปลายทาง ให้กับผู้ใช้งานตามที่ผู้ให้บริการขนส่งมีการชำระเงินดังกล่าวมาให้ยัง ZORT Platform แล้วเท่านั้น หากวันดังกล่าวตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใช้งานจะได้รับเงินในวันถัดไป หรือหากมีการเปลี่ยนรอบในการโอนเงิน ZORT Platform จะมีการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบภายใน วันทำการ โดยจำนวนเงินที่ผู้ใช้งานได้รับจะถูกหักค่าธรรมเนียมบริการชำระเงินปลายทาง ตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการให้บริการเก็บเงินและการชำระเงินปลายทาง ข้อ 4.2 

 

4.4 การจัดส่งพัสดุจะสำเร็จสมบูรณ์เมื่อ ZORT Platform ได้รับยอดชำระเงินปลายทางจากผู้ให้บริการขนส่ง และผู้ซื้อได้ลงชื่อรับพัสดุดังกล่าวแล้ว 

 

4.5 ในกรณีที่การจัดส่งพัสดุสำเร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ผู้ซื้อได้ส่งคืนพัสดุเนื่องจากปัญหาของผู้ใช้งานเอง  ผู้ใช้งานมีหน้าที่ในการประสานงานหรือคืนเงินที่ได้รับชำระปลายทางกับผู้รับเอง โดย ZORT Platform ไม่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบการส่งคืนพัสดุหรือคืนเงินดังกล่าว 

 

4.6 ในกรณีที่เกิดความผิดปกติในการนำส่งคืนค่าสินค้าเก็บเงินปลายทาง ผู้ใช้งานจะแจ้งให้ ZORT Platform ทราบเกี่ยวกับความผิดปกตินั้นภายใน 15 วันหลังจากที่ได้มีการออกการยืนยันการรับ-ส่งสินค้า Proof of Delivery (POD) ZORT Platform จะไม่รับผิดชอบต่อข้อเรียกร้องใด ๆ ที่เกินกว่า 15 วันหลังจากที่ได้มีการกรอก ยืนยันการรับ-ส่งสินค้า Proof of Delivery(POD) 

 

 

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการขนส่งจาก Logistics Provider ผ่าน ZORT Platform 

 

1. การดำเนินการขนส่งสินค้า

 

1.1 สินค้าทุกชิ้นที่ผู้ใช้งานทำการเรียกใช้บริการขนส่งด้วย Logistics Provider ผ่าน ZORT Platform ให้ใช้อัตราค่าจัดส่งตามที่กำหนดไว้ในเว็บไซต์ของผู้ให้บริการขนส่ง 

 

1.2 ภูมิภาคที่จัดส่งซึ่งหมายถึงสถานที่รับสินค้าของผู้รับ โดยครอบคลุมอาณาเขตในประเทศไทย ทั้งนี้ ข้อกำหนดและเงื่อนไขของ Logistics Provider 

 

1.3 ผู้ใช้งานมีหน้าที่ในการชำระค่าจัดส่งให้แก่ ZORT Platform โดยค่าจัดส่งจะคำนวณตามน้ำหนักหรือขนาดกล่องบรรจุสินค้า อย่างใดอย่างหนึ่งที่มีค่าบริการมากกว่า หรือแล้วแต่ทาง ZORT Platform จะกำหนด โดยจะมีประกาศให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าภายใน วัน 

 

2. บริการขนส่งพัสดุแบบเก็บเงินปลายทาง

 

2.1 โดยการเพิ่มประสิทธิภาพบริการส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางของ Logistics provider ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้งานตกลงและให้สิทธิ ZORT Platform มอบหมายหรือแต่งตั้งบริษัท,บริษัทในเครือหรือบุคคลที่สามของ Logistics provider สำหรับบริการส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางตามดุลยพินิจของ ZORT Platform แต่เพียงผู้เดียว โดย Logistics provider จะทำหน้าที่แทนและรับรองการดำเนินการให้บริการส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง โดยจะคุ้มครองสิทธิสำคัญทั้งหมดและดำเนินการให้บริการส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ตามวัตถุประสงค์ของข้อกำหนดฉบับนี้ 

 

2.2 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้มูลค่าสูงสุดของการเก็บเงินปลายทางที่จะได้รับการจัดการจาก Logistics provider ต่างๆ 

 

3. การชดใช้ค่าเสียหาย

 

3.1 ในกรณีที่รายงานกับสินค้าที่ได้รับมอบมีความแตกต่างกันในเรื่องจำนวนหรือรายละเอียดของสินค้า  ZORT Platform ไม่ได้มีหน้าที่ในการชดใช้ค่าเสียหายในความสูญหายใด ๆ ของสินค้า อันเกิดจากความผิดของผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider ทั้งนี้ผู้ใช้บริการสามารถเรียกร้องการชดเชยจากผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider โดยตรง 

 

3.2 ในส่วนของการพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการเรียกร้องความเสียหายหรือสูญหายนั้นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider โดย ZORT Platform จะไม่มีความข้องเกี่ยวใด ๆ ต่อข้อพิพาทนี้ 

 

4. การประกัน

 

4.1 การชดใช้ความเสียหายหรือสูญหายของสินค้าโดยการใช้ประกันนั้นให้เป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider 

 

4.2 ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันเพื่อใช้ในการจัดทำประกัน ผู้ใช้บริการต้องชำระตามเงื่อนไขที่ได้มีการตกลงไว้กับผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider  หรือหากต้องการประกันส่วนเสริมเพื่อเพิ่มมูลค่าการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพัสดุ ผู้ใช้บริการสามารถตกลงกับผู้ให้บริการขนส่ง Logistics Provider ด้วยตนเอง 

 

5. สินค้าต้องห้าม ผู้ใช้งานจะไม่ร้องขอให้ ZORT Platform และ Logistics Provider จัดส่งสินค้าซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือสินค้าตามรายการดังต่อไปนี้ หากมีการฝ่าฝืนผู้ใช้งานจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว 

 

5.1 ดินปืน ปืน น้ำมันเชื้อเพลิง สารเคมีที่เป็นพิษ ของมีคม สารเคมีทางการเกษตร และวัตถุอันตรายอื่นๆ; 

 

5.2 บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าและสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

 

5.3 งานศิลปะ ต้นฉบับตัวเขียน ไปรษณียบัตร และจดหมาย 

 

5.4 หลักทรัพย์ เงินสด ธนบัตร บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเงินสด;  

 

5.5 หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ออกโดยเจ้าพนักงานรัฐ หรือเอกสารทางการเงิน เช่น ตั๋วเงินที่ลักษณะเหมือนเงินสด หุ้น ตราสาร ตราสารหนี้ เอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคล ใบเสร็จของคลัง และเอกสารที่มีมูลค่า |

 

5.6 ลักลอบนำสินค้าเข้าหรือออกโดยผิดกฎหมาย เสบียงทางการทหาร ของป่าที่ผิดกฎหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ที่ผิดกฎหมาย และสิ่งอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมายหรือมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน;  

 

5.7 ชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ สัตว์ หรือพืชที่มีชีวิต หรือตายแล้ว 

 

5.8 อาหารสด หรืออาหารที่ทานดิบ ๆ ซึ่งจำเป็นต้องแช่เย็นหรือแช่แข็ง เว้นแต่ว่าวิธีการจัดส่งหรือรับสินค้านั้น ๆ จะต้องมีการทำข้อตกลงแยกออกมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรโดยได้รับความยินยอมจากคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย 

 

5.9 สินค้าอื่น ๆ ที่ Logistics Provider แจ้งให้แก่ผู้ใช้บริการทราบผ่านเว็ปไซต์ของ Logistics Provider เป็นครั้งคราวว่าไม่สามารถจัดส่งได้ตามกฎหมาย 

 

สิทธิ์และหน้าที่ของผู้ใช้งาน 

 

1. ผู้ใช้งานมีหน้าที่ในการชำระค่าจัดส่ง ค่าประกันสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) ให้แก่ZORT Platform  

 

2. ห้ามมิให้ผู้ใช้งานเปิดเผยรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้าหรือรายละเอียดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าผ่านบริการขนส่งของZORT Platform แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก ZORT Platform ไม่ว่าโดยรูปแบบใด ๆ แก่บุคคลภายนอก 

 

3. ผู้ใช้งานรับรองว่าสินค้าที่ได้ส่งนั้นเข้าตามเงื่อนไขของสัญญาฉบับนี้ และไม่ละเมิดสิทธิ์ของLogistics Provider หรือบุคคลที่สาม หรือสินค้าต้องห้าม หากมีการละเมิดใดๆ ผู้ใช้งานจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับ Logistics Provider หรือบุคคลอื่น 

 

4. เพื่อให้การส่งสินค้าของผู้ใช้งานเป็นไปอย่างถูกต้อง ผู้ใช้งานจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องแท้จริงแก่ZORT Platform และ Logistics Provider เกี่ยวกับ น้ำหนัก ขนาด เงื่อนไขพิเศษ ที่อยู่ ข้อมูลและหมายเลขติดต่อ สำหรับสินค้าที่มีลักษณะพิเศษ (เช่น ขนาดใหญ่กว่ามาตรฐาน น้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน แตกหักง่าย รั่วไหลง่าย เป็นต้น) ผู้ใช้งานจะต้องระบุข้อมูลทางเทคนิค สัญลักษณ์ หรือสลากคำเตือนให้ ZORT Platform และ Logistics Provider ล่วงหน้า 

 

5. ผู้ใช้งานรับทราบดีว่าการใช้หีบห่อที่จัดให้โดยLogistics Provider (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ) ไม่ได้รับประกันความปลอดภัยในการป้องกันพัสดุระหว่างจัดส่ง โดยผู้ใช้งานมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้แน่ใจว่าสินค้าทุกชิ้นต้องบรรจุอย่างเหมาะสมในกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อการจัดส่งที่เหมาะสำหรับสินค้า น้ำหนักและจำนวนของสินค้า เพื่อป้องกันการเสียหายใดๆ ที่อาจขึ้นเกิดกับสินค้าตามมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์ที่ต้องไม่ต่ำกว่านโยบายด้านบรรจุภัณฑ์ของ Logistics Provider ที่แจ้งให้ทราบเป็นครั้งคราว และ Logistics Provider สามารถร้องขอให้แก้ไขบรรจุภัณฑ์ใหม่ก่อนรับสินค้าดังกล่าว หาก Logistics Provider เห็นว่าบรรจุภัณฑ์นั้นไม่เหมาะสมกับการจัดส่งและอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าหรือสินค้าอื่นๆ หรือเพื่อรักษาความสะอาด และความปลอดภัยของสินค้าทั้งหมด 

 

เงื่อนไขในการบอกเลิกสัญญา

 

1. การบอกเลิกสัญญา

 

1.1 หากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อรวมกันของสัญญาฉบับนี้และไม่จัดการแก้ไขเหตุแห่งการผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวภายในระยะเวลา  15 วันตามปฏิทิน คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์บอกเลิกข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวด้วยถ้อยคำหรือเป็นหนังสือไปยังคู่สัญญาอีกฝ่าย และให้ถือว่าสัญญาสิ้นสุดลงทันที 

 

1.2 ในกรณีที่เกิดประเด็นเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แห่งประเทศไทยในประกอบการพิจารณาใช้บังคับ 

 

1.3 หากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาไม่ได้ใช้สิทธิ์ดังกล่าวตามที่ระบุไว้ข้างต้น สิทธิ์ในการบอกเลิกข้อกำหนดและเงื่อนไขนั้นยังคงอยู่ไม่สิ้นผลไปจนกว่าคู่สัญญาฝ่ายที่ผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขจะทำการแก้ไขให้เสร็จสมบูรณ์ 

 

2. เหตุสุดวิสัย

 

2.1 เหตุสุดวิสัยหมายถึงเหตุการณ์หนึ่งหรือหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยู่เหนือการควบคุมของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งส่งผลต่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ และทำให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขได้ โดยเหตุสุดวิสัยนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียงไฟไหม้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การกักกันเรือ การนัดหยุดงานหรือปัญหาด้านแรงงานอื่น ๆ สงคราม ความโกลาหล การกบฏ การจลาจลของประชาชน อนาธิปไตย โรคระบาดร้ายแรง การทำลายล้าง หรือนโยบายของรัฐบาลที่เป็นทางการและเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ เช่นเดียวกับเรื่องอื่น  ๆ ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และอยู่เหนือการควบคุมของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม ดินถล่ม แผ่นดินทรุด ไต้ฝุ่น พายุ ลูกเห็บ การออกกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งใหม่ การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ การปิดพรมแดน สงครามและความขัดแย้งทางอาวุธ การปฏิวัติ การรัฐประหาร การจราจลขนาดใหญ่ การก่อการร้าย การบุกรุก การพัง/ขัดข้องของระบบโครงข่ายสื่อสารหลัก การขัดข้องของระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ การโจมตีทางไซเบอร์ขนาดใหญ่ (ที่กระทบทั้งระบบ) การขัดข้องของระบบคมนาคมสาธารณะ การระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง (เช่น COVID-19) การประกาศการควบคุมโรค การล็อกดาวน์ เป็นต้น  และคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ 

 

2.2  คู่สัญญาฝ่ายที่ประสบเหตุสุดวิสัยไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลของเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวคือคู่สัญญาฝ่ายนั้นไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยนั้น 

 

การรักษาความลับ

 

1. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาความลับของข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้และข้อกำหนด เงื่อนไขทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง มิเปิดเผยต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหรือมีคำสั่งจากองค์กรที่มีอำนาจให้เปิดเผยข้อมูลหรือข้อมูลดังกล่าวได้กลายเป็นข้อมูลที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

 

2. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าพนักงานของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายนั้นได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันในการรักษาความลับที่เกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้

 

3. ข้อตกลงในการรักษาความลับจะมีผลผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายนับแต่ที่ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้บังคับใช้ และยังมีผลบังคับใช้ต่อไปเป็นระยะเวลาปีนับแต่ที่ผู้ใช้บริการตกลงยินยอม 

 

4. ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเลยหรือฝ่าฝืนข้อผูกพันในการรักษาความลับดังกล่าวข้างต้น คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้ อีกทั้งคู่สัญญาฝ่ายที่ฝ่าฝืนหรือละเลยนั้น ทั้งนี้ คู่สัญญาฝ่ายที่ละเลยหรือฝ่าฝืนนั้นต้องรับผิดชอบต่อการเรียกร้องความเสียหายใด ๆ จากบุคคลภายนอก

 

การเปิดเผยข้อมูล

 

วัตถุประสงค์หลักของบริษัทสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในการลงทะเบียน คือเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการของบริษัท ให้การสนับสนุนลูกค้า และเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 

 

ผู้ใช้งานตกลงว่าเราสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเพื่อ: 

 

  • ให้สิทธิ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ บริการ และการสนับสนุนลูกค้าตามที่ร้องขอ 
  • ป้องกัน ตรวจจับ และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย และกิจกรรมที่อาจผิดกฎหมาย รวมถึงบังคับใช้ตามข้อตกลงผู้ใช้ 
  • ปรับแต่งและปรับปรุงบริการ เนื้อหา และโฆษณาของเรา 
  • ติดต่อผู้ใช้ทั้งทางอีเมลหรือโทรศัพท์ เพื่อแก้ไขข้อพิพาท เรียกเก็บค่าธรรมเนียม แก้ไขปัญหา หรือให้ข้อมูลอัปเดตบริการและข้อเสนอส่งเสริมการขาย 
 
บทบัญญัติอื่น ๆ

 

1. ในกรณีที่มีประเด็นใดเกิดขึ้นและไม่ได้ถูกระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้และ/หรือบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้และ/หรือเอกสารแนบท้าย คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมลงนามทั้งสองฝ่ายจึงจะสามารถบังคับใช้ได้ และให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้

 

2. ภายในระยะเวลาของข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ไม่อนุญาตให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโอนสิทธิ์หรือมอบหมายสิทธิ์และข้อผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ต่อบุคคลที่สามไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับความยินยอมคู่สัญญาอีกฝ่าย

 

3. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้และไม่ถือว่าเป็นการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไข หากการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวได้มีการลงนามและจัดทำโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

 

4. ความรับผิดชอบเกี่ยวกับภาษีและหน้าที่อื่นใดของคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีที่บังคับใช้

 

5. กรณีเกิดข้อพิพาทขึ้นตามสัญญาฉบับนี้ ให้ใช้กฎหมายของประเทศไทยในการใช้บังคับ

 

เมื่อยินยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ทันที 

 

สัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

สัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“สัญญา”) มีผลบังคับใช้ประกอบกับข้อตกลงการใช้บริการของซอร์ทเอาท์ (“สัญญาหลัก”) เมื่อคุณตกลงยินยอมตามสัญญาหลัก ระหว่าง บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด สำนักงานตั้งอยู่ที่ 188 อาคารสปริง ทาวเวอร์ ชั้น 20 ยูนิต 1-2 ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานครต่อไปนี้เรียกว่า (“ซอร์ทเอาท์”) กับ คุณต่อไปนี้เรียกว่า (“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”) 

 

ตาม สัญญาหลัก ดังกล่าวกำหนดให้ คุณมีหน้าที่และความรับผิดชอบในส่วนของการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวประกอบด้วยการมอบหมายหรือแต่งตั้งให้ ซอร์ทเอาท์ เป็นผู้ดำเนินการกระบวนการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของคุณ

คุณ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ กำหนดรูปแบบและกำหนดวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้มอบหมายให้ ซอร์ทเอาท์ ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้บริการของซอร์ทเอาท์ตามสัญญาหลัก 

 

ข้อ 1. คำนิยาม 

 

ภายใต้วัตถุประสงค์ของสัญญาฉบับนี้ ให้คำนิยามมีความหมายดังต่อไปนี้ 
ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ประมวลผลข้อมูลโดยซอร์ทเอาท์ในนามหรือตามคำสั่งของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามสัญญาหลัก 
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลหรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศอื่น 
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ซอร์ทเอาท์ 
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลช่วง” หมายถึง บุคคลใด ๆ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยหรือในนามของซอร์ทเอาท์เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสัญญานี้ 
ให้คำว่า “คณะกรรมการ” “ผู้ควบคุมข้อมูล” “เจ้าของข้อมูล” “ข้อมูลส่วนบุคคล” “สำนักงาน” และคำนิยามใด ๆ มีความหมายและการตีความอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย 

 

ข้อ 2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล 


ซอร์ทเอาท์ตกลงจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ส่งหรือจะส่งให้แก่ซอร์ทเอาท์ และจะไม่ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใด ๆ เว้นแต่คำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด 

 

ข้อ 3. หน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตกลงจะดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 

3.1 พิจารณาถึงลักษณะ บริบท ขอบเขต และวัตถุประสงค์ในการประมวลข้อมูลส่วนบุคล รวมถึงประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้น และความร้ายแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตกลงจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อให้มั่นใจว่ามีระดับความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และมาตรการดังกล่าวนี้ได้สอดคล้องกับมาตรา 37 (1) ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย 

 

3.2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตกลงจะกำหนดมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 3.1 ดังกล่าวข้างต้นลงในนโยบายคุ้มครองข้อมูลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามสัดส่วนเท่าที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล 

 

3.3 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตกลงจะจัดให้มีมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลมีการประมวลผลเท่าที่จำเป็น รวมถึงจำนวนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ขอบเขต ระยะเวลาการเก็บรักษา และการเข้าถึงข้อมูล โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกจำกัดไม่ให้มีการถูกแทรกแซงโดยบุคคลอื่น 

 

3.4ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรับทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อคุ้มครองให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย 

 

ข้อ 4. หน้าที่ของซอร์ทเอาท์

 

ซอร์ทเอาท์ตกลงจะดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 

 

4.1 ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 

 

4.2 ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น 

 

4.3 ทำให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับหรือดำเนินการตามกฎหมายอย่างเหมาะสม 

 

4.4 ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อทำให้มั่นใจว่าระดับความมั่นคงปลอดภัยเป็นไปอย่างเหมาะสมตามความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล และมาตรการดังกล่าวนี้ได้สอดคล้องกับมาตรา 40 (2) ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย 

 

4.5 ไม่ช่วงงานที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลช่วง เว้นแต่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ซอร์ทเอาท์ยังต้องเป็นผู้รับผิดชอบงานที่ช่วงไปนั้น รวมถึงต้องดำเนินการให้ผู้ประมวลผลข้อส่วนบุคคลช่วงที่รับช่วงงานปฏิบัติตามสัญญาฉบับนี้และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตกลงและรับทราบดีกว่าซอร์ทเอาท์มีการเก็บรักษาข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไว้บนระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ อะซัว (Microsoft Azure) ณ ประเทศสิงคโปร์ 

 

4.6 สนับสนุนผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มความสามารถโดยการใช้มาตรการทางเทคนิคและองค์กรที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการตอบสนองต่อคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด 

 

4.7 ซอร์ทเอาท์ต้องแจ้งให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทราบทันทีเมื่อเกิดเหตุการรั่วไหล การละเมิด การเข้าถึง ใช้ หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต 

 

4.8 เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเห็นสมควร ซอร์ทเอาท์จะต้องดำเนินการลบหรือส่งคืนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดภายหลังจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นสุด รวมถึงการลบสำเนาข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปได้ 

 

4.9 เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ ซอร์ทเอาท์จะต้องจัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตรวจสอบถึงการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อให้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้มีอำนาจของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ 

 

4.10 ปกป้องและชดใช้ความสูญเสีย ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นผลมาจากการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือการกระทำผิดข้อใดข้อหนึ่งในสัญญาฉบับนี้ของซอร์ทเอาท์ 

 

4.11 ไม่ถ่ายโอนหรือยินยอมให้มีการถ่ายโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ซอร์ทเอาท์จะทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการให้บริการและภายใต้สัญญา 

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตกลงและรับทราบดีกว่าซอร์ทเอาท์มีการเก็บรักษาข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีการโอนข้อมูลดังกล่าวไว้บนระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ อะซัว (Microsoft Azure) ณ ประเทศสิงคโปร์ 

 

ข้อ5. ข้อกำหนดทั่วไป 

 

5.1 การรักษาความลับ 

คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเก็บรักษาสัญญา และข้อมูลที่ได้รับจากคู่สัญญาภายใต้สัญญาฉบับนี้ (“ข้อมูลที่เป็นความลับ”) ไว้เป็นความลับ และจะต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากคู่สัญญาอีกฝ่าย เว้นแต่ กฎหมายกำหนดให้เปิดเผย และ/หรือเป็นข้อมูลที่เปิดเผยแก่สาธารณะแล้ว 

 

5.2 การแจ้ง 
การแจ้ง และการสื่อสารทั้งหมดภายใต้สัญญาฉบับนี้จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และจะต้องจัดส่งทางอีเมลหรือทางไปรษณีย์ที่ระบุไว้ตามสัญญาฉบับนี้ ซึ่งที่อยู่อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้เป็นครั้งคราว 

 

ข้อ 6. กฎหมายที่ใช้บังคับ และเขตอำนาจศาล 

 

6.1 สัญญาฉบับนี้อยู่ภายใต้กฎหมายไทย 

 

6.2 ข้อพิพาทใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาฉบับนี้ ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถยุติลงได้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจ 

 

ข้อ 7. การบังคับใช้สัญญา 


สัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ลงนามโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเป็นต้นไป และให้ถือว่าสัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหลักด้วย หน้าที่และความรับผิดของซอร์ทเอาท์ในการปฏิบัติตามข้อตกลงจะสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ซอร์ทเอาท์และผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตกลงยกเลิกสัญญาหลัก การสิ้นผลลงของข้อตกลงนี้ ไม่กระทบต่อหน้าที่ของในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้กำหนดในข้อ4.8ของข้อตกลงฉบับนี้ 

 

มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป