วิธีขอคืนเงินภาษีปี 2566 กับสิทธิ์ในการลดหย่อนแบบเข้าใจง่ายที่ต้องรู้
ทำความเข้าใจวิธีการขอคืนเงินภาษีอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเช็คสถานะภาษี ตรวจสอบขอคืนภาษี และอื่น ๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญทั้งมือใหม่และมือเก่าต้องรู้ในทุกปี เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์ของตัวเอง โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่พึ่งก้าวเข้าสู่วัยทำงานหลายคนอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ในการเสียภาษีหรือไม่เข้าใจว่าการยื่นภาษีคืออะไร จนเกิดข้อสงสัยและคำถามมากมาย ซึ่งจะพาไปรู้ขั้นตอนและวิธีการเช็คคืนภาษีว่าทำอย่างไร ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ลดหย่อนได้ และเช็คสถานะภาษีได้ที่ไหน รวมไปถึงถ้ายื่นภาษีไม่ทันควรทำอย่างไร
ภาษี คืออะไร
ก่อนที่จะเสียภาษีหรือขอคืนเงินภาษี มาเริ่มทำความรู้จักพื้นฐานเกี่ยวกับคำว่า “ภาษี” ว่าคืออะไร ซึ่งภาษีเป็นภาระที่ประชาชนมีหน้าที่ต้องนำส่งให้แก่ภาครัฐตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อสนับสนุนรัฐและกิจการของรัฐ โดยอาจจะอยู่ในรูปของเงินหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเงินที่จ่ายจะถูกนำไปใช้ในการบริหารประเทศ ภาคส่วน หรือท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม เมื่อคุณได้ทำการจ่ายภาษีหรือเป็นผู้เสียภาษีแล้ว อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์จากภาษีตอบแทนกลับมาโดยตรง
ค่าใช้จ่ายที่นำมาลดหย่อนหรือขอคืนเงินภาษีปี 2566 มีอะไรบ้าง
รู้หรือไม่ว่า ? ค่าใช้จ่ายบางรายการสามารถนำมาลดหย่อนภาษีเพื่อใช้ขอคืนเงินภาษีในแต่ละปีได้ซึ่งมีรายการสำคัญยอดนิยมที่สามารถนำไปขอคืนได้ มาเช็คเงินคืนภาษีปี 2566 ว่ามีอะไรกันบ้าง
รายการลดหย่อนภาษี | อัตราการลดหย่อนภาษี |
ค่าลดหย่อนส่วนตัว | จำนวน 60,000 บาทซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ |
ค่าลดหย่อนคู่สมรส | จำนวน 60,000 บาท (ต้องเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องถามกฎหมาย และคู่สมรสจะต้องไม่มีรายได้) |
ค่าลดหย่อนบุตร | คนละ 30,000 บาท (บุตรบุญธรรมถูกกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรมไม่เกิน 20 ปี หรือไม่เกิน 25 ปี และกำลังศึกษาอยู่) แต่หากอายุเกิน 25 ปีต้องเป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หากมีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไปเกิดในปี พ.ศ. 2561 ก็สามารถลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท |
ค่าลดหย่อนบิดามารดา | คนละ 30,000 บาทโดยสูงสุดไม่เกิน 4 คน หรือสามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 120,000 บาท |
ค่าลดหย่อนผู้พิการ หรือทุพพลภาพ | คนละ 60,000 บาทซึ่งผู้พิการต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและมีบัตรประจำตัวผู้พิการ รวมถึงจะต้องมีหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ |
ค่าฝากครรภ์และทำคลอด | ตามที่จ่ายจริงในการฝากครรภ์และทำคลอดซึ่งเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินท้องละ 60,000 บาท |
ค่าเบี้ยประกันชีวิต | ตามที่จ่ายจริงซึ่งเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท (ส่วนคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้จะลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 10,000 บาท) |
เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 15,000 บาท |
เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 25,000 บาทและเมื่อรวมกับเบี้ยประกันทั่วไปจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
กบข./กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 15% ของเงินเดือนและเมื่อรวมกันทั้งหมดต้องไม่เกิน 500,000 บาท |
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีโดยเมื่อรวมกับข้อ 10 จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท |
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาทเมื่อรวมกับข้อ 10 และ RMF ที่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท |
เงินประกันสังคม | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 9,000 บาท |
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 13,200 บาทเมื่อรวมกับข้อ 10 และ RMF และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญต้องไม่เกิน 500,000 บาท |
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 200,000 บาทเมื่อรวมกับข้อ 10 และ RMF และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญและกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท |
ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
เงินบริจาคพรรคการเมือง | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 10,000 บาท |
เงินลงทุนธุรกิจ (Social Enterprise) | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
ช้อปดีมีคืน 2565 | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 30,000 บาท |
เงินบริจาคเพื่อการศึกษา/การกีฬา/การพัฒนาสังคม/โรงพยาบาลรัฐ | 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 10% – ของเงินหลังจากหักค่าลดหย่อน |
เงินบริจาคทั่วไป | ตามที่จ่ายจริงโดยจะต้องไม่เกิน 10% -ของเงินหลังจากหักค่าลดหย่อน |
เช็คเงินคืนภาษีปี 2566 ได้ช่องทางไหนบ้าง
สำหรับใครที่ต้องการเช็คสถานะภาษีสามารถสอบถามการขอคืนภาษี 2566 ได้ 3 ช่องทาง
ดังต่อไปนี้
- เว็บไซต์กรมสรรพากร http://www.rd.go.th/ > เลือกเมนู e-Refund สอบถามการคืนเงินภาษี และเช็คสถานะภาษีโดยเลือกปีภาษีที่ต้องการค้นหา กรอกชื่อ,สกุล เลขประจำตัวประชาชน หรือเลขผู้เสียภาษีอากร (ระบบจะแสดงปีภาษีให้คัดค้นได้ย้อนหลัง 2 ปีภาษี)
- ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center : 1161)
- สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตามภูมิลำเนาที่ปรากฏในหน้าแบบแสดงรายการ
เมื่อไหร่ถึงจะได้รับการคืนเงินภาษี
เมื่อเช็คภาษีคืนว่ามีการยื่นเอกสารต่าง ๆ ครบเป็นที่เรียบร้อย ทางกรมสรรพากรจะดำเนินการคืนเงินภาษี ภายใน 3 เดือน โดยในกรณีที่มีเอกสารชัดเจนแสดงว่า ได้มีการเสียภาษีไว้เกิน ผิด ซ้ำหรือไม่มีหน้าที่ต้องเสียนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอคืนเงินภาษีด้วยแบบ ภ.ง.ด.90/91 ที่แจ้งความประสงค์ขอคืนเงินภาษี หรือแบบ ค.10.
ยื่นภาษีไม่ทันควรทำอย่างไร
กรณีที่ผู้ยื่นภาษียื่นไม่ทันภายในระยะเวลาที่กำหนดสามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา แต่ทั้งนี้จะมีบทลงโทษจากการชำระภาษีล่าช้าด้วยการเสียค่าปรับและต้องเตรียมเอกสารประกอบการยื่นแบบภาษี ได้แก่ แบบฟอร์ม ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.90. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
เป็นอย่างไรกันบ้างกับแนวทางในการตรวจสอบขอคืนเงินภาษีปี 2566 และเช็คสถานะภาษี ซึ่งไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงอาจจะมีหลายขั้นตอนและต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อให้ไม่เสียเวลา รวมถึงต้องมีการส่งเอกสารในการยื่นภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า หากคุณยื่นเกินระยะเวลาที่ทางกรมสรรพากรกำหนด อาจมีการเสียค่าปรับที่เกิดจากความล่าช้าในการชำระภาษีได้อีกด้วย
โดยคุณสามารถตรวจสอบการเช็คคืนภาษี และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับการขอคืนเงินภาษีปี 2566 ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort