เปรียบเทียบ 10 อันดับบริษัทโลจิสติกส์ เจ้าไหนส่งเร็ง และราคาสุดคุ้ม
ปัจจุบันหลายธุรกิจเริ่มเติบโตเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายสินค้า ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น ห้างสรรพสินค้า รวมถึงธุรกิจ E-commerce ถือว่าเติบโตมากขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมาก ซึ่งแต่ละธุรกิจพยายามงัดกลยุทธ์ที่มีออกมาสู้กัน เพื่อชิงความเปรียบเทียบทางธุรกิจ มีการใส่ใจเน้นเรื่องการบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น จากเดิมที่รอให้ลูกค้าเดินเข้ามาเลือกซื้อสินค้าเอง ก็เปลี่ยนมาขายในรูปแบบออนไลน์ พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้าน จึงทำให้หลายธุรกิจจะต้องใช้บริการบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้าให้กับลูกค้า วันนี้ ZORT จึงได้จัด 10 อันดับบริษัทโลจิสติกส์ ยอดนิยม บริการดี ขนส่งรวดเร็วทันใจ สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย มีบริษัทขนส่งน่าใช้ปี 2023 กันบ้าง มาดูกันเปรียบเทียบ 10 อันดับบริษัทโลจิสติกส์ ขนส่งเจ้าไหนส่งเร็ว ราคาคุ้มกว่ากัน!
แน่นอนเมื่อธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์มีการขยายกิจการเติบโตขึ้น จึงส่งผลให้บริษัทโลจิสติกส์เติบโตขึ้นไปด้วยเช่นกัน ซึ่งในบ้านเราก็มีบริษัทขนส่งหลายเจ้าให้เลือกใช้บริการ แต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันไป อาจทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ได้ว่าเลือกใช้บริการขนส่งไหนดีสุด วันนี้ ZORT เลยจะมาเปรียบเทียบมาให้ดูกันชัด ๆ ไปเลยว่า 10 อันดับบริษัทโลจิสติกส์ เหมาะกับธุรกิจและคุ้มค่ามากที่สุด1. ไปรษณีย์ไทย
จากคำถามที่ว่าขนส่งน่าใช้และน่าเชื่อที่สุด แน่นอนเราก็ต้องยกให้กับบริษัทไปรษณีย์ไทย เป็นบริษัทขนส่งพัสดุของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่อยู่คู่กับคนไทยมานานมาก ๆ ที่มีสาขาบริการทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลที่บริษัทขนส่งเอกชนไปถึง แถมยังมีบริการที่หลากหลาย สามารถส่งพัสดุได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เลือกได้ว่าอยากส่งพัสดุด่วนหรือไม่ด่วน ของชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ส่งได้หมด มีบริการเก็บเงินปลายอีกด้วย เป็นบริษัทขนส่ง 2023 ที่น่าใช้จริง ๆ จุดเด่นของไปรษณีย์ไทย- องค์กรที่เปิดให้บริการมานานและมีความน่าเชื่อถือ
- มีบริการส่งพัสดุหลายรูปแบบ ทั้งของชิ้นเล็กไปจนถึงชิ้นใหญ่
- ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดของประเทศไทย
- เจ้าหน้าที่ส่งพัสดุมีความชำนาญเส้นทาง รู้จักทุกตรอกซอกซอยเป็นอย่างดี
- สามารถตรอบสอบและติดตามสถานะการส่งพัสดุได้ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง
2. Kerry Express
คงไม่มีใครรู้จักบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนที่มาพร้อมความโดดเด่นด้วยสีส้ม แน่นอนว่าขนส่งน่าใช้ปี 2023 ที่กำลังพูดถึงนั้นก็คือ Kerry Express เป็นบริษัทขนส่งเอกชนเจ้าแรกที่มีบริการเก็บเงินปลายทาง ซึ่งถูกอกถูกใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบช้อปออนไลน์ นอกจากนี้ก็มีจุดให้บริการกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ ทั้งสาขา Kerry Express และสาขาที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์อื่น ๆ Kerry Express และสิ่งที่ถูกใจพ่อค้าแม่ออนไลน์คือมีสาขาย่อยที่อยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า จึงถูกให้เป็นขนส่งน่าใช้ในปี 2023 จุดเด่นของ Kerry Express- เก็บเงินปลายทาง (COD)
- เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด
- มีบรการส่งพัสดุแบบ Sameday ส่งเช้าได้รับเย็น
- สามารถเรียกให้เจ้าหน้าที่ไปรับพัสดุที่บ้านไปส่งที่สาขาได้ (เฉพาะพื้นที่ที่กำหนด)
- มีสาขาทั้ง Kerry Express และที่เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกัน เช่น Family Mart เปิด 24 ชั่วโมง, Tops, B2S และตามสถานที่รถไฟฟ้า เป็นต้น
3. J&T Express
หากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ถามว่า ขนส่งไหนดีสุด แนะนำ J&T Express บริษัทขนส่งพัสดุเอกชนสัญชาติฮ่องกง ที่มาพร้อมกับสโลแกน Express Your Online Business โดยมุ่งเน้นให้บริการธุรกิจ E-Commerce พร้อมให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ยังสามารถตรวจสอบการติดตามพัสดุได้ตลอดเวลา มีบริการส่งด่วนภายใน 1 วันถึง ที่สำคัญเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด สะดวกสบายและตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก จุดเด่นของ J&T Express- ให้บริการส่งสินค้าที่หลากหลาย
- มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
- พื้นที่ให้บริการครอบคลุมกว่า 928 อำเภอทั่วประเทศ
- ติดตามพัสดุ ได้ Rail Time ได้ 3 ช่องทาง แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ศูนย์บริการลูกค้า Call Center
4. Flash Express
Flash Express ถือเป็นหนึ่งใน 10 อันดับบริษัทโลจิสติกส์ที่คนไทยนิยมใช้บริการมากเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งเป็นบริษัทบริการด้านโลจิสติกส์ที่ให้บริการแบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ “คิดถึง ส่งถึง In mind In delivery” ถึงแม้ว่าเป็นบริษัทขนส่งน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดให้บริการมาได้เพียง 5 ปี แต่บอกเลยว่ามีลูกค้าใช้บริการเยอะมาก ๆ ด้วยบริการที่ส่งพัสดุรวดเร็ว บริการดี แถมยังเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด จึงถูกใจคนทำธุรกิจออนไลน์ อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ยกให้เป็นขนส่ง 2023 ที่ควรต้องลองใช้บริการ จุดเด่นของ Flash Express- ราคาค่อนข้างถูก
- เปิดให้บริการตลอด 365 วัน ไม่มีวันหยุด
- บริการหลากหลายและเหมาะสมในแต่ละประเภทของผู้ส่ง
- บริการเข้ารับสินค้าถึงหน้าร้านหรือบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- บริการส่งพัสดุรูปแบบ Speed การันตี ส่งช้า คืนค่าจัดส่งให้ทันที
5. Ninja Van
Ninja Van บริษัทขนส่งพัสดุเอกชนจากประเทศสิงคโปร์ที่เข้ามาตีตลาดประเทศไทยได้สำเร็จ ให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 76 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์ธุรกิจ E-commerce ได้ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ราคาไม่แพง สามารถติดตามได้แบบ Real-Time มีบริการส่งพัสดุที่หลากหลายทั้งส่งด่วนและส่งปกติ นอกจากนี้แล้ว Ninja Van ยังร่วมเป็นพันธมิตรแพลตฟอร์มชื่อดังหลายเจ้ามาก ๆ รวมถึง ZORT เพื่อช่วยให้ร้านค้าทำงานได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเอาใจผู้ใช้สุด ๆ จึงถูกยกให้เป็นขนส่งน่าใช้ปี 2023 จุดเด่นของ Ninja Van- เก็บเงินปลายทางได้ทุกที่
- บริการส่งพัสดุสุดด่วนภายใน 1 วัน
- กำหนดจุดรับ-ส่งสินค้า/พัสดุได้ตามใจ
- ฟรีบริการรับพัสดุถึงหน้าบ้าน แบบไม่มีขั้นต่ำ
- สามารถเรียกให้รถเข้ารับพัสดุได้ถึงที่ได้ถึง 1 ทุ่ม
6. Shopee Xpress
Shopee xpress บริษัทให้บริการขนส่งสินค้า ภายใต้การสังกัดของแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังอย่าง Shopee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ขนาดใหญ่ที่มีสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศจึงทำให้ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงที่การันตีมาด้วยความไว้ใจของผู้ใช้งาน จุดเด่นของ Shopee Xpress- นัดรับสินค้า (Pick-up) เรียกรถเข้ารับสินค้าถึงที่
- หรือแบบส่งสินค้าด้วยตัวเอง (Drop-off)
- สามารถปริ้นท์ใบปะหน้าพัสดุได้ง่าย ๆ
- เปิดให้บริการทุกวัน
- บริการดี ส่งไว ปลอดภัย
7. Sendit
Sendit ซึ่งเป็นบริษัท Startup แห่งแรกภายใต้การสนับสนุน และร่วมทุนของ Ascend Group ซึ่งได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2558 โดยมีบริการรับส่งพัสดุ เอกสาร จ่ายเงิน รับเช็ค หรือวางบิลภายในประเทศไทย สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นลูกค้าบริษัท ธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดย่อม หรือบุคคลทั่วไป ยิ่งบริษัทที่ไม่มีเมสเซนเจอร์ต้องการที่จะส่งเอกสารสามารถใช้บริการของ Sendit ได้เลย จะมีเครือข่าย Mr.Send เมสเซนเจอร์มืออาชีพที่ผ่านการตรวจสอบประวัติ และฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ถือเป็นขนส่งน่าใช้ปี 2023 อีกบริษัทหนึ่ง จุดเด่นของ Sendit- ค่าบริการถูก
- มีบริการที่หลากหลาย
- ติดตามพัสดุได้แบบ Real-Time
- มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
8. CJ Logistics
CJ Logistics บริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าเจ้าของธุรกิจนี้คือซัมซุง เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกันดีอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทโลจิสติกส์อาจจะเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มของร้านค้าออนไลน์ เพราะมีบริการในส่วนของการจัดส่งแบบรับจากมือผู้ส่งและไปส่งให้ถึงมือผู้รับ (Door to Door) สามารถจัดส่งพัสดุได้ทั่วประเทศ มีบริการเก็บเงินปลายทางอีกด้วย CJ Logistics ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มธุรกิจออนไลน์ จุดเด่นของ CJ Logistics- บริการรับส่งพัสดุถึงหน้าบ้าน
- มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
- ติดตามสถานะผ่านทางออนไลน์ได้
9. LOGISTIC PLUS
บริษัท โลจิสท์พลัส จำกัด (LOGISTIC PLUS) อีกหนึ่งบริษัทขนส่งน่าใช้ปี 2023 ด้วยบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ ทั้งการบริการดูแลจัดเก็บสินค้าคงคลัง แบบ B2B ให้สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขายส่งหรือขายปลีก หรือบริการดูแลจัดเก็บสินค้าแบบ B2C ในส่วนของ Fulfillment จัดเก็บ แพ็ค จัดส่ง เป็นการให้บริการสำหรับร้านค้าออนไลน์ทุกช่องทาง และสามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ยังมีบริการให้เก็บเงินปลายทางอีกด้วย ใครที่ทำธุรกิจ- มีบริการที่มีความหลากหลาย
- สามารถเรียกเก็บเงินปลายทางได้
- สามารถจัดส่งสินค้าข้ามแดนไปสู่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ได้ภายใน 3 วัน
10. Siam Outlet
ใครที่ทำธุรกิจ- บริการเก็บเงินปลายทาง COD
- บริการจัดส่ง Delivery by Siam Outlet ภายใน 1 วัน
- มีบริการเก็บ แพ็ก ส่งสินค้า e-Fulfillment ครบวงจร
- ลดต้นทุนและประหยัดเวลาให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
- บริการรับสินค้าจากต้นทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort