เลข SKU คืออะไร ทำไมคนทำ E-Commerce ถึงควรรู้ พร้อมประโยชน์ที่ต้องทราบ!

1,741 views

คนทำอีคอมเมิร์ซควรรู้ ! เลข SKU คืออะไรและทำไมถึงต้องมี?

 

คุณกำลังประสบปัญหาในการจัดการสต๊อกสินค้าหรือไม่ ? หากใช่ คุณกำลังเดินมาเจอกับทางที่จะช่วยคุณแก้ปัญหาในจัดสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านระบบที่เรียกว่า SKU ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า SKU คืออะไร แล้วต่างจากรหัสสินค้าอย่างไร พร้อมประโยชน์ที่คุณจะได้รับและตัวอย่าง รวมถึงสิ่งที่คุณควรคำนึงเมื่อสร้าง SKU ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีระบบการจัดสต๊อกที่แข็งแรง ตรวจนับสินค้าได้ไวขึ้น

 

 

SKU คืออะไร

SKU ย่อมาจาก Stock Keeping Unit คือ หน่วยที่ใช้จำแนกประเภทสินค้าที่ช่วยแยกความแตกต่างของสินค้าแต่ละชิ้นและช่วยติดตามสินค้าในคลังว่ามีจำนวนคงเหลือเท่าไร

 

ยกตัวอย่างเช่น 

 

ร้านขายเสื้อยืดซึ่งมีทั้งหมด 4 ขนาดได้แก่ S, M, L และ XL และมีสีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ ขาว ดำ กรม แดง และเหลืองซึ่งทั้งขนาดและสีจะมีการนำ SKU มาใช้เพื่อแยกสินค้าให้ละเอียดมากขึ้นและทุกผลิตภัณฑ์ต้องมี SKU ของตัวมันเอง

 

แล้ว SKU ต่างกับรหัสสินค้าอย่างไร

ปัญหาที่พบบ่อย คือ หลายคนไม่รู้ว่า SKU กับ Parent SKU คือรหัสสินค้าต่างกันโดยรหัสสินค้าจะสามารถกำหนดได้เพียง 1 รหัสต่อ 1 รายการ แต่หากสินค้านั้น ๆ มีรายละเอียดย่อยลงไป เช่น ขนาด ลวดลาย สี ก็จะไม่สามารถใช้รหัสสินค้าแบ่งได้ซึ่งหากจะรู้จำนวนแต่ละแบบที่แน่ชัด เช่น มีเสื้อไซซ์ M สีดำกี่ตัวก็จะต้องอาศัยระบบ SKU เข้ามาเป็นตัวช่วยในการติดตามจำนวนสินค้าเพื่อให้ได้ความละเอียดและแม่นยำขึ้น

 

ตัวอย่าง ร้านขายรองเท้าสนีกเกอร์   

 

Parent SKU (รหัสสินค้า) จะมีรองเท้า AD ที่มี 4 รุ่น คือ รุ่น 001, 002, 003 และ 004 จึงมีการกำหนดรหัสสินค้าออกเป็น 4 อันคือ AD001, AD002, AD003 และ AD004 

 

Stock Keeping Unit (SKU) ซึ่งรองเท้า  AD แต่ละรุ่นมี 3 ไซซ์ คือ 38, 39, 40 และมี 2 สีคือ ขาวและดำ โดยรหัส SKU จะเป็น 

 

Product
AD001 SKUAD002 SKUAD003 SKUAD004 SKU

AD001 Black 38

AD001 Black 39

AD001 Black 40

AD001 White 38

AD001 White 39

AD001 White 40

AD002 Black 38

AD002 Black 39

AD002 Black 40

AD002 White 38

AD002 White 39

AD002 White 40

AD003 Black 38

AD003 Black 39

AD003 Black 40

AD003 White 38

AD003 White 39

AD003 White 40

AD004 Black 38

AD004 Black 39

AD004 Black 40

AD004 White 38

AD004 White 39

AD004 White 40

 

 

6 ประโยชน์ที่คุณจะได้รับหากใช้ระบบ SKU ในการจัดการสต๊อกสินค้า

 

  • อัพเดตระบบสต๊อกได้แม่นยำ ช่วยลดการจัดการสต๊อกจำนวนมากที่มีเป็นเรื่องยากและมีโอกาสเกิดความผิดพลาดให้ไม่เกิดขึ้นด้วยระบบ SKU ที่มีตัวเลือกระบุตัวตน หรือจำแนกสินค้าแต่ละรายการตามยี่ห้อ ขนาด สี ผู้ผลิต หรือตัวเลขบนบาร์โค๊ดให้มีความละเอียดแม่นยำมากขึ้นและระบบก็จะตัดสต๊อกตาม SKU ที่มีการสั่งซื้อไป

     

  • วางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้น สามารถนำไปวางแผนการตลาดเพื่อดึงเอาสินค้าขายดีมาเป็นจุดเด่นชูร้าน หรือทำโปรโมชั่นสินค้าบางตัวที่ขายออกยากได้ง่ายขึ้น

     

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า โดยการจำแนกสินค้าแต่ละประเภทบนชั้นวาง ติดแท๊กเพื่อหาสินค้าได้ง่ายขึ้นทำให้เกิดความรวดเร็วและบริหารสต๊อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     

  • นำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์แนวโน้ม เพราะ SKU จะช่วยให้เรารู้ว่าสินค้าไหนกำลังจะหมดและสามารถสั่งซื้อของมาเติมได้ทันซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่องและรู้ก่อนทำให้ลูกค้าที่กำลังตามหาจากบางร้านที่ของหมดและต้องการหาสินค้าตัวเดียวกันก็ได้เข้ามาเลือกซื้อกลายเป็นลูกค้าในอนาคตได้

     

  • นำข้อมูลไปวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ซื้อได้ เช่น ช่วงนี้รองเท้ายี่ห้อไหนขายดี ไซซ์ที่ซื้อส่วนใหญ่ขนาดเท่าไร สีอะไรซึ่งข้อมูลเหล้านี้จะนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ซื้อเพื่อนำมาปรับปรุงการขายสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและตรงตามความต้องการของผู้ซื้อมากขึ้น

     

  • ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพราะมีระบบติดตามทำให้เห็นว่าสินค้าในคลังมีอยู่เท่าไรและทุกครั้งที่มีการขายจะมีการอัพเดตสินค้าที่เหลือแบบเรียลไทม์ทำให้ได้ข้อมูลอัพเดตตลอดเวลา

     

 

 

3 สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อสร้าง SKU

แม้ระบบ SKU  จะมีประโยชน์อย่างมากในการจัดสต๊อกสินค้าในคลังสินค้าตามโรงงาน ร้านค้า หรือสถานที่จัดเก็บต่าง ๆ แต่ก็ยังมีสิ่งที่อยากให้ผู้ใช้งานคำนึง 3 ข้อเมื่อเริ่มต้นใช้งานระบบ SKU 

  1. การกำหนด Keyword ต้องไม่ซ้ำ ซึ่งควรหาคีเวิรโอะไรบางอย่างที่บอกว่าสินค้าคืออะไรและตั้ง SKU ไม่ให้ซ้ำเพราะถ้าหากซ้ำจะเกิดปัญหาเรื่องการในการหยิบสินค้าที่อาจจะผิดรุ่น ผิดสี หรือผิดยี่ห้อได้

     

  2. ตั้ง SKU ให้สั้น เพราะหากยาวจะทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดกันได้ง่าย

     

  3. เลี่ยงเลขศูนย์ ซึ่งเป็นเลขที่นิยมใช้ตั้งต้นสินค้า แต่อย่าลืมว่าหลาย ๆ ระบบอาทิ Excel จะมีการตัดเลขศูนย์ตัวแรกออกทุกครั้งทำให้เมื่อพนักงานต้องไปหาสินค้าอาจจะไม่เจอ 

 

แล้วจะตั้ง SKU อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ?

หากนำหลักการทั้ง 3 อย่างจากข้างต้นคือการกำหนด Keyword ต้องไม่ซ้ำ ชื่อ SKU ต้องสั้นและเลี่ยงเลขศูนย์ตัวแรกแล้วนำมาใช้ในการจัดการสต๊อกสินค้าร้านขายรองเท้าสนีกเกอร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้  

 

 โดยกำหนดร้ายขายรองเท้าสนีกเกอร์จะมีรองเท้า AD ที่มี 4 รุ่น 3 ไซซ์ (38,39,40)  2 สี (ขาวดำ) ซึ่งอาจจะตั้ง SKU เป็น 

 

  • AD138W คือ รองเท้า AD รุ่น 1 ไซซ์ 38 สีขาว
  • AD239W คือ รองเท้า AD รุ่น 2 ไซซ์ 39 สีขาว
  • AD440B คือ รองเท้า AD รุ่น 4 ไซซ์ 40 สีดำ
  • AD340W คือ รองเท้า AD รุ่น 3 ไซซ์ 40 สีขาว

 

 

คงจะพอเข้าใจระบบ Stock Keeping Unit หรือเลข SKU ที่จะเข้ามาช่วยในการจำแนกสินค้าแต่ละรายการให้มีความละเอียดแม่นยำมากขึ้นทำให้จัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนำไปสู่การต่อยอดที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในการวางแผนเติมสต๊อกสินค้าได้ทันตามความต้องการ คัดสินค้าที่ขายยากมาทำโปรโมชั่นเพื่อปล่อยสินค้าออกได้เร็วขึ้นด้วยระบบการอัพเดตสต๊อกแบบเรียลไทม์ทำให้คนทำงานง่ายและสินค้ากระจายสู่มือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว 

 

แต่ก็ต้องคำนึงถึงการสร้าง SKU ที่ต้องคีเวิร์ดไม่ซ้ำ รหัส SKU สั้นและเลี่ยงเลข 0 ตัวแรกที่ยิ่งช่วยให้ระบบการจัดการสต๊อกสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort

0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x