Pet Humanization คืออะไร? ยุคที่ใครก็ทุ่มเทและเปย์สัตว์เลี้ยงเหมือนลูก
อีกหนึ่งเทรนด์ที่เกิดขึ้นแบบเงียบ ๆ แต่สร้างพลังก่อให้เกิดพฤติกรรมและมุมมองในการเลี้ยงสัตว์แบบเดิม ๆ ให้เปลี่ยนไปนั้น ก็คือ Pet Humanization ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ผ่านหู หรือเห็นการพูดถึงมาบางแล้ว เพราะในช่วงที่ผ่านมากระแสของเทรนด์นี้มาแรง และส่งผลให้คนที่เลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว หรือเพิ่งมาเลี้ยง ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก เปรียบเสมือนเป็นสมาชิกหนึ่งคนในครอบครัวที่ต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วยกัน สำหรับวันนี้จะพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้นว่า Pet Humanization คืออะไรกันแน่
Pet Humanization คืออะไร ?
Pet Humanization อ่านว่า (เพท ฮิวเมินไนซเซเชิ่น) คือพฤติกรรมของเจ้าของที่เลี้ยงสัตว์เหมือนลูกของตัวเอง และเป็นคนสำคัญในครอบครัว ที่เรียกอีกอย่างว่า Pet Parents ที่ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม หรือไปเที่ยวที่ไหน สัตว์เลี้ยงของพวกเขาต้องไปด้วยและร่วมทำสิ่ง ๆ นั้นไปด้วยกัน ที่สำคัญเจ้าของพร้อมทุ่มเททุกอย่างในการเลี้ยงดู ตั้งแต่อาหารการกิน ของเล่น เครื่องใช้ และอื่น ๆ ที่ใส่ใจเป็นอย่างมากในทุกเรื่อง
ซึ่งในการเลี้ยงแบบ Pet Humanization คือจะมีมุมมองและทัศนคติที่แตกต่างกับการเลี้ยงสัตว์ทั่วไป หรือเลี้ยงไว้ใช้เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ ที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้พฤติกรรมการเลี้ยง Pet Humanization มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ผู้เลี้ยงให้ความสำคัญในการเลี้ยงแมวเหมือนลูกและเลี้ยงหมาเหมือนลูก ผู้เลี้ยงเกิดความรักและความผูกพันที่มากขึ้น ทำให้ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของเขาอยากได้อะไรจะต้องหามาให้ และต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงของเขา
เทรนด์ Pet Humanization เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
Pet Humanization ในปี 2023 มีจุดเริ่มต้นมาจากไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมของคนในยุคนี้ ที่ชอบอยู่เป็นโสดไม่ต้องการสร้างครอบครัว หรือแต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก จึงเลี้ยงสัตว์เหมือนลูกมาทดแทน เพื่อเป็นเพื่อนสนิทและพร้อมสนุกกับการใช้ชีวิตไปด้วยกัน เพราะสัตว์เลี้ยงนอกจากจะเป็นเพื่อนยามเหงาแล้ว พวกเขายังช่วยสร้างความสุข ลดความเครียด และเพิ่มสีสันให้ชีวิตได้อีกด้วย
แต่ในช่วงที่โควิด 19 แพร่ระบาด ทำให้ใครหลายคนต้องใช้ชีวิตและทำงานอยู่กับบ้านมากขึ้น ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ใช้เวลากับหมาและแมวมากขึ้น ทำให้เกิดความผูกพันและเกิดกระแส Pet Humanization ขึ้นมาชัดเจนมากกว่าเดิม
พฤติกรรม Pet Humanization อยู่ในกลุ่มคนช่วงไหนมากที่สุด
กลุ่มคนที่มีพฤติกรรมที่เรียกว่า “ทาสน้องหมา ทาสน้องแมว” หรือ Pet Humanization มากกว่า 75% อยู่ในช่วงอายุ 18 – 34 ปี ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีแนวโน้มจะเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้ามากถึง 65% พร้อมกับพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก หรือคนในครอบครัวอีกด้วย
กระแส Pet Humanization ส่งผลอย่างไรต่อธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
รู้หรือไม่ว่า Pet Humanization จากผลวิจัยในตลาดธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ทำให้เกิดโอกาสในการทำธุรกิจในกลุ่มนี้ขึ้นมาอย่างหลากหลาย พร้อมกับมูลค่าในการจ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและกลุ่มอาหารเสริม ที่ตอบโจทย์และเพิ่มความหลากหลายให้กับน้องหมาและน้องแมว ให้ผู้เลี้ยงเลือกได้อย่างเต็มที่
- ธุรกิจบริการดูแล ฝึกสอน และโรงแรมของสัตว์ เป็นอีกหนึ่งบริการที่มีตัวเลือกให้กับเจ้าของหลายรูปแบบ พร้อมกับคุณภาพมาตรฐานที่ดูแลเหมือนลูกของตัวเอง
- ธุรกิจอุปกรณ์ ของเล่น และเฟอร์นิเจอร์สำหรับสัตว์เลี้ยง ที่เปิดกว้างผสมผสานแฟชั่นและเทรนด์ต่าง ๆ ลงไป เพื่อให้น้องหมากับน้องแมวได้เสริมทักษะในด้านต่าง ๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่แมตช์ลงตัวกับบ้านผู้เลี้ยง
- ธุรกิจคาเฟ่สัตว์เลี้ยง พื้นที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มรักสัตว์ได้อย่างตรงจุด เพราะคนและสัตว์จะได้ร่วมโต๊ะอาหารและทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วยกัน
- ธุรกิจประกันสัตว์เลี้ยง เป็นธุรกิจที่เห็นถึงความสำคัญด้านสุขภาพของน้องหมาและน้องแมว อีกทั้งยังสร้างความอุ่นใจและควบคู่ไปกับค่าใช้จ่ายในการรักษาของผู้เลี้ยงอีกด้วย
จุดเริ่มต้นจากการเลี้ยงสัตว์เหมือนลูกจนกลายเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่า Pet Humanization ซึ่งส่งผลออกเป็นวงกว้างในด้านของธุรกิจสัตว์เลี้ยง เพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์และสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น เรียกได้ว่ามนุษย์อย่างพวกเรามีอะไร สัตว์เลี้ยงก็จะมีสิ่ง ๆ นั้นเกิดขึ้นมาในอนาคตอย่างแน่นอน และหวังว่าจะทำให้ใครหลายคนรู้จักคำว่า Pet Humanization มากขึ้น พร้อมกับมุมมองต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของแนวโน้มของพฤติกรรมคนเลี้ยงสัตว์ และในเรื่องของธุรกิจที่เปิดกว้างมากขึ้นอีกด้วย
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort