ส่องพฤติกรรมจับเทรนด์กลุ่ม Silver Spenders คือใคร ทำไมถึงสำคัญต่อแบรนด์

นับวันผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และแทบทุกวันก็มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าฟุ่มเฟือย หรือสินค้ากลุ่มอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องทำให้ก่อให้เกิดรายได้ต่อแบรนด์และจากผลการสำรวจพบว่า กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงสุดในปัจจุบันเป็นกลุ่ม Siver Spenders คือใคร ? ซึ่งเราจะพาไปเจาะข้อมูลอินไซต์พฤติกรรมการบริโภคที่จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงพวกเขาได้มากขึ้น รวมถึงคัดเลือกธีมสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้า Siver Spenders ว่ามีกลุ่มใดบ้าง 

Silver Spenders คืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อแบรนด์ 

ทราบกันดีว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการและคาดว่าในปี 2574 จะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มที่ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า 9 แสนล้านบาทต่อปี โดยข้อมูลล่าสุดจาก The 1 Insight ในเครือเซ็นทรัลรีเทลพบว่า สัดส่วนยอดขายในกลุ่ม Silver Spenders หรือกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปในปัจจุบันอยู่ที่ 20% และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 2 – 5 % ในทุก ๆ ปี 

โดยหากมองในแง่ของการตลาดสัดส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุและการใช้จ่ายของคนในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกเรื่อย ๆ จึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของเหล่านักมาร์เก็ตติ้งแบรนด์ต่าง ๆ ในการนำเสนอสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่ม Silver Spenders เพื่อเปลี่ยนพวกเขาจากกลุ่มเป้าหมายให้มาเป็นลูกค้าที่สามารถเพิ่มยอดขายในอนาคตให้แก่แบรนด์ได้ 

เจาะอินไซต์พฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่ม Super Age Spender 

โดยในวันนี้เราจะพาคุณไปเจาะข้อมูล Insight ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่ม Silver Spenders เพื่อให้นักการตลาดของแบรนด์ทราบถึงข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับแบรนด์ที่ไม่เคยจับลูกค้ากลุ่มสูงวัยมาก่อนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นและเพื่อช่วยวางแผนการตลาดให้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หากถามว่า Silver Spenders อายุเท่าไหร่ก็จะเน้นย้ำให้ทราบกันอีกครั้งว่าเป็นกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่มีมูลค่าทรัพย์สินเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านต่อคน ส่วนรายได้ครัวเรือนจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทต่อเดือน สำหรับพฤติกรรมในการใช้จ่ายของคนนี้จะเน้นใช้จ่ายในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่โดยห้างที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลปิ่นเกล้าและเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นต้น 

ทั้งนี้ จะนิยมช้อปในวันธรรมดา ไม่จำกัดช่วงเวลาซึ่งจากฐานข้อมูลกว่า 20 ล้านคนครอบคลุม 1 ใน 3 ของประชากรไทยชี้ให้เห็นถึงมิติเด่นของกลุ่มลูกค้า Silver Spenders ได้แก่ Self-Indulgance ซึ่งพร้อมเปย์เต็มที่เพื่อความรื่นรมย์และ Health Enthusiast จะพร้อมเพื่อสุขภาพและความมั่นคงเป็นส่วนใหญ่

ธีมหมวดสินค้าที่โดดเด่นของกลุ่ม Silver Spenders

ให้คุณเข้าใจเทรนด์การช้อปของกลุ่ม Silver Spenders มากขึ้นผ่านรวมเทรนด์การซื้อสินค้าจากการแบ่งมิติ ได้แก่

• Self-Indulgence ที่จะเน้นซื้อเครื่องสำอางค์ 44% ในกลุ่มแป้งและรองพื้น ต่อมาสกินแคร์ 33% ซึ่งเน้น Anti-Aging คือการลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัยต่าง ๆ ให้ดีขึ้น รวมถึงกลุ่มกระเป๋าถืออีก 25% ที่จะนิยมกลุ่มสไตล์มินิมอล น้ำหนักเบา

   

• Health Enthusiast ที่จะเน้นในกลุ่มรองเท้าผ้าใบสูงถึง 58% ซึ่งจะเลือกแบบที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ สวมใส่สบาย ต่อมาจะเป็นกลุ่มเตียงและเครื่องนอน 25% โดยจะเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพสูงและต่อมาจะเป็นกลุ่มประกันชีวิตที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 200%

   

แต่ถ้าหากแยกเป็นหมวดหมู่สินค้าจะพบว่ากลุ่ม Silver Spenders เน้นใช้จ่ายในกลุ่มแฟชั่น ความงาม ของใช้ในบ้านและความเป็นหลัก โดยแยกรายละเอียดได้ ดังนี้

• หมวดแฟชั่น: เสื้อผ้าลำลอง รองเท้าเพื่อสุขภาพ กระเป๋าถือ
• หมวดความงาม: สกินแคร์กลุ่ม Anti-Aging แป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง ลิปสติกบำรุง 
• หมวดของใช้ในบ้าน: ที่นอน Orthopedic หมอนขนห่าน ผ้านวม
• หมวดอาหาร: ผลไม้นำเข้า ผักออร์แกนิก โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

ตัวอย่างแบรนด์ลุยกลุ่ม Super Age Spender

ทิ้งท้ายด้วยตัวอย่างแบรนด์อยาก Senity หรือชื่อภาษาไทยเรียกว่า เซนนิตี้ที่จะมาเจาะตลาดออร์ลแคร์ หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพปากของคนวัยเก๋าจากการเล็งเห็นแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งยาสีฟันเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปโดยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งยังยินดีจ่ายหากเป็นสินค้าที่ดีจึงส่งผลให้ทางเซนซิตี้ได้ออกมาชู 4 โปรดักส์ใหม่ ได้แก่

1. แปรงสีฟัน (Toothbrush) ที่คอแปรงถูกออกแบบมาให้ทำมุม 10 องศา พร้อมด้ามจับที่แบนเพื่อจับได้ถนัดมือและสอดรับกับช่องปาก รวมถึงขนแปรงที่นุ่มเหมาะกับเหงือกและฟันของผู้สูงอายุ

    

2. ยาสีฟัน (Toothpaste) จะใช้ส่วนผสมของสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่ปราศจาก Alcohol, Paraben, Sugar ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ทำลายเนื้อฟัน โดยจะมาเพิ่มความชุ่มชื่น ป้องกันการอักเสบและแก้ปัญหาเรื่องปากแห้งที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุได้อีกด้วย

    

3. น้ำยาบ้วนปาก (Mouthwash) แบบ 2-Phase ที่มีส่วนผสมของน้ำมันและของเหลวที่ช่วยให้การทำความสะอาดไม่ระคายเคืองช่องปาก พร้อมดูแลสุขภาพเหงือกและป้องกันน้ำลายแห้งด้วยการใช้สารสกัดจากหญ้าหวาน

    

4. “ซิลิโคนช่วยจับ” (GRIPP) จะเป็นอุปกรณ์ช่วยจับที่ถูกออกแบบมาตามสรีระศาสตร์ซึ่งสามารถใช้คู่กับแปรงสีฟัน หรือช้อนส้อมทำให้การจับยึดสะดวกยิ่งขึ้นจึงและยังมีส่วนช่วยบริหารกล้ามเนื้อมือจึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์และกล้ามเนื้ออ่อนแรง

โปรดักส์ที่ออกมาข้างต้นค่อนข้างมีลักษณะผลิตภัณฑ์ที่ชัดในการใช้งานและเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และที่น่าสนใจอีกข้อคือ ยังให้ความใส่ใจถึงแนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการนำบรรจุภัณฑ์เก่าเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลจึงถือได้ว่าเป็นการคิดทุกกระบวนการอย่างละเอียดและคุ้มค่าในทุกการใช้งาน

อ่านมาถึงตรงนี้คงจะพอเข้าใจแล้วว่า Silver Spenders คืออะไรซึ่งก็คือกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตซึ่งกลุ่มนั้นก็คือกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปโดยในหมวดสินค้าที่โดดเด่นก็จะได้แก่ กลุ่มหมวดแฟชั่น ความงาม ของใช้ในบ้านและอาหารที่เน้นตอบสนองต่อคนกลุ่มสูงอายุเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น แบรนด์ Senity ที่ออกแบบแปรงสีฟันมาเพิ่มเจาะกลุ่มคนกลุ่มนี้มากขึ้นและได้ผลการตอบรับที่ดีจึงอาจจะเป็นอีกหนึ่งโอหาสสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในอนาคตอันใกล้นี้ 

หากใครสนใจที่ต้องการจัดการร้านค้าเชื่อมการขายบนแชทผ่านระบบ ZORT Social commerce เพื่อให้ดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นก็สามารถทักเข้ามาสอบถาม หรือขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Zortout แบบฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort