Gen Z ต้องการอะไรมากที่สุด แบรนด์ไหนอยากเจาะคนกลุ่มนี้ต้องอ่าน

106 views

ส่อง 7 ความคาดหวังของชาว Gen Z ที่อยากได้จากแบรนด์

 

NielsenIQ (NIQ) ได้เผยแพร่รายงาน “SPEND Z” เพื่อให้แบรนด์ได้เจาะลึก Insight ของกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจอย่างชาว Gen Z (ช่วงอายุ 12 – 27 ปี) ที่ถือเป็นกำลังซื้อหลักของโลก และจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นกว่านี้ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการสร้างอิทธิพลหรือเทรนด์ที่สามารถทำให้คนเจนอื่น ๆ คล้อยตามได้เลย บทความนี้ก็ได้สรุป 7 ความคาดหวังของชาว Gen Z มาให้แล้วว่าพวกเขาต้องการอะไรมากที่สุด

 

Highlight & Summary

  • Gen Z เป็นกลุ่มคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและความเท่าเทียม โดยความคาดหวังของ Gen Z คือให้แบรนด์สื่อสารด้วยความจริงใจและใส่ใจประเด็นสังคม รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม
  • แม้ว่า Gen Z จะยังอายุน้อย แต่เรื่องสุขภาพยังเป็น Priority สำหรับพวกเขา มองว่าสินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมีประโยชน์มากกว่าสารสังเคราะห์
  • 53% ของ Gen Z ชอบซื้อสินค้าบนช่องทาง Social Media แต่ส่วนใหญ่ก็เสียเงินเกือบ 50% ไปกับการซื้อสินค้าหน้าร้านเช่นกัน

 

 

พฤติกรรมการซื้อสินค้าของ Gen Z ที่แตกต่างจากเจนอื่น

ก่อนไปดูว่า Gen Z ต้องการอะไรจากแบรนด์บ้าง เรามาทำความเข้าใจพฤติกรรมของพวกเขากันสักเล็กน้อย วิธีการจับจ่ายใช้สอยของ Gen Z ที่แตกต่างจาก Generations อื่น ๆ คือ “ความถี่ในการซื้อสินค้า” จากการสำรวจข้อมูลพบว่า Gen Z มีความถี่ในการซื้อต่ำกว่าเจนอื่น เพราะส่วนใหญ่ยังเรียนหรืออาศัยอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ซึ่งในอนาคตก็คาดการณ์ไว้ว่ามีพวกเขาอายุมากขึ้น ก็มีแนวโน้มที่ความถี่ในการซื้อสินค้าจะเพิ่มขึ้นด้วย 

 

นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ คนดัง หรือผู้เชี่ยวชาญยังคงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของชาว Gen Z รวมไปถึงรีวิวบน Social Media ต่าง ๆ หรือข้อมูลและรายละเอียดสินค้าบนเว็บไซต์แบรนด์

 

 

สรุป 7 ความคาดหวังของ Gen Z ที่ต้องการจากแบรนด์มากที่สุด

 

1. สื่อสารด้วยความจริงใจ (Authenticity)

Gen Z เป็นกลุ่มคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เขาจึงมองหาแบรนด์หรือสินค้าที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด พวกเขาจึงความต้องการความจริงใจจากแบรนด์เป็นอันดับหนึ่ง คอนเทนต์สร้างภาพหรือโฆษณาเกินจริงไม่ถูกใจชาว Gen Z อย่างมาก ดังนั้น การสื่อสารผ่านแคมเปญต่าง ๆ จะต้องบอกข้อมูลอย่างชัดเจน เพื่อให้พวกเขาเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด

 

2. รู้สึกมีส่วนร่วมกับสังคม (Belonging and Self-esteem)

การเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและยุคที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่าย แม้ว่าจะได้แชร์เรื่องราวและความเป็นตัวเองลง Social Media แต่ก็ทำให้ชาว Gen Z เหงาได้เหมือนกันเพราะขาดการเข้าสังคม ทำให้พวกเขามองหากิจกรรมบางอย่างที่สามารถพูดคุยและพบเจอกับคนที่มีความสนใจเดียวกัน แบรนด์อาจลองสร้างแคมเปญที่ทำให้กลุ่มลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน หรือใช้กลยุทธ์ Fandom Marketing เข้ามาช่วยก็ทำได้เช่นกัน

 

 

3. ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย (Diversity)

ในปัจจุบัน Gen Z ส่วนใหญ่นิยามว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBTQIA+ ทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความหลากหลายทางเพศ ไปจนถึงศาสนา เชื้อชาติและวัฒนธรรม และยังให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมเป็นอย่างมากอีกด้วย แบรนด์ไหนที่ออกมาสนับสนุนความหลากหลายอย่างจริงจัง ไม่ Rainbow Washing หรืออื่น ๆ ก็มีแนวโน้มที่ชาว Gen Z จะให้การสนับสนุนแบรนด์นั้น ๆ กลับด้วยเช่นกัน

 

4. สุขภาพต้องมาก่อน (Health Concern)

“Good Health” คือคำจำกัดของคำว่า “ชีวิตที่ดี” (Good Life) สำหรับชาว Gen Z แม้ว่าพวกเขาจะยังอายุน้อยแต่สนใจเทรนด์รักสุขภาพไม่แพ้ชาว Gen X และ Baby Boomers โดยมองว่าส่วนผสมจากธรรมชาติดีต่อสุขภาพมากกว่าสารสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังพบว่าชาว Gen Z มากกว่าครึ่งหนึ่งใช้แอปฯ ออกกำลังกาย และใช้ Smart Watch เพื่อติดตามข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ จำนวนก้าวเดิน เป็นต้น

 

 

5. เข้าถึงแบรนด์ได้หลากหลายช่องทาง (Omni-Channel)

53% ของ Gen Z เผยว่าพวกเขากดปุ่ม “สั่งซื้อสินค้า” บนช่องทาง Social Media นอกจากนี้รีวิวออนไลน์จากผู้ซื้อคนอื่น ๆ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชอบชอปปิงออนไลน์ แต่เขาก็ยังเสียเงินเกือบ 50% ให้กับการซื้อสินค้าหน้าร้านไม่แพ้เจนเนอเรชันอื่น ๆ

 

การที่พวกเขาเลือกซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพราะต้องการให้ได้ราคา ข้อเสนอ และตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้น แบรนด์ควรทำความเข้าใจ Journey ของลูกค้า และออกแบบกลยุทธ์การขายให้ตอบโจทย์กับแต่ละช่องทางการขายมากที่สุด


พ่อค้าแม่ค้าที่ทำงานคนเดียว แต่ต้องการที่ขยายช่องทางการขายขายสินค้า แต่ไม่อยากจ้างคนเพิ่ม ขอเสนอแพ็กเกจ ZORT แม่ค้าออนไลน์ ระบบจัดการร้านค้าสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่ช่วยคุณจัดการร้านค้า ทำเอกสารหรือบัญชีได้อย่างเป็นระบบ ครบจบในเครื่องมือเดียว สามารถทดลองใช้งานฟรี 15 วัน

 

 

 

6. ตระหนักถึงความยั่งยืน (Sustainability)

แน่นอนว่า 1 ในความคาดหวังของชาว Gen Z และคนส่วนใหญ่ทั่วโลก ก็คือ “ความยั่งยืน” เพราะเป็นสิ่งใกล้ตัวและเชื่อว่าหลายคนเห็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน จากรายงานเผยว่า Gen Z ยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 10% เพื่อแลกกับสินค้าที่ถูกออกแบบมาให้รักษ์โลกหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนแบรนด์ที่มีแคมเปญการตลาดหรือการรณรงค์เรื่องความยั่งยืน

 

 

7. ได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ (Fun Seekers)

Gen Z ไม่ได้ยึดติดแบรนด์ใดเป็นหลัก เพราะอาจจะยังไม่มีแบรนด์ไหนที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้ ดังนั้น พวกเขาก็จะทดลองซื้อสินค้าไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่ แบรนด์อาจเสาะหา Insight ของกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างและโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง

 

 

สรุป

Gen Z เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายและตระหนักถึงประเด็นสำคัญ ๆ ของโลกมากมาย ถ้าแบรนด์อยากจะได้ใจคนกลุ่มนี้ ก็ต้องหันมาใส่ใจประเด็นสังคมมากขึ้น และต้องสื่อสารด้วยความเข้าใจจริง ๆ ไม่ใช่แค่เกาะกระแส อย่างที่กล่าวไปว่าชาว Gen Z เดิมทีไม่ได้รู้สึกผูกพันหรือภักดีกับแบรนด์ไหนเป็นพิเศษ ไม่ถูกใจเขาก็ไปหาเจ้าอื่น ดังนั้น แบรนด์ควรรักษาคุณภาพกับสินค้าและสื่อสารด้วยความจริงใจ หรือหากผิดพลาดก็รีบแก้ไข เท่านี้ชาว Gen Z ต้องหันมาสนใจธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน

 

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort