ครีเอเตอร์ห้ามพลาด! แนะนำ 9 เครื่องมือ AI ช่วยออกแบบคอนเทนต์ ประจำปี 2025
คอนเทนต์เป็นเนื้อหาที่ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย รูปแบบของคอนเทนต์ที่ดี คือต้องสื่อสารถึงตัวตนของแบรนด์ มีใจความสำคัญที่อยากส่งไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งถ้าสามารถสร้างความไวรัลได้ ก็จะยิ่งดีมาก ๆ อย่างไรก็ตามนอกจากเวลาโพสต์คอนเทนต์ที่เหมาะสม ยังต้องอาศัยความรวดเร็วและเท่าทันเทรนด์ที่มาไวไปไว บทความนี้เลยจะมาบอกตัวช่วยสำคัญอย่าง AI ช่วยคิดคอนเทนต์ประจำปี 2025 ว่ามีเครื่องมือตัวไหนน่าสนใจ และเหมาะกับคอนเทนต์ประเภทไหนบ้าง
Highlight & Summary
- Claude AI เป็น AI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่รองรับการใช้งานด้วยภาษาไทย และสามารถสรุปเนื้อหาจากเอกสารยาว ๆ ให้มีแต่ใจความสำคัญได้ด้วย
- สำหรับคนที่มองหาเครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ SEO ขอแนะนำ SEOWind สามารถทำได้ทั้ง Keyword Research, เขียนบทความ และปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับหลักเกณฑ์ของ SEO
- Sudowrite เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับนักเขียนนิยาย เพียงแค่ใส่ประโยคสั้น ๆ AI ตัวนี้ก็จะช่วย Generated นิยายมาให้คุณภายในเวลาอันรวดเร็ว
1. Chat GPT
ถ้าพูดถึงเครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานได้ฟรี Chat GPT คงเป็นเครื่องมือแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะปัจจุบัน Chat GPT มีภาษาที่ธรรมชาติมากกว่าแต่ก่อน และสามารถคิดคอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การคิดแคปชันเฟซบุ๊ก, วางโครงเนื้อหาสำหรับเขียนบทความ SEO (Content Structure), ค้นหา Keywords ที่น่าสนใจ หรือการคิดคอนเทนต์ประเภท Copywriting เพื่อใช้ในการทำโฆษณา
นอกจากเป็น AI ที่ช่วยคิดคอนเทนต์ให้น่าสนใจแล้ว ยังสามารถใช้ช่วยเขียนโค้ด เขียนโปรแกรม ไปจนถึงเช็กคำผิดในโค้ดต่าง ๆ ช่วยนักซอฟต์แวร์ทำงานสะดวก และเป็นการป้องกัน Human Error ไปในตัว แต่ถ้าใครอยากใช้งานฟังก์ชันของ Chat GPT ที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้นอย่างการ Deep Research และอัปโหลดไฟล์ได้โดยไม่จำกัด ก็สามารถสมัครแบบเสียค่าใช้จ่าย โดยจะเริ่มต้นอยู่ที่ $20 (ประมาณ 662 บาท) ต่อเดือน
2. Claude AI
Claude AI เป็น AI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่เหมาะกับครีเอเตอร์ชาวไทย เพราะเข้าใจภาษาไทยและสามารถเลือกใช้คำภาษาไทยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถคิดคอนเทนต์ได้หลายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น แคปชัน คอนเทนต์ของแบรนด์ บทความ ไปจนถึงการสร้างโค้ด Prototype และการวางโครงสร้าง HTML และ CSS โดย Claude AI เป็นเครื่องมือคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอย่างดี ลดโอกาสในการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ถูกต้อง
และ Claude AI ยังสามารถแปลภาษาจากเนื้อหาต่าง ๆ ให้เป็นภาษาไทยที่เข้าใจง่าย และสรุปใจความสำคัญจากเอกสารยาว ๆ ได้อีกด้วย สายคอนเทนต์สามารถใช้งานได้ฟรี และสำหรับรูปแบบเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน จะเริ่มต้นอยู่ที่ $20 (ประมาณ 662 บาท) เท่ากับ Chat GPT
3. Writesonic
เพื่อน ๆ คนไหนที่เน้นการสร้างคอนเทนต์รูปแบบ SEO และ Generative Engine Optimization (GEO) ขอแนะนำ Writesonic เป็นเครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่ทดลองใช้งานฟีเจอร์เบื้องต้นได้ฟรี แต่จะมีการจำกัดจำนวนการใช้งาน แบบที่มีค่าบริการจะเริ่มต้นที่ $39 (ประมาณ 1,293 บาท)
การสร้างเนื้อหา SEO จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่รอบคอบ เพื่อดันเว็บไซต์ของแบรนด์ให้ติดในหน้าแรก ๆ ของ Search Engine ซึ่งคุณอาจลองใช้ Writesonic เข้ามาช่วยในการวางโครงสร้างหรือแนะนำหัวข้อที่เหมาะสมกับเนื้อหา และคัดเลือก Keywords ที่มีคุณภาพมาให้ เป็นต้น อีกทั้ง เครื่องมือ AI ยังได้รวบรวมข้อมูลจาก Marketing Tools ต่าง ๆ อย่าง Google Analytics, Ahrefs, WordPress และ Google Ads เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดและมีความ Real-time มากขึ้น
4. Jasper
Jasper เป็นเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาได้เป็นมืออาชีพ สามารถทำได้ทั้งการสร้างคอนเทนต์เชิงการตลาด คิดคำบรรยายสินค้า บรีฟแคมเปญ คิดคำ ALT TEXT สำหรับรูปภาพในบทความ และคิดคอนเทนต์สำหรับโพสต์ลงช่องทาง Social Media เพียงแค่ป้อน Keyword หลักหรือหัวข้อที่ต้องการลงไป Jasper ก็จะประมวลผลและสร้างเนื้อหามาให้ในทันที นอกจากนี้ยังสามารถบอกให้เครื่องมือปรับภาษาให้เข้ากับสไตล์ของคอนเทนต์ได้อีกด้วย ซึ่งมีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ $39 หรือประมาณ 1,293 บาท
5. Anyword
เครื่องมือ AI อีกหนึ่งตัวที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาษาไทยได้ก็คือ Anyword จุดเด่นคือมีการใช้ A/B Tested Data ในทุก ๆ การประมวลผลเนื้อหา สร้างสรรค์ได้ทั้ง Email Marketing, Marketing Strategy, บทความ SEO, สร้าง Persona Buyers และอีกมากมาย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำระดับโลกหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น SONY, informa, vimeo, Outbrain และ Trimble เป็นต้น ค่าบริการเริ่มต้นที่ $49 (ประมาณ 1,621 บาท)
6. SEOWind
SEOWind เป็น AI ช่วยคิดคอนเทนต์ SEO เพื่อเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ธุรกิจ ด้วยการคิด Content Outline, Keyword Research, เขียนเนื้อหาให้สอดคล้องกับหลักการ E-E-A-T รวมถึงปรับแต่งเนื้อหาให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ SEO อย่าง Internal Linking Plugin ให้ไปดาวน์โหลดใช้กันแบบฟรี ๆ อีกด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเริ่มต้นที่ $49 หรือประมาณ 1,621 บาท
7. Sudowrite
สำหรับ Sudowrite เป็นเครื่องมือ AI ที่น่าจับมองอีกตัวเช่นกัน เพราะเครื่องมือสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ประเภทนิยายได้นั่นเอง ข่วยให้สามารถเขียนนิยายตั้งแต่ต้นจนจบให้เสร็จภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ เพียงแค่ใส่รายละเอียดของตัวละคร พล็อตเรื่อง และ Mood & Tone ลงไปไม่กี่ประโยคเท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วย Rewrite เนื้อหาให้ยาวขึ้น ขยายความมากขึ้น หรือสั้นลงตามความต้องการได้อีกด้วย โดยมีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ $10 (ประมาณ 330 บาท) เท่านั้น
8. Rytr
Rytr เป็น AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ที่สามารถใช้งานได้ฟรีและมีรูปแบบการใช้งานที่ค่อนข้างคล้ายกับ Chat GPT รองรับการใช้งานหลากหลายภาษา ภาษามีความเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนกับหุ่นยนต์ และคิดคอนเทนต์ได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Google Search Ads, แคปชันสำหรับโพสต์, บทความ SEO, เนื้อหาในหน้า Landing Page แถมยังสามารถสร้างเพลงได้ด้วย
9. Copy.AI
ปิดท้ายกันด้วยเครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่น่าสนใจอย่าง Copy.AI ที่สามารถเขียนบทความคุณภาพได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ, Copywriting, สรุปเนื้อหาจาก YouTube สามารถใช้ตัวอย่าง Prompt ของแพลตฟอร์ม และบันทึกคำสั่งซ้ำได้ด้วย
สรุป
สำหรับเครื่องมือ AI สำหรับคิดคอนเทนต์ ประจำปี 2025 ที่ ZORT ได้แนะนำกันไปในวันนี้นั้น หวังว่าจะช่วยครีเอเตอร์คิดค้นเนื้อหาและวางโครงสร้างคอนเทนต์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาษาที่ Genarated มาจะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็แนะนำว่าควรจะตรวจสอบเนื้อหาและ Rewrite ให้สมูทมากขึ้น เพื่อไม่ให้คอนเทนต์มีความเป็น AI มากจนเกินไป รวมไปถึงตรวจเช็กความถูกต้องของข้อมูลด้วย
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort