สรุปมาตรการภาษี SMEs 2568 ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้!
ปี 2568 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของผู้ประกอบการ SMEs ไทย เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษี SMEs 2568 เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ Digital Transformation อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังลังเลว่าจะลงทุนด้านดิจิทัลดีไหม บอกเลยว่าตอนนี้คือโอกาสทอง!
มาตรการภาษี SMEs 2568 นี้ไม่ใช่แค่การลดหย่อนภาษีทั่วไปแบบที่ผ่าน ๆ มา แต่คือการหักรายจ่ายได้ถึง 2 เท่า สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล สูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี ซึ่งครอบคลุมค่าโปรแกรม ฮาร์ดแวร์ และบริการดิจิทัลจากผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ
Highlight & Summary
- SMEs ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท มีสิทธิหักรายจ่าย 2 เท่า
- ค่าใช้จ่ายด้าน Digital Transformation ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท
- ครอบคลุมโปรแกรม ฮาร์ดแวร์ และบริการดิจิทัลที่จดทะเบียนกับ depa
- มีผลตั้งแต่ 24 มิ.ย. 2568 – 31 ธ.ค. 2570
- ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการจัดการธุรกิจ
ใครมีสิทธิ์ใช้มาตรการลดหย่อนภาษี SMEs 2568 บ้าง?
มาตรการภาษี SMEs 2568 มีขอบเขตชัดเจนว่าเจาะจงให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็ก เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อธุรกิจรายย่อยโดยเฉพาะ ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลเลยว่าธุรกิจเล็ก ๆ จะถูกมองข้าม แต่ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
- ทุนที่ชำระแล้ว ณ วันสิ้นงวดบัญชี ไม่เกิน 5 ล้านบาท
- มีรายได้รวมในรอบปีบัญชี ไม่เกิน 30 ล้านบาท
ใช้สิทธิ์มาตรการภาษี SMEs 2568 ได้กับค่าใช้จ่ายแบบไหนบ้าง?
มาตรการ SMEs ลดภาษี 2 เท่าครั้งนี้ หมายถึง ผู้ประกอบการสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า โดยต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำ Digital Transformation จึงจะลดหย่อนภาษีได้ ดังนี้
- ค่าซื้อหรือจ้างทำซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมที่ช่วยจัดการธุรกิจ
- ค่าจ้างบริการดิจิทัล เช่น ระบบคลาวด์ ระบบหลังบ้าน อีคอมเมิร์ซ ระบบจัดการสต๊อก ฯลฯ
- ค่าซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices) ที่มีฟังก์ชันเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ
- ฮาร์ดแวร์เฉพาะทางที่ไม่รวมคอมพิวเตอร์ทั่วไป
หมายเหตุ: รายการทั้งหมดต้องเป็นสินค้าหรือบริการที่จดทะเบียนในบัญชีบริการดิจิทัลของ depa (สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล) เท่านั้น
ทำ Digital Transformation ลดหย่อนภาษีได้ถึงเมื่อไหร่?
มาตรการภาษี SMEs 2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2568 และสามารถใช้สิทธิ์หักรายจ่ายได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570 ภายใต้วงเงินไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี เรียกได้ว่าให้เวลาปรับตัวกว่า 2 ปีครึ่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ SMEs ที่วางแผนขยับสู่การทำ Digital Transformation ลดหย่อนภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทำไม SMEs ต้องรีบใช้สิทธิ์นี้?
การลดหย่อนภาษี SMEs 2568 จากมาตรการใหม่นี้ ไม่ใช่แค่ช่วยให้เหล่าผู้ประกอบการสามารถประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น แต่ยังเป็นการเร่งอัปเกรดธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
ลดภาระต้นทุนค่าเทคโนโลยี
สำหรับเจ้าของกิจการรายย่อย การลงทุนในเทคโนโลยีมักเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดหนัก เพราะค่าใช้จ่ายอาจสูงและต้องจ่ายล่วงหน้า แต่ด้วยมาตรการ SMEs ลดภาษี 2 เท่า ในปี 2568 นี้ จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถแบ่งเบาภาระต้นทุนในการซื้อหรือจ้างทำระบบดิจิทัลต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องรอคืนทุนในระยะยาว
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ารทำธุรกิจในยุคปัจจุบันไม่สามารถพึ่งแรงงานคนเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป โดยเฉพาะธุรกิจที่มีหลายช่องทางการขาย หรือมีออเดอร์เข้ามาตลอดทั้งวัน การใช้เทคโนโลยีอย่างระบบจัดการออเดอร์อัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนสต๊อก หรือระบบออกใบเสร็จและรายงานยอดขายแบบเรียลไทม์ จะช่วยลดความผิดพลาด ประหยัดเวลา และเพิ่มความแม่นยำให้กับการดำเนินธุรกิจ เมื่อรวมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า ยิ่งทำให้การลงทุนคุ้มค่ากว่าเดิม
ปรับตัวสู่โลกออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่าน Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือ Social Commerce อย่าง Facebook และ LINE OA แต่ละช่องทางล้วนมีระบบหลังบ้านที่แตกต่างกัน หากธุรกิจของคุณมีระบบที่ช่วยรวมศูนย์จัดการออเดอร์ ข้อมูลลูกค้า และยอดขายจากทุกแพลตฟอร์ม ก็จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น ตัดสินใจได้เร็วขึ้น และตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ที่ต้องการบริการที่รวดเร็ว
สร้างความได้เปรียบในตลาด
ในยุคที่คู่แข่งเกิดขึ้นทุกวัน การมีเทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัยคือแต้มต่อที่สำคัญที่สุด ธุรกิจที่กล้าใช้ระบบอัตโนมัติ และพร้อมเข้าสู่ Digital Transformation ย่อมได้เปรียบในความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการตัดส่งที่รวดเร็วกว่า การตอบแชทที่ไม่ตกหล่น ตลอดจนการดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง
ให้ ZORT ช่วยคุณแปลงธุรกิจสู่ความเป็นดิจิทัล
จะดีแค่ไหน หากคุณมีเครื่องมือที่ “พร้อมใช้งาน” ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเริ่มนับหนึ่งเอง?
นี่คือจุดที่ ZORT เข้ามาช่วยต่อจิ๊กซอว์ให้แก่ทุกผู้ประกอบการที่อยากแปลงธุรกิจให้ทันโลก พร้อมรับสิทธิ์ภาษีเต็ม ๆ เพราะนอกจาก ZORT จะเป็นระบบช่วยจัดการออเดอร์หรือดูสต๊อกแล้ว ยังเป็นระบบหลังบ้านที่พร้อมให้คุณเติบโตด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ เชื่อมต่อหลายช่องทางขาย ตัดสต๊อกแบบเรียลไทม์ และออกใบเสร็จ-รายงานครบจบในคลิกเดียว
สรุป
สิ่งที่มาตรการลดหย่อนภาษี SMEs 2568 มอบให้ ไม่ใช่แค่ตัวเลขภาษีที่ลดลงในงบดุล แต่คือโอกาสในการรีเซตระบบหลังบ้านธุรกิจใหม่ทั้งหมดให้ทันสมัยขึ้น คล่องตัวขึ้น และมีศักยภาพมากพอที่จะแข่งขันกับธุรกิจทุกรูปแบบในตลาดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ เพราะสิทธิ์หักค่าใช้จ่าย 2 เท่าแบบนี้ไม่ได้มีให้ทุกปี เริ่มวางแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลวันนี้ และอย่าลืมให้ ZORT ระบบจัดการออเดอร์และสต๊อกออนไลน์ เป็นผู้ช่วยของคุณตลอดเส้นทาง
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort
