ในฐานะเจ้าของธุรกิจที่มีการขายสินค้าผ่านออนไลน์หรือที่เรียกว่า eCommerce สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหน้าร้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดขายผ่านช่องทาง Shopee, Lazada , JD หรือแม้กระทั่งการขายผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Instagram ก็ตาม แล้วก็ต้องบอกว่าหลาย ๆ ช่องทางนั้นก็มีการเชื่อมต่อข้อมูลกันแล้ว ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเฟสบุ๊คเพจและอินสตาแกรม ที่ง่ายสุด ๆ ไม่ต้องโพสสองรอบ ซึ่ง Facebook Business Suite ก็คือตัวช่วยที่จะทำให้ทุกอย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
Facebook Business Suite คืออะไร?
ใครที่ใช้ Facebook Page มาแต่แรกอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของ Pages Manager อยู่ไม่มากก็น้อย แต่ล่าสุดทางเฟสบุ๊คก็ได้เปลี่ยนให้กลายมาเป็น Facebook Business Suite ที่จะทำให้สามารถจัดการงานทั้งบนเฟสบุ๊คและอินสตาแกรมนั้นง่ายขึ้นและสะดวกขึ้นยิ่งกว่าเดิม โดยที่คุณจะลืมไปเลยกับการทำงานที่ซ้ำซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการโพสบนเฟสบุ๊คเพจหรือจะเป็นการโพสบนอินสตาแกรมก็ตาม สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ Facebook Business Suite ก็อาจจะสงสัยอยู่ว่าควรที่จะต้องใช้งานหรือไม่ แล้วข้อดีของ Business Suite มีอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบ
ข้อดีของ Facebook Business Suite
หลายคนอาจจะสงสัยว่าการใช้ Facebook Business Suite นั้นมีข้อดีไหม? ก็ต้องบอกว่าถ้าคุณใช้งานด้านการตลาดออนไลน์แค่บนอินสตาแกรมอย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ แต่ถ้าเลือกใช้งานเนื่องจากมีการใช้ทั้งเฟสบุ๊คและอินสตาแกรมควบคู่กันไป การใช้ Facebook Business Suite ก็จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- สร้าง กำหนดเวลา และจัดการโพสทั้งบน Facebook และ Instagram ได้ภายในครั้งเดียว โดยสามารถกำหนดรูป และแคปชั่นบนโพสได้อย่างง่ายดาย
- สามารถดูข้อความ ความคิดเห็น และกิจกรรมทั้งหมดที่ต้องการดำเนินการ เพื่อช่วยให้คุณสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
- ช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูว่าทั้งบน Facebook และ Instagram นั้น เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยให้สามารถจัดการธุรกิจออนไลน์ให้สะดวกและเป็นไปได้อย่างดีมากที่สุด
เริ่มต้นใช้งาน Facebook Business Suite
คำถามที่เกิดขึ้นสำหรับคนที่จะเริ่มใช้ Facebook Business Suite ก็คือ Facebook Business Suite เสียเงินไหม มีวิธีใช้เหมือนกับ Pages Manager หรือไม่ คำตอบก็คืออันนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นตัวฟรีที่ทาง Facebook จัดให้โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน Facebook Page และมีความใกล้เคียงกันในการใช้งานอีกด้วย
อันดับแรกเลยก็คือ คุณต้องเชื่อมต่อระหว่าง Facebook Page กับ Instagram ที่คุณต้องการเข้าด้วยกัน เมื่อเชื่อมเสร็จแล้ว ให้เข้าใช้งานที่ Business Suite ได้ทันที โดยที่คุณเองก็สามารถใช้งานได้ทั้งบนเดสก์ท็อป และบนแอปพลิเคชันอีกด้วย
การใช้งาน Facebook Business Suite ช่วยอะไรได้บ้าง
- สามารถดูการอัปเดตได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนข้อความ ความคิดเห็น ไปจนถึงกิจกรรมทั้งหมดที่ต้องมีการดำเนินการทั้งบน Facebook และ Instagram ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีระบบการตอบกลับเพื่อตอบคำถามทั่วไป และสร้างทางลัดต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การตอบกลับเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด
- แชร์เนื้อหากับผู้ใช้งานได้ทั้งบน Facebook และ Instagram
ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์บนฟีดข่าว (News Feed) ทั้งบนเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม ที่จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดเวลาลงโพสได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ รวมไปถึงการขยายกลุ่มเป้าหมายของคุณให้มีคนเห็นและมีส่วนร่วมกับเนื้อหาได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- สามารถใช้งานข้อมูลเชิงลึกได้
ในส่วนของ Facebook Business Suite จะมีแท็บ ‘ข้อมูลเชิงลึก’ เอาไว้ให้คุณสามารถศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานที่เข้ามา Interact กับเพจหรืออินสตาแกรมของคุณ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และวางแผนการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโพสทั้งบนเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม และปรับให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละแพลตฟอร์มอีกด้วย
แน่นอนว่าข้อดีของ Facebook Business Suite ก็คือการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานและเจ้าของธุรกิจนั่นเอง ซึ่งการเข้ามาของ Business Suite จะช่วยลดเวลาในการทำงานบนโซเชียลมีเดียลง และให้คุณได้มีเวลากลับมาโฟกัสที่แง่มุมอื่นของธุรกิจได้นั่นเอง
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหาเครื่องมือมาช่วยทุ่นแรงในการทำธุรกิจออนไลน์ ให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ทดลองใช้ ZORT ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร ฟรี 15 วันได้เลย เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำการใช้งานระบบให้ตอบโจทย์กับธุรกิจของคุณที่สุด
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort