ส่องเทรนด์การตลาดเอาชนะใจมนุษย์ Introvert ให้ได้ผลในปี 2023
หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่ชอบเก็บตัวและมีความชื่นชอบในการทำอะไรคนเดียวมากกว่าการทำงานเป็นกลุ่ม อาจจะมีบุคลิกเป็นมนุษย์ Introvert ซึ่ง ZORT จะพาคุณไปสำรวจผ่านแบบทดสอบบุคลิกภาพที่จะทำให้คุณเข้าใจชาว Introvert มากขึ้น ส่วนแบรนด์ใดที่กำลังทำการตลาดกับกลุ่มนี้ เราก็ได้รวบรวมทริคที่ทำอย่างไรให้ชนะใจ Introvert มาฝากเหล่านักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ซึ่งอย่ารอช้า! ไปเริ่มกันเลย
รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นชาว Introvert ?
ก่อนอื่นมาเช็คกันหน่อยว่าจริง ๆ แล้วคุณคือมนุษย์ Introvert หรือ Extrovert กันแน่ผ่านการทำแบบทดสอบที่ใช้เวลาไม่เกิน 12 นาทีที่ก่อนจะทำขอรีมาร์กตัวหนาว่าอย่า! พยายาามตอบกลาง ๆ แต่ให้ตอบแบบตรงไปตรงมาเพื่อช่วยลดความคลาดเคลื่อนของคำตอบซึ่งสามารถเริ่มทำแบบทดสอบได้ที่ 16personalities
ทำความรู้จักมนุษย์ Introvert 4 ระดับ
ถ้าหากคุณเป็นมนุษย์ Introvert อยากจะบอกว่าแนวคิดของนักจิตวิทยา Johanthan Cheek ยังได้มีการแบ่งคนประเภท Introvert ออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
- Social Introvert ถ้าเลือกได้คืออยากอยู่คนเดียว หรือกลุ่มคนเล็ก ๆ มากกว่า แต่ก็ไม่ได้วิตกกังวลมากนักหากต้องอยู่ท่ามกลางคนเยอะ ๆ
- Thinking Introvert สายนักคิดที่มักดำดิ่งอยู่ในห้วงความคิดของตนเองและมักชอบทบทวนความคิดของตัวเองอย่างลึกซึ้ง
- Anxious Introvert เป็นกลุ่มที่ชอบอยู่คนเดียวมาก ๆ เพราะรู้สึกวางตัไม่ค่อยถูกเมื่อต้องอยู่กับคนอื่น ๆ โดยมาพร้อมแนวโน้มที่มองโลกแบบ Worst Case Senario ที่แฝงด้วยความกังวลอยู่เสมอ
- Retrained Introvert ส่วนระดับสุดท้ายจะเป็นกลุ่มที่มีความคิดค่อนข้างรอบคอบทำให้ดูเหมือนทำอะไรชักช้า แต่เพราะพวกเขาคิดถึงผลที่ตามมาทำให้มีความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจอะไรซักอย่าง
ข้อดีของการมีบุคลิกภาพแบบ Introvert
การที่คุณเป็นมีบุคลิกภาพแบบ Introvert ก็มาพร้อมข้อดีที่เป็นข้อได้เปรียบหลายประการ ได้แก่
- ผลกระทบจากการอดนอนน้อยกว่า โดยมาจากการคาดว่าผู้ที่มีบุคลิกแบบ Extrovert มักจะถูกกระตุ้นให้มีปฎิสัมพันธ์ทางสังคมทำให้สมองส่วนควบคุมการตื่นตัวอ่อนล้าและมีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยส่งผลให้ต้องการชั่วโมงการนอนที่มากกว่าชาว Intovert
- เสี่ยงต่อพฤติกรรมอันตรายน้อยกว่า เพราะชาว Introvert มักจะอยู่ในกรอบ ไม่ค่อยชอบลองทำอะไรใหม่ ๆ จึงอาจไม่นิยมกีฬาอันตราย หรือผาดโผนต่าง ๆ
- กลัวการตกกระแสน้อยกว่า เพราะไม่ค่อยต้องรักษาภาพลักษณ์ หรือต้องตามกระแสแฟชั่นต่าง ๆ ให้ทันเพราะไม่ค่อยแต่งตัวออกไปไหนจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องกระแส แฟชั่น หรือเทรนด์ต่าง ๆ มากนัก
แต่อาจจะมีความเสี่ยงต่อภาวะโรคซึมเศร้าเนื่องจากการชอบเก็บตัว ความกดดันที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสังคมยอมรับ รวมถึงความอ่อนไหวต่ออารมณ์ความรู้สึกและการนำตัวเองไปเปรียบเทียบ รวมถึงภาวะภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ที่อาจจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าชาว Extrovert
ทำอย่างไรให้ชนะใจ Introvert
- ไม่รีบร้อนในการสร้างความสัมพันธ์ โดยค่อย ๆ ทำความรู้จัก ไม่รีบร้อน หรือบีบรัดพวกเขามากเกินไปเพราะจะทำให้รู้สึกไม่สบายใจและจะตั้งกำแพงขึ้นมา
- อยู่ในระยะห่างที่เหมาะสม เพราะพวกเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวค่อนข้างเยอะจึงไม่ควรพาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตพวกเขามากเกินไป รวมถึงบทสนทนาที่ต้องเป็นสิ่งที่เขาสนใจเพราะหากไม่ใช่เรื่องที่สนใจจะถูกเงียบใส่ทันที อีกทั้งไม่ควรจุกจุก จู้จี้ หรือเซ้าซี้พวกเขามากเกินไป
- ยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเรื่องของนิสัย พฤติกรรม คำพูด สถานะความสัมพันธ์ต่าง ๆ ให้เป็นการยอมรับจากเขาเอง มิใช่การพูดจาแบบ หรือพูดเชิงบังคับเพราะจำให้ฟางเส้นสุดท้ายของพวกเขาขาดแน่นอน
- สม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ทุกบุคลิกภาพควรทำในการให้ความรู้สึกผ่านการกระทำที่สม่ำเสมอซึ่งจะช่วยให้ชาว Iทtrovert รู้สึกดีและให้ความไว้วางใจ ยอมรับในบุคคลนั้น ๆ
- มีบุคลิกที่ผสมผสาน ชาว Intovert มีความก้ำกึ่งระหว่างความเป็นเด็กและผู้ใหญ่เขาจึงมองหาคนที่สามารถดูแลตัวเองได้ มีความเป็นผู้ใหญ่ในขณะเดียวกันก็ต้องการคนที่เป็นเด็กซึ่งพร้อมจะหัวเราะ สนุกสนานไปด้วยกัน
3 กลยุทธ์เจาะตลาดชาว Introvert
ส่วนนักขาย นักการตลาด หรือเหล่าคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่กำลังต้องการตีตลาดชาว Introvert เรามี 3 กลยุทธ์เจาะตลาดที่อยากแนะนำได้แก่
- เน้นออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการที่เสียพลังงานสื่อสารไปกับคนอื่น ๆ การเลือกซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์จึงมักจะได้ผลกับคนกลุ่มนี้มากกว่าไม่ว่าจะผ่านทางอีเมล พอตแคส เว็บไซต์ บลอก สื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ รวมถึงสื่อวีดิโอ โดยเฉพาะกลุ่มวีดิโอสั้นอาทิ Tiktok, Reel รวมถึงบริการเดลิเวอรี่ทั้งสั่งผ่านแอพ หรือแบบ Drive-Thru
- เตรียมข้อมูลพร้อมตอบคำถามล่วงหน้า โดยมีการให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป้นเข้าใจง่าย เพื่อให้เขาอ่านและไม่ต้องอฺธิบายเยอะ เช่น ข้อมูลแสดงรายละเอียดสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ข้อมูลการติดต่อที่จำเป็น ช่องทางรับข่าวสาร หรือจะเป็น Auto Reply เช็กสถานะสินค้าตัวด้วยเองได้ หรือบริการจองคิวออนไลน์และพวกคำถามที่พบเจอได้บ่อย
- ไม่ตื้อบ่อย รู้จังหวะถอย การตื้อให้ของคนกลุ่มนี้ใช้ไม่ได้ผลเพราะด้วยลักษณะนิสัยที่ต้องใช้ความคิดและใช้เวลาจึงควรมีระยะห่างในการเดิน ไม่ควรยัดเยียด แต่ให้คำแนะนำเมื่อพวกเขาต้องการแทน
ตัวอย่างแบรนด์ตอบโจทย์ชาว Introvert
ทิ้งท้ายด้วยแบรนด์ Yakiniku Like ซึ่งเป็นร้านปิ้งย่างจากญี่ปุ่นที่มาพร้อมจุดเด่นในการ Service Design
- สามารถจองผ่าน App ‘QuqQ’ support ซึ่งเหมาะกับลูกค้าที่ไม่สะดวก Walk in ให้สามารถจองคิวล่วงหน้าและสามารถรเช็คคิวล่าสุดได้
- ทานคนเดียวได้ หากสังเกตการ Design ของโต๊ะจะมีการฝังเตาย่างลงไปในขนาดที่พอดีทั้งการรับระทานแบบคนเดียวและหลาย ๆ
- จัดเซ็ตเมนูได้พอดี เพราะ 1 เซ็ตเมนูพอดีต่อ 1 คนธรรมดาทานอิ่มและให้ความรู้สึกจากบรรยากาศร้านที่ไม่ต้องรีบร้อนให้สามารถนั่งดูเน็ตฟลิกซ์ ฟังเพลงและทานไปพร้อมกันได้
มนุษย์ Introvert จึงไม่ใช่คนที่เข้าใจยากมากนัก แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลาในการเข้ามาไม่ดูตั้งใจจนเกินไปเพราะอาจสร้างความรู้สึกให้เขาไม่ปลอดภัยได้และเช่นเดียวกันากต้องการทำการตลาดกับคนกลุ่มนี้ยังมองว่าช่องทางออนไลน์เป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างตอบโจทย์เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์ในการโต้ตอบมากนัก แต่หากอยู่ในร้านค้าแบบออฟไลน์ก็ควรจะมีการเว้นระยะห่าง ตอบคำถามเมื่อเขาต้องการและไม่เสนอขายแบบตามตื้อ หรือยัดเยียดเพราะจะทำให้คุณขายไม่ได้ทันที
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort