เรื่องราวจาก เบอรี่แลนด์ …
การเปิดร้านขายสินค้าอะไรที่จะทำเงินได้มาก ก็ต้องดูองค์ประกอบรวมหลายอย่าง ไม่ว่าจะด้วยสถานที่เปิดร้านหรือสินค้าที่จะขาย ส่วนใหญ่แล้วการเปิดร้านจะมาจากความชอบกันก่อนที่จะมองความต้องการของตลาด
ร้านขนมที่ได้เปิดอยู่ต้องบอกว่าเป็นร้านเล็กๆที่ ไม่ได้ใหญ่โตมากมายนักแต่ก็ต้องใช้เงินสดหมุนเวียนกันตลอดทุกวัน ต้องมีการทำบันทึกอยู่ตลอดเวลาและการจัดสินค้าให้ดูตื่นตาตื่นใจนั้นก็ต้องเป็นที่น่าสนใจด้วย เลยอยากจะมาแบ่งปันวิธีจัดร้านให้ดูน่าซื้อพร้อมกับการทำให้สินค้าที่มีอยู่ขายไปตามลำดับที่ควรจะเป็นไม่สลับกัน
จะวางสินค้าอย่างไรให้ดูสวยพร้อมทั้งวางสินค้าให้ลูกค้าไม่สามารถรู้ได้ว่าของนั้นอันไหนมาใหม่และอันไหนมานานแล้ว โดยส่วนใหญ่แล้วนิสัยของผู้ซื้อจะเลือกแต่ของที่วางใหม่ก่อน ของที่ใหม่กว่าจะได้ขายก่อน แล้วของเก่าก็จะหลายเป็นของเก่าตลอดกาล สมมุติว่ามีของเก่า 5 ชิ้นและของใหม่ มาอีก5 ชิ้น ให้นำของเก่าวางด้านหน้า 3 อันและของเก่าวางด้านหลัง 2 อัน พอเวลาลูกค้าเลือกก็จะเลือกจากด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้นไม่ว่าจะหยิบด้านหน้าหรือด้านหลังก็จะได้ของที่ต้องการจะขายก่อนทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะไม่หยิบตรงกลางมากนัก เราก็จะได้ปล่อยของตามต้องการ
การจัดสต็อกสินค้าของร้านผมแยกเป็น 2 ประเภท เพราะมีสินค้าที่เป็นของสดหมดอายุไว และของแห้งอยู่ได้นานหลายวัน สำหรับของสด จะต้องมีการจัดสต็อกสินค้าทุกวันในตอนเย็นสำหรับการสั่งของในวันถัดไป เราจะต้องรู้ว่าจะสั่งมาเท่าไหร่และต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการขายในวันที่มีคนเดินจำนวนมากอย่างงานวัดที่มีถนนคนเดินหรือมีตลาดนัด วันนี้จะขายได้ดีก็จะสั่งเยอะสักหน่อย แต่ที่สำคัญโปรดเข้าใจไว้ด้วยว่า การขายสินค้าประเภทที่เป็นของกินนั้น ต้องพยายามขายให้หมดหรือเหลือให้น้อยที่สุด สำหรับของแห้ง ถือว่าเป็นทุนจมเพราะส่วนมากจะขายไม่ค่อยหมด จะต้องเตรียมทุนสำรองในตรงนี้พอสมควร และแยกยอดขายกันให้ชัดเจน
ในทุกวันหลังการขายสินค้าแล้วจะต้องเผื่อเวลาในการนับสินค้าด้วย ควรจะนับหลังจากที่ปิดร้านแล้วเพื่อการนับสินค้าที่แม่นยำและทำการจัดเรียงสินค้าพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้กันด้วย
การบันทึกสินค้าเข้าจะต้องมีการจดบันทึกสินค้าเป็นรายวัน ต้องอย่าลืมเรื่องวันที่ และประเภทของสินค้า อย่างสินค้าที่เป็นขนมนั้นจะต้องละเอียดกันสักหน่อยเพราะมีประเภทของสินค้าหลายชนิด แล้วเมื่อเราได้ทำการบันทึกสินค้าแล้ว คราวนี้ก็จะรู้ว่าสินค้าประเภทไหนขายดี แล้วก็จะมีผลในการจัดวางสินค้าด้วยเช่นกัน เมื่อเรารู้ว่าสินค้าประเภทนี้ขายดีเราจะได้โชว์สินค้ามากขึ้น ทำป้ายให้เด่น ดันยอดขาย
การนับสินค้าคงเหลือในแต่ละวันก็สำคัญในการตรวจยอดเงินในแต่ละวันด้วยเช่นกัน เมื่อมีสินค้าหลายชนิดที่ขายออกไป นับจำนวนแล้วคูณด้วยตัวเงินจะต้องตรงกัน
สำหรับสินค้าลดราคา ต้องทำให้เสร็จก่อนจะเปิดร้านในวันถัดไป ยกยอดของเก่ามาและคัดว่าสินค้าตัวไหนขายราคาเดิมไม่ได้ ก็ต้องจัดเป็นสินค้าลดราคา ส่วนสินค้ายอดยกมาจะต่างกันคือสินค้าที่ยังสามารถขายราคาเดิมได้ การทำสต็อกสินค้าจะของร้านเรามี 4 ช่อง คือ ของใหม่ ยอดยกมา สินค้าลดราคา และสินค้าเสีย อาจจะดูเป็นระบบที่ยุ่งสักหน่อยแต่จะทำให้เรารู้ว่าสินค้าชนิดไหนขายดี จะได้เน้นที่ตัวขายดีเป็นหลัก ตัวอื่นคือสินค้ารองก็ต้องลดตามกันไป
ในความเป็นจริงแล้วรายละเอียดปลีกย่อยมีอีกเยอะ สำหรับการขายสินค้าประเภทมีอายุจำกัดจะเหนื่อยและต้องดูแลกันมากที่สุด แต่สำหรับสินค้าประเภทของกิน ถ้าขายดีก็ต้องยอมรับว่าจะทำกำไรให้คุณได้มากทีเดียว
ร่วมสนับสนุนและแบ่งปันสาระดีๆโดย
www.zortout.com
“เพื่อให้กิจการรายย่อยของไทย ทำสต๊อกสินค้าได้ง่ายขึ้น”
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : 02-026-6423
อีเมล: support@zortout.com
Line: @zort