ชื่อร้าน ตั้งยังไงให้ปัง ลูกค้าจำได้ตั้งแต่ครั้งแรก

12,266 views

แนะนำเทคนิคการตั้งชื่อร้านยังไงให้ขายดิบขายดี ลูกค้าหลงรักจนทักมาซื้อซ้ำ

ในปัจจุบันการขายของไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกต่อไป เพราะเรามีช่องทางออนไลน์ที่ช่วยให้เปิดร้านได้ง่ายๆ สร้างรายได้เพิ่มอีกทาง แต่อันดับแรกที่ทุกคนจะต้องนึกถึงเลยก็คือการตั้งชื่อร้านเก๋ๆ ยังไงให้ลูกค้าจดจำได้ ยิ่งเป็นชื่อร้านมงคลเสริมดวงด้วยได้ยิ่งดี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องบ่งบอกความเป็นตัวเราด้วย มันเลยเป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัวให้กับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ไม่น้อยเลยทีเดียว เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีเทคนิคการตั้งชื่อยังไงให้ร้านเราเป็นที่จดจำกัน

 

เปิดเทคนิคการตั้งชื่อร้านค้ายังไงให้ปัง

เก๋ไก๋แต่จำง่าย เรียกติดปาก

 

ชื่อร้านเก๋ๆ ความหมายดีๆ มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะมันจะทำให้ดูแตกต่างและสะดุดตา คำศัพท์ที่เลือกใช้ควรเป็นคำศัพท์ใหม่หรือมีนัยยะแฝงเฉพาะ ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ยาวมากเกินไป มีความหมายดี ลูกค้าเห็นแล้วจะต้องหันมาตั้งใจอ่านใหม่อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจง่าย เป็นคำที่ใช้กันในวงการขายสินค้าของเรา ข้อควรระวังคือต้องไม่มีชื่อย่อหรือการย่อคำในชื่อร้าน เพราะเกิดความสับสนง่าย แถมยังทำให้จำยากอีกต่างหาก

 

ใช้ภาษาพื้นเมือง

 

กรณีที่เราขายสินค้าพื้นบ้าน อย่างเช่นอาหารเหนือ พริกแกงใต้ ของหายากในอีสาน เราขอแนะนำให้ใช้ภาษาพื้นเมืองเลย เพราะนอกจากจะมีเอกลักษณ์ จดจำง่าย ยังบ่งบอกถึงสินค้าของร้านเราได้ดีอีกด้วย อย่างเช่นของกิ๋นบ้านเฮา พริกแกงหร่อยแรง ยิ่งเราเลือกชื่อที่มีความคล้องจองกัน ยิ่งช่วยให้ชื่ออ่านลื่นตามากขึ้น

 

เพิ่มความน่าเชื่อถือ

 

นอกจากชื่อร้านเก๋ๆ จําง่ายจะเป็นสิ่งสำคัญแล้ว ความน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจด้วยเหมือนกัน ยิ่งเป็นร้านออนไลน์ที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักกลัวโดนโกงด้วยแล้ว เรายิ่งควรทำให้ชื่อร้านดูเป็นทางการมากขึ้น เทคนิคง่ายมาก เพียงแค่เราใส่ภาษาอังกฤษเข้าไปว่า Official Store หรือ Shop จะใส่ติดชื่อเราเลยหรือใส่ท้ายสัญลักษณ์อันเดอร์สกอร์ “_” ก็ได้เหมือนกัน

 

มีชื่อสินค้าและเป็นภาษาไทย

 

ปกติแล้วลูกค้าไม่ค่อยจำว่าร้านไหนชื่ออะไร เวลาจะซื้อจึงมักจะพิมพ์ในช่องค้นหาเป็นชื่อของสินค้าไปเลย อย่างเช่นหากต้องการซื้อน้ำพริก ก็จะพิมพ์คำว่าน้ำพริกลงไป ดังนั้น หากเราต้องการให้ร้านเราถูกค้นเจอเป็นชื่อแรกๆ ก็ให้ตั้งชื่อเป็นภาษาไทย มีชื่อของสินค้าภายในชื่อร้าน ก็จะช่วยให้ลูกค้าเจอกับร้านเรามากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น น้ำพริกหรอยแรง Official หากต้องการให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น จะใช้เป็น น้ำพริกแกงใต้หรอยแรง Official ก็ได้เช่นกัน

 

 

รวมวิธีการตั้งชื่อร้านมงคลตามศาสตร์ความเชื่อ

 

การตั้งชื่อร้านในยุคปัจจุบันจะเน้นความสวยงาม บ่งบอกความเป็นร้านของเรา หรือเน้นทางการอย่างเดียวไม่พออีกต่อไป เพราะช่วงนี้การมูเตลูกำลังมาแรง อะไรช่วยเพิ่มยอดขายได้ หลายคนก็ยินดีที่จะทำเพิ่ม เราจึงจะพาทุกคนไปดูวิธีการตั้งชื่อมงคลให้กับกิจการอย่างไรตามศาสตร์ความเชื่อแต่ละรูปแบบ

 

ตั้งตามความหมาย

 

นอกจากเราจะต้องตั้งชื่อร้านเก๋ๆ แล้ว ความหมายจะต้องดีด้วย เพราะชื่อมงคลก็คือชื่อที่มีความหมายดีนั่นเอง เป็นวิธีการง่ายๆ สุดคลาสสิคที่ได้ผลดีเสมอ ยิ่งถ้าเราตั้งชื่อตามสินค้าที่วางขายด้วยยิ่งดีเข้าไปอีก หลายคนอาจมองว่าชื่อมงคลจะต้องตั้งตามหลักเป๊ะๆ ทำให้มีความยุ่งยากและต้องคิดหลายขั้นตอน แต่ความจริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดตามหลักโหราศาสตร์ก็คือจิตใจและความรู้สึกที่เป็นมงคลขณะทำบางสิ่งบางอย่าง หรือที่หลายคนเรียกกันปิดปากว่าการถือเคล็ดนั่นเอง เพราะหากชื่อเรามีความหมายที่ดีและเป็นชื่อที่เราชื่นชอบ สามารถบ่งบอกความเป็นร้านค้า ตัวสินค้าของเราได้ พอไปเที่ยวกับคู่แข่งที่มีชื่อไม่ค่อยจะเป็นมงคลสักเท่าไหร่ อ่านแล้วความหมายไม่ดีเอาซะเลย แน่นอนว่าเราก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

 

ตั้งชื่อร้านมงคลตามดวงเจ้าของ

 

สิ่งที่ใช้คำนวณว่าชื่อมนุษย์มีความเป็นสิริมงคลหรือไม่จะประกอบไปด้วย 2 อย่าง นั่นก็คือวันเกิดของเราและหลักทักษาปกรณ์ ร้านก็เปรียบเสมือนกับร่างแยกของเรา เพราะเราใช้มันในการทำมาหากิน ดังนั้นชื่อร้านจึงต้องมีความสอดคล้องกับดวงของเราด้วยเช่นกัน สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คืออักษรกาลกิณีตามวันเกิด ดังนี้

 

  • วันจันทร์ ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร อ และสระทั้งหมด
  • วันอังคาร ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร ก ข ค ฆ ง
  • วันพุธกลางวัน ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร จ ฉ ช ซ ฌ ญ
  • วันพุธกลางคืน ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
  • วันพฤหัสบดี ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร ด ต ถ ท ธ น
  • วันศุกร์ ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร ย ร ล ว
  • วันเสาร์ ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ
  • วันอาทิตย์ ให้หลีกเลี่ยงตัวอักษร ศ ษ ส ห ฬ ฮ

แต่การหลีกเลี่ยงตัวอักษรกาลกิณีอย่างเดียวไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้ายของการตั้งชื่อ หลังจากที่เพื่อนๆ ได้ชื่อที่ชื่นชอบแต่ไม่มีอักษรกาลกิณีเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อไปที่เราต้องทำก็คือการนำเอาไปคำนวณเป็นตัวเลข เพื่อดูว่าชื่อนี้จะส่งผลต่อดวงของร้านยังไง

 

ตั้งชื่อร้านค้าออนไลน์ ภาษาอังกฤษตามหลักเลขศาสตร์

 

สำหรับคนที่ขายของออนไลน์ มันจำเป็นที่เราจะต้องตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ เพราะบัญชีไม่สามารถตั้งชื่อเป็นภาษาไทยได้ ปัญหาที่ตามมาสำหรับชาวไทยอย่างเราก็คือแล้วจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นมงคล ปัญหานี้จะหมดไปเพราะเราได้นำเอาค่าตัวเลขตามตัวอักษรภาษาอังกฤษให้ทุกคนแนะนำเอาไปบวกลบคูณหารแล้วตรวจสอบความหมายตามหลักโหราศาสตร์ด้วยตัวเองได้เลย ดังนี้

  1. A I  J  Q  Y
  2. B K  R
  3. C G  L  S
  4. D M  T
  5. E H  N  X
  6. U V  W
  7. O Z
  8. F P

 

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องระมัดระวังในการตั้งชื่อภาษาอังกฤษก็คือความหมาย เราต้องมั่นใจว่าชื่อที่เราใช้เป็นภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายที่ดี หากเป็นการใช้คำทับศัพท์ก็ต้องมั่นใจว่าตัวสะกดถูกต้อง ยิ่งเป็นคำทับศัพท์ชื่อสถานที่ด้วยแล้วยิ่งต้องระมัดระวังให้ดี เพราะมันจะส่งผลต่อการค้นหาของลูกค้าได้ ถ้าเราพิมพ์ถูกก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

ตั้งชื่อร้านค้าแล้วต้องทำยังไงต่อ เปิดลายแทงวิเคราะห์ชื่อร้านและการจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์

หากเราได้ตั้งชื่อร้านขายของที่ถูกใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มันก็ยังไม่จบเท่านั้น เพราะเรายังสามารถไปต่อได้ด้วยการตรวจสอบวิเคราะห์ชื่อว่ามีความเป็นมงคลจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์อีกด้วยว่าชื่อที่เราต้องการใช้สามารถยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลได้หรือเปล่า ในกรณีที่เราไม่ใช่เจ้าของร้านเพียงแค่คนเดียว โดยสิ่งที่ทุกคนควรรู้มีดังนี้

 

  • โปรแกรมตั้งชื่อร้านค้ามงคล สำหรับใครที่ตั้งใจออกแบบชื่อร้านมาอย่างเป็นมงคลเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มั่นใจว่ามันเป็นสิริมงคลกับเจ้าของกิจการอย่างตัวเองจริงหรือไม่ เราขอแนะนำให้เข้าสู่เว็บไซต์วิเคราะห์ชื่อร้านค้าทั้งหลายเลย สิ่งที่ต้องระบุก็คือวันเกิดของเจ้าของกิจการ บางเว็บไซต์ก็จะให้ระบุวันเกิดของผู้ที่มีส่วนร่วมในกิจการด้วย จากนั้นก็เลือกหมวดหมู่ร้านค้า หากไม่มีในตัวเลือกก็ให้ระบุในช่องว่าง เสร็จแล้วก็พิมพ์ชื่อร้านค้าไปเลย คลิกคำว่าวิเคราะห์ชื่อ เราก็จะได้ทราบผลแล้วว่าชื่อของเรามีความเป็นสิริมงคลจริงหรือไม่ มีอะไรที่ต้องปรับแก้หรือเปล่า

 

  • จดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ หลังจากที่เรามีไอเดียตั้งชื่อร้านออนไลน์ กรณีที่เราตั้งใจจะจัดตั้งกิจการเป็นนิติบุคคล สิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือการจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์นั่นเอง ให้เราเข้าสู่เว็บไซต์ ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จะยืนยันด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจก็ได้เช่นเดียวกัน จากนั้นก็ทำการเปิดใช้งาน User ผ่านทางอีเมล์ภายในระยะเวลา 30 วัน หลังจากนั้นกรอกข้อมูลลงไปในระบบ นายทะเบียนจะทำการตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ จากนั้นให้เราลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ แล้วยื่นคำขอการจดทะเบียน พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียม นายทะเบียนก็จะทำการรับจดทะเบียนให้กับเรา หลังจากนั้นเราก็สามารถรอรับเอกสารหลักฐานในการจดทะเบียนได้เลย

 

 

ตั้งชื่อร้านให้รวยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่ได้มีเพียงแค่ความไพเราะเสนาะหู จดจำง่าย หรือมีความเป็นมงคลเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกับใคร โดยเฉพาะหากต้องการจะจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ หรือต่อให้เราไม่ต้องการจดทะเบียน การตั้งชื่อที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ก็จะช่วยให้ลูกค้าไม่เกิดความสับสน เข้าใจผิดว่าเราเป็นร้านอื่น ยิ่งเป็นชื่อมงคลด้วยแล้ว ยิ่งจะช่วยเสริมดวงให้ทุกคนทำมาค้าขายร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก