เปิดแนวทางแก้ปัญหาขายของออนไลน์หลายช่องทางอย่างไร? ให้มีประสิทธิภาพ ไม่โดนคอมเพลน

เมื่อหนึ่งในช่องทางการทำธุรกิจได้มาอยู่บนโลกออนไลน์ การซื้อขายต่าง ๆ ก็เติบโตและเข้าถึงผู้คนได้จากทุกพื้นที่ รวมถึงเกิดเป็นแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ผู้บริโภคได้เข้าไปใช้บริการไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Tiktok, LineOA, Twitter, Youtube, Lazada, Shopee, Amazon และอื่น ๆ อีกมากมาย ๆ ที่เป็นหนึ่งในช่องทางการทำรายได้ของใครหลายคนและแน่นอนว่าร้านค้าไม่ได้มีช่องทางเดียวในการซื้อ-ขายผลที่ตามมาก็คือปัญหาการขายของหลายช่องทาง แล้วเราจะแก้ได้อย่างไร ZORT จะพาคุณไปหาแนวทางการแก้ไขปัญหาขายของออนไลน์ให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่นซึ่งอย่ารอช้า! ไปลุยกันเลย

เจาะ 7 ข้อดีของการซื้อขายออนไลน์

ก่อนจะไปรู้ปัญหาขายของออนไลน์ มารู้ข้อดีกันก่อนดีว่าทำไมผู้คนที่นิยมซื้อของผ่านออนไลน์ที่รวบรวมเอา 7 ข้อดีของการซื้อขายออนไลน์ ดังนี้

1. สั่งซื้อได้รวดเร็ว บนโลกออนไลน์ผู้ซื้อมักจะต้องการความรวดเร็ว เสิร์ชหาไอเท็มที่อยากได้ก็แสดงผลทันที แถมยังสั่งซื้อได้ไว แค่ค้นหาสินค้า หยิบใส่ตะกร้า หรือรถเข็นก็สามารถไปสู่หน้าคำสั่งซื้อและชำระเงินก็รอจัดส่ง เตรียมรับสินค้าถึงหน้าบ้านได้ทันที 
2. มีโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย บนแพลตฟอร์มมักจะมี Flash sales หรือโปรโมชั่น หรือแคมเปญต่าง ๆ ที่เจ้าของแพลตฟอร์มจัดขึ้นเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้าและยังส่งผลดีต่อลูกค้าให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพคงเดิมแต่ในราคาที่ถูกลง 
3. ลดต้นทุนหน้าร้าน เพราะการเป็นเจ้าของที่เองแล้วมาเปิดร้านค้าคงทำได้ยากมากในปัจจุบันเนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ค่อนข้างสูง ยิ่งพื้นที่ไหนเป็นที่นิยมยิ่งราคาพุ่งปริ๊ด แต่หลังจากมีแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ช่วยให้เราสร้างหน้าร้านได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้เราขายสินค้าในราคาที่ถูกลงได้ โดยไม่ต้องกังวลถึง Fixed cost เช่น ค่าเช่าหน้าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น 
4. ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความยืดหยุ่นมากกว่าหากลูกค้าว่างช่วงไหนก็สามารถมากดเลือกสินค้าและสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงทำให้ขายสินค้าเมื่อไหร่และที่ไหนก็ได้ 
5. เปรียบเทียบราคาสินค้าได้ง่าย ด้วยความทันสมัยของระบบออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ขายเปรียบเทียบราคาสินค้าในตลาดได้ง่ายเพื่อช่ยตั้งราคาดึงดูดใจผู้บริโภค รวมถึงผู้บริโภคเองก็สามารถ 
6. เข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดจำนวนและตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว เพราะการขายสินค้าแบบมีหน้าร้านจะเข้าถึงลูกค้าได้แค่จำนวนหนึ่ง แต่ในโลกออนไลน์คุณเข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดแค่เขาใช้แพลตฟอร์มเดียวกันคุณก็สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลกและยังตอบกลับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องรอนานด้วยระบบการตอบกลับอัตโนมัติ หรือตัวChatbot ที่จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอนานและประหยัดเวลาการทำงานของแอดมินให้มีเวลาโฟกัสการให้บริการได้ดีมากยิ่งขึ้น 
7. ชำระเงินได้หลายช่องทาง เพิ่มความสะดวกในการชำระเงินที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพียงแค่เงินสด (Cash) เท่านั้น แต่สามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลายตามการรองรับในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต True Money Wallet Dollphine Wallet QR Code หรือการชำระเงินออนไลน์ผ่านธนาคาร 

ส่องปัญหาการขายของหลายช่องทางที่พบบ่อย พร้อมแนวทางการแก้ไข 

รู้หรือไม่ว่าปัญหาการขายของหลายช่องทางมีผลกระทบกับธุรกิจมากกว่าที่คุณคิดซึ่ง ZORT ได้รวบรวม 5 ปัญหาที่พบบ่อย พร้อมแนวทางแก้ไขเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด ดังนี้ 

1. สต๊อกพัง หนึ่งในปัญหาการขายของหลายช่องทางที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อซึ่งค่อนข้างเลี่ยงได้ยากหากไม่ได้มีการจัดการระบบมาดีตั้งแต่เนิ่น ๆ ส่งผลให้เสียโอกาสทางการขายและยังต้องเสียเวลาในการเช็คจำนวนสินค้าที่ขายได้ สินค้าที่เหลือซึ่งค่อนข้างชวนให้ปวดหัว 

   แนวทางแก้ไข: การทำระบบหลังบ้านซึ่งจะต้องมีคนคอยเช็คสต๊อกและคนที่นับสต๊อกสินค้าในแต่ละแพลตฟอร์มว่าขายได้เท่าไหร่ซึ่งจะต้องอัปเดตให้คนเช็คสต๊อกทราบอยู่เสมอเพื่อที่จะได้วางแผนเพิ่มสต๊อกได้ทันและทุกครั้งที่เกิดปัญหาสต๊อกพังไม่ว่าจะมาจากสินค้าไม่ขึ้นระบบ สินค้าไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ระบบการเติมสต๊อกขัดข้องจะต้องหาสาเหตุให้เจอแล้วรีบทำการแก้ไข สิ่งเหล่านั้นซึ่งอาจจะปิดรับออร์เดอร์ชั่วคราวไปก่อน   

2. ออเดอร์ตกหล่น หรือจดออเดอร์ซ้ำ อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะร้านค้าที่ขายหลายช่องทางและไม่ได้เคลียร์ยอดออเดอร์ในแต่ละแพลตฟอร์มและก็ยังเปิดรับออร์เดอร์อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งหากมีปริมาณออเดอร์เข้ามาเยอะจัดการไม่ดีมักทำให้ออร์เดอร์ตกหล่น หรือจดออร์เดอร์ซ้ำ ๆ ก็ย่อมส่งผลต่อรายได้ของร้านแน่นอน 

   แนวทางแก้ไข: ต้องมีการจดบันทึกออเดอร์และต้องทำการยืนยันออร์เดอร์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องกับลูกค้าทุกครั้ง ๆ อีกทั้งยังต้องมีเวลาเปิด-ปิดรับออร์เดอร์ที่ชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการเช็คออเดอร์แต่ละรอบ  

3. ความซับซ้อนในการอัปเดตข้อมูล  เนื่องจากมีการขายหลาย ๆ แพลตฟอร์มซึ่งอาจจะส่งผลดีในเรื่องของยอดขายและกำไร แต่ปัญหาหนึ่งที่เจอเป็นประจำคือการอัปเดตข้อมูลที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนเนื่องจากใช้หลายแพลตฟอร์มที่บางร้านมักนำมารวมกันแต่แยกอัปเดตข้อมูลทีละอัน รวมถึงการแก้ไข เพิ่มจำนวนสินค้าในแต่ละแพลตฟอร์มซึ่งอาจจะทำให้เกิดการตกหล่นของข้อมูลได้ง่าย 

   แนวทางแก้ไข: ควรแยกไฟล์การขายของแต่ละแพลตฟอร์มออกจากกันให้ชัดเจน ส่วนการอัปเดตข้อมูลให้ทยอยทำทีละอันให้เรียบร้อยแล้วค่อยข้ามไปแพลตฟอร์มอื่น ๆ จะช่วยให้การกรอกข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  

4. ข้อมูลสรุปบัญชีไม่ถูกต้อง เพราะการที่มีช่องทางหลายแพลตฟอร์มอาจจะส่งผลต่อการทำสรุปผลบัญชีที่อาจจะนำยอดขายทุกแพลตฟอร์มมารวมกันทำให้ไม่ทราบว่าช่องทางไหนขายดี ได้กำไร หรือขายทุนเท่าไรส่งผลให้ข้อมูลสรุปบัญชีที่ออกมาในรูปแบบรายงานไม่ถูกต้องและยังส่งผลต่อการวางแผนกลยุทธ์เพื่อต่อยอดการขายในแต่ละช่องทาง 

   แนวทางแก้ไข: สิ่งที่อยากเน้นย้ำสำหรับผู้ที่ขายของออนไลน์หลายช่องทาง หรือหลาย ๆ แพลตฟอร์มคือการทำบัญชีแยกออกจากกันในแต่ละแพลตฟอร์มให้ชัดเจน พร้อมการทำสรุปยอดขายแต่ละวันในแต่ละแพลตฟอร์เพื่อให้ทราบว่าขายสินค้าตัวไหนได้ดี ช่องทางไหนขายดีสุด สินค้าตัวไหนไม่ได้กำไร ช่องทางไหนขายได้น้อยซึ่งง่ายต่อการเช็คและนำข้อมูลไปวิเคราะห์จัดทำสรุปเพื่อวางแผนทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

5. ตอบกลับลูกค้าไม่ทัน ไม่ทั่วถึง หรือรอนาน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ว่าร้านเล็ก หรือร้านใหญ่ก็มักจะสามารถผิดพลาดได้เนื่องจากบางครั้งมีการให้แอดมินตอบกลับเพียงช่วงเวลาทำการ เช่น 06:00 – 20:00 น. แต่หลังจากนั้นที่อาจจะมีลูกค้าทักมาก็อาจจะต้องรออีกวันถึงจะได้ตอบกลับ หรือหากร้านที่มีผู้ใช้งานเข้ามาสอบถามเยอะ ๆ แต่มีแอดมินตอบกลับไม่เพียงพอก็ส่งผลต่อการตอบกลับที่ไม่ทันและได้ไม่ทั่วถึงทำให้ลูกค้าที่ต้องรอเปลี่ยนใจไปซื้อร้านอื่นแทน
   
   แนวทางแก้ไข: หากการที่ตอบแชทไม่ทันมาจากคำถามที่เจอบ่อย ๆ อาทิ สนใจสินค้าตัวนี้ ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลเรื่องอะไร  ราคาเท่าไหร่ ชำระเงินอย่างไร สั่งซื้อได้ช่องทางไหนบ้าง เราสามารถนำคำถามเหล่านี้มาสร้างเป็นข้อความตอบกลับอัตโมัติ (Chatbot) ที่จะช่วยให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ผู้สอบถามระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตอบกลับและควรจะหมั่นตรวจสอบช่องแชทแต่ละแพลตฟอร์มเป็นประจำว่าไม่ได้ค้างแชท หรือยังไม่ได้ตอบลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้แก่ร้านค้าได้มากขึ้น

ก็เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าขายของหลายที่ดีอย่างไร แต่ก็อยากให้เตรียมความพร้อมถึงปัญหาขายของออนไลน์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยควรหมั่นตรวจเช็คระบบหลังบ้านเป็นประจำเพราะถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงและช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหากมีการจัดการระบบหลังบ้านที่ดีพอ แม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นก็ไม่กระทบการทำงาน

โดย ZORT เหมาะกับเป็นตัวช่วยทางธุรกิจของคุณในการดูแลและจัดการระบบร้านค้าออนไลน์ที่ครอบคลุมไปยังออฟไลน์อย่างครบวงจร รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการขายของได้หลายช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งในเรื่องของจัดการสต๊อก ออเดอร์ บัญชี อัปเดตข้อมูลและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบหลังบ้านของคุณเป็นเรื่องง่ายและมีฐานที่แข็งแรง

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort