ส่อง 5 เทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย ประจำปี 2025 รู้ไว้ถ้าไม่อยากตกขบวน

1 views

เทรนด์ E-Commerce ประเทศไทย 2025 มีอะไรบ้างที่นักธุรกิจต้องจับตามอง

 

ตลาดออนไลน์ในไทยหรือตลาด E-Commerce เป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดมาอย่างยาวนาน ทุกธุรกิจต่างก็ตั้งใจพัฒนาสินค้าและบริการอยู่ตลอด ทั้งต่อสู้กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในแล้วตลาด รวมถึงแบรนด์น้องใหม่ที่อาจมาแรงแซงทางโค้งได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องใส่ใจและจับตามองเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ มาดูกันว่างาน Priceza Thailand’s E-Commerce Trends 2025 ได้สรุปเนื้อหาอะไรน่าสนใจมาให้นักธุรกิจกันบ้าง

 

Highlight & Summary

  • ภายในปี 2030 มีการคาดการณ์การเติบโตของมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท 
  • Affiliate Commerce เป็นเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยที่น่าจับตามองที่สุด แบรนด์ต้องคอยมองหา Content Creator ที่สามารถสื่อสารถึงแบรนด์ได้ดี และนำมาเป็นพาร์ทเนอร์ในการสร้างยอดขายให้กับแบรนด์
  • จากข้อมูลเผยว่า บนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Shopee, LAZADA และ TikTok มีผู้ขายรวมกันกว่า 3 ล้านรายและมีสินค้ามากกว่า 300 ล้านรายการ

 

เทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย ประจำปี 2025

 

ภาพรวมการเติบโตของ E-Commerce ในไทย ประจำปี 2025

Priceza ได้เผยสัดส่วนมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยมีสัดส่วนอยู่ที่ 16.4% รองจากอินโดนีเซียซึ่งอยู่ที่ 40.9% เมื่อเทียบกันแล้วถือว่าตลาดออนไลน์ในไทยห่างกับตลาดของอินโดนีเซียประมาณหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2024 อยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท ส่วนปี 2025 อยู่ 1.07 ล้านล้านบาท และมีการคาดการณ์การเติบโตของ E-Commerce ของไทยในปี 2030 ไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท

 

โดยช่องทาง E-Commerce ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดอยู่ในหมวดหมู่ Marketplace คิดเป็น 50% ของสัดส่วนทั้งหมด เช่น Shopee, LAZADA, Central, Konvy, NocNoc และ Pomelo รองลงมาจะเป็นหมวดหมู่ Video Commerce เช่น TikTok, Facebook, YouTube และ Instagram ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 20%

 

Affiliate Commerce เป็นเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยที่น่าจับตามองที่สุด

 

นักการตลาดห้ามพลาด! 5 เทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจ

 

1. Affiliate Commerce โมเดลการตลาดที่ไม่ควรมองข้าม

Affiliate Commerce กลายเป็นโมเดลการตลาดที่สำคัญในอีคอมเมิร์ซไทยปี 2025 ผลสำรวจเผยว่า 83% ของผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการตามที่อินฟลูเอนเซอร์แนะนำ ซึ่ง Content Creator ในไทยกว่า 9 ล้านเป็นช่องทางการสื่อสารที่สำคัญให้กับแบรนด์อย่างมาก ทำให้ภายในปี 2025 แบรนด์ต่าง ๆ จะพาแย่งชิงครีเอเตอร์ที่เก่งและสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ดี นำมาเป็นพันธมิตรและสร้างยอดขายให้กับแบรนด์มากกว่าการสร้าง Brand Awareness ซึ่งเทรนด์นี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เหล่าครีเอเตอร์ทำ Affiliate เองโดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างชาติอีกด้วย

 

2. Competition in Thailand E-Commerce is Heating Up!

การแข่งขันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2025 มีการคาดการณ์ว่าบนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Shopee, LAZADA และ TikTok มีผู้ขายรวมกันกว่า 3 ล้านรายและมีสินค้ามากกว่า 300 ล้านรายการ ยิ่งไปกว่านั้นแบรนด์จีนก็หันมาเปิด Official Stores ในราคาที่ถูกกว่าเพื่อแข่งกับผู้ขายไทยโดยตรง บวกกับกฎหมายที่เอื้อต่อการส่งสินค้าราคาถูก ถ้าสินค้านั้นราคาไม่เกิน 1,500 บาทก็ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับคู่ค้าในตลาดโลก รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ให้ได้

 

 

E-Commerce Listening เป็นเครื่องมือที่ผู้ค้าอีคอมเมิร์ซไทยควรใช้ในปี 2025

 

 

3. E-Commerce Listening การตลาดแบบรู้เขา รู้เรา

สิ่งสำคัญในการครองใจลูกค้าคือการเข้าใจ Insight ของลูกค้า เครื่องมือ E-Commerce Listening จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการค้นหาโอกาสและเทรนด์สินค้าใหม่ ๆ ในตลาด รวมไปถึงการวิเคราะห์คู่แข่ง ทั้งราคา ยอดขาย และกลยุทธ์ เพื่อเอามาปรับใช้และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจปรับตัวกับการแข่งขันได้เร็ว และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที

 

4. E-Commerce Business Model Evolution โมเดลธุรกิจใหม่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ

เทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยอันต่อมาเป็นอะไรที่น่าจับตามองอย่างมาก จากการแข่งขันอย่างดุเดือดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกิด 3 โมเดลธุรกิจใหม่ที่จะมีบทบาทมากขึ้นกับตลาด E-Commerce ของไทยในปี 2025 อย่างแน่นอน

 

  • Vertical Marketplace ช่องทางอีคอมเมิร์ซที่เน้นไปที่สินค้าเฉพาะทาง มักจะเป็นสินค้าหมวดหมู่ Home & Living และ Fashion & Beauty

  • Consignment Model หรือระบบฝากขาย ผู้ขายไม่จำเป็นต้องทำการตลาดเอง แต่ตัวแพลตฟอร์มจะทำการตลาดและขายสินค้าให้แทน

  • Refocus on Own Retail Channel แบรนด์เลือกที่พัฒนาช่องทางการขายอย่างเว็บไซต์หรือ Application ของแบรนด์เอง เพื่อลดค่าธรรมเนียม Marketplace

เทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยในปี 2025 ลูกค้าคาดหวังให้แบรนด์ส่งสินค้าภายใน 1 วัน

 

5. Fast delivery like a devil! ส่งไวกว่า ได้ใจไปเลย

สิ่งที่แบรนด์ต้องฟาดฟันกันไม่ได้มีแค่ราคา แต่ยังรวมไปถึงการส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป เริ่มอดทนรอกับสินค้าได้น้อยลง คาดหวังให้แบรนด์ส่งสินค้าภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือ 1 วัน แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Shopee, LAZADA และ TikTok จึงกดดันให้ผู้ขายส่งสินค้าให้เร็วขึ้นไปด้วย เพราะจะส่งผลต่อคะแนนของร้านค้า แต่ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกอย่าง 7-Eleven, Lotus’s, และ Makro ใช้ความได้เปรียบของการมีสาขา ในการจัดส่งสินค้าภายในวันสั่งซื้อ

 

“ZORT Shipping” ตัวช่วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ช่วยบริหารจัดการส่งสินค้าในราคาประหยัด มีครบทุก Features เลือกผู้ให้บริการขนส่งได้ตามความต้องการ รองรับการเข้ารับพัสดุถึงที่บ้านและบริการเก็บเงินปลายทางอีกด้วย เริ่มต้นเพียง 99 บาท/เดือนเท่านั้น!

 

 

สรุป

จบไปแล้วกับเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทยในปี 2025 จากทาง Priceza เห็นได้ชัดเลยว่าผู้ขายในไทยต้องปรับตัวและวางแผนกลยุทธ์ให้รัดกุมอย่างมาก ไหนจะความคาดหวังจากฝั่งผู้บริโภค รวมถึงการบุกของตลาดอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ โดยเฉพาจีนที่เรียกได้ว่าเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ ลองวิเคราะห์โดยการใช้ Insight และข้อมูลหลังบ้านของแบรนด์ดู ไม่แน่ว่าคุณอาจจะมองเห็นช่องว่าง จนสามารถพาแบรนด์ประสบความสำเร็จได้

 

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort