อัปเดต 7 เทรนด์การตลาดปี 2025 มีประเด็นอะไรน่าจับตามองบ้าง
ในปี 2024 ที่ผ่านมาเกิดเทรนด์การตลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คนให้ความสนใจกับคลิปวิดีโอสั้น การเข้ามามีบทบาทของ AI หรือ Influencer Marketing ที่ยังคงมีอิทธิพลมาจนถึงตอนนี้ แต่ละธุรกิจต้องคอยติดตามข่าวสาร พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวคิดใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ มาดูกันดีกว่าว่าเทรนด์การตลาดประจำปี 2025 ที่จะกำลังถึงนี้ มีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้าง
Highlight & Summary
- เมื่อก่อนธุรกิจอาจเน้นทำการตลาดไปที่กลุ่ม Gen Z เท่านั้น แต่เทรนด์การตลาด 2025 เผยว่าคนอีก Generation ที่เริ่มมีบทบาทมากขึ้นคือ Sliver Generation คนวัยเกษียณที่มีสุขภาพดีและกำลังซื้อสูง
- คนเริ่มคุ้นชินกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทำให้มาตรฐานของโฆษณาที่สามารถดึงความสนใจของพวกเขาก็เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย แบรนด์จึงต้องสร้างสรรค์ที่แตกต่างและโดเด่นจากคู่แข่งให้ได้มากที่สุด
- คนยังให้ความสำคัญกับ Sustainability เหมือนเดิม คนทั่วโลกต้องการไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนมากขึ้น ในฝั่งคนไทยยังมีความต้องการซื้อไม่มากนัก เพราะสินค้าที่เป็น Sustainability ราคาสูงเกินไป
1. โครงสร้างประชากรในไทย (Population) กำลังเปลี่ยนไป
ข้อมูลจากงาน The Secret Sauce Summit 2024 โดยคุณอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ เผยว่าปัจจุบันมีประชากรชาวไทยทั้งหมด 71.6 ล้านคน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 40.1 ปี ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ
ทำให้เทรนด์การตลาดหลังจากนี้จะสนใจแค่คนรุ่นใหม่อาจจะไม่เพียงพอ นอกจากนี้คนกลุ่ม Silver Generation หรือผู้สูงวัยที่มีหัวทันสมัย จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีกำลังซื้อสูงจากการวางแผนการใช้ชีวิตมาอย่างดี
ไม่เพียงแค่โครงสร้างประชากรที่จะเปลี่ยนไป แต่คนใน 4 Generation หลักก็เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน สรุปคร่าว ๆ ดังนี้
- Gen Z: มี Commitment ต่ำกว่า Generation อื่น ๆ ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น งาน, ความสัมพันธ์ หรือทรัพย์สิน นิยมสื่อสารด้วยการใช้ข้อความ (Text) และมีความคาดหวังในสิ่งที่พวกเขาต้องได้รับค่อนข้างสูง เช่น ขึ้นเงินเดือน หรือได้รับการชื่มชนการที่ทำงาน เป็นต้น
- Gen Millennials: ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า แม้จะแพงก็ยอมจ่ายหากของพรีเมียม รวมถึงต้อง Sustainability และต้องการบริษัทที่ใส่ใจประเด็นสังคม เช่น ความเท่าเทียม, สิทธิของ LGBTQIA+ หรือสภาพภูมิอากาศ
- Gen Alpha: กลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อคนในครอบครัว เพราะใช้สื่อออนไลน์เยอะ พูดอะไรพ่อแม่ก็เชื่อตาม
- Silver Generation: ให้ความสำคัญกับสุขภาพ คุณภาพชีวิตที่ดี สนุก และสนใจสินค้าประเภทสุขภาพและความงามมากขึ้น
2. ความท้าทายในการสร้างแบรนด์สูงขึ้น
ตอนนี้มีธุรกิจใหม่ ๆ ที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมากมาย และจะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด นักการตลาดจึงต้องสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่สามารถดึงดูดความสนใจร่วม (Cultural Relevance) จากกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเทรนด์การตลาดในปี 2025 ได้พูดถึงความท้าทายในการสร้างแบรนด์แบ่งออกเป็น 3 Stages ดังนี้
- แบรนด์ผู้นำและอยู่ในตลาดมานาน ต้องทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูทันสมัย ตามเทรนด์ทันอยู่เสมอ แต่ยังคงรักษา Identity ของตัวเองไว้ได้ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากที่สุด
- แบรนด์หน้าใหม่ที่เริ่มมีส่วนแบ่งทางการตลาด ต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และดึงดูดคนให้เข้าถึงแบรนด์มากขึ้น
- แบรนด์เกิดใหม่ ต้องหมั่นโปรโมตให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ใส่ใจถึงยอดขายในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น
3. แค่เข้าใจลูกค้า ย่อมได้เปรียบกว่าใครเพื่อน
Customer Insight คือไม้ตายสำคัญของการทำการตลาด ถ้าเราเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็จะสามารถวางแผนกลยุทธ์ ไปจนถึงออกแบบสื่อโฆษณาที่ตอบโจทย์และดึงดูดใจพวกเขาได้ Customer Insight แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Aspirational Data สิ่งที่อยู่ในใจลูกค้าแต่ยังไม่ได้ลงมือทำ กับ Reality Data สิ่งที่ลูกค้าลงมือจริง ซื้อจริง ใช้จริง โดยการนำมาประยุกต์ใช้ต้องบาลานซ์ข้อมูลทั้งสองประเภท เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
4. อยากประสบความสำเร็จ ต้องสร้างคอนเทนต์ให้แตกต่าง
รายงาน Media Reactions 2024 จากบริษัท Kantar เปิดเผยว่าผู้คน 31% บอกว่าโฆษณาบนโซเชียลมีเดียสามารถดึงดูดความสนใจพวกเขาได้ ซึ่งในปีที่แล้วอยู่ที่ 43% แปลว่าความสนใจนั้นเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด คนเริ่มคุ้นชินกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทำให้มาตรฐานของโฆษณาและคอนเทนต์ที่สามารถดึงความสนใจของพวกเขาก็เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย
การทำคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์มอาจยังไม่เพียงพอ แต่เนื้อหาต้องโดดเด่นจากเจ้าอื่น หรือสร้างไอเดียใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน (Novelty) ซึ่งก็ต้องแยกตามความสนใจของคนแต่ละ Gen ไปอีก เช่น กลุ่ม Gen X และ Babyboomers ชื่นชอบโฆษณาแนวอารมณ์ขัน ส่วน Gen Z ชอบคอนเทนต์ที่มีเพลงเพราะ ๆ เป็นต้น
5. Sustainability ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ
Sustainability หรือความยั่งยืน เป็นเทรนด์การตลาดที่คนยังตระหนักถึงอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภค 93% ทั่วโลกต้องการไลฟ์สไตล์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น ทำให้ฝั่งธุรกิจมองเรื่องความยั่งยืนเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงไปในเวลาเดียวกัน เพราะในปัจจุบันหลายแบรนด์ก็ยังไม่สามารถสื่อสารหรือทำการตลาดแบบยั่งยืนได้อย่างชัดเจน
ส่วนฝั่งไทยก็มีผลวิจัยว่า 92% ของคนไทยเริ่มมีพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ในแง่ของธุรกิจ คนยังเลือกซื้อสินค้า Sustainability ไม่มากนัก เพราะราคาที่ค่อนข้างสูง
6. Live Streaming คือกลยุทธ์เด็ดในตอนนี้
การขายสินค้าผ่านช่องทาง Live Streaming จากจีนได้เปลี่ยนวิถีการซื้อขายสินค้าไปอย่างสิ้นเชิง McKinsey คาดการณ์ว่ายอดขายจากการไลฟ์สดอาจคิดเป็น 20% ของยอดขายปลีกทั้งหมดในประเทศจีน โดยมีกลุ่ม Gen Z และ Millennials เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
เพราะการขายและโปรโมตสินค้าผ่านทางไลฟ์สด ช่วยให้คนสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว พักหลังมานี้จึงมีแบรนด์ใหญ่ ๆ มากมายก็หันมาทำการตลาดผ่าน Live Streaming เพิ่มขึ้น เพื่อปกป้องส่วนแบ่งทางการตลาด ธุรกิจไหนที่ยังไม่ได้ลองขายสินค้าผ่านไลฟ์สดอาจตกขบวนไม่รู้ตัวน
7. Creator เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงลูกค้า
จากที่คราวก่อนเราเล่าถึง Creator Marketing Trend กันไป ทางฝั่ง Kantar ก็มีข้อมูลสนับสนุนเช่นกันว่า Creator มีอิทธิพลในการดึงดูดความสนใจและเข้าถึงแบรนด์อย่างมหาศาล รวมถึงสามารถสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภคได้อีกด้วย แบรนด์อาจลองมองหา Creator Community ที่ผลิตคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับสินค้าและบริการ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้มากขึ้น
สรุป
จะเห็นได้ว่าเทรนด์การตลาดในปี 2025 เน้นไปที่การทำแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภคในทุก Generation รวมถึงสร้างจุดยืนของแบรนด์ให้ชัดเจน เพื่อรักษาตำแหน่งและเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวอยู่เสมอ เพราะมีคู่แข่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาทุกวัน ยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้าถึงง่าย การถูกแย่งความสนใจและส่วนทางการตลาดก็ยิ่งง่ายขึ้นไปด้วยเช่นกัน
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort