ตัวจัดการโฆษณา Facebook คืออะไร วิธีใช้ยังไง คนทำธุรกิจออนไลน์ควรรู้!

ปัจจุบันการตลาดแบบดิจิทัล (Digital Marketing) ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนไป จึงทำให้นักการตลาดหลายธุรกิจต้องหันมาโฟกัสในการทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ Facebook สื่อออนไลน์ที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมใช้กันมาก จึงทำให้ Facebook เป็นช่องทางการทำการตลาดที่นักการตลาดนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของสื่อออนไลน์ Facebook ยังมีฟีเจอร์ช่วยในการทำการตลาดและโฆษณา สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้เลยก็คือ จัดการโฆษณา Facebook วันนี้ ZORT ชวนผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ทุกท่าน มาเรียนรู้กับ ตัวจัดการโฆษณาบน Facebook คืออะไร Facebook Ads Manager เข้ายังไง เพื่อให้คุณดูเป็นมืออาชีพ มาดูกันเลย

Facebook Ads Manager คืออะไร

ใครอยากทำการตลาดออนไลน์ใน Facebook เก่ง ๆ ก็ควรต้องทำรู้จักกับ Facebook Ads Manager กันก่อน ตัวจัดการโฆษณา Facebook คือ เครื่องมือสำคัญในรันและยิงโฆษณาบน Facebook ที่ได้ถูกพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับทุกประเภทธุรกิจต่างๆ ทั้งนี้ตัวจัดการโฆษณา Facebook สามารถปรับแต่งในการยิงแอดโฆษณา (Ads) พร้อมทั้งจัดการเองได้ตั้งแต่ การโพสต์ เลือกกลุ่มเป้าหมาย ควบคุมงบประมาณ และติดตามผลลัพธ์ของการทำโฆษณาได้ด้วย นอกจากนี้ Facebook Ads Manager ยังสามารถเชื่อมต่อบัญชีธุรกิจ ที่ต้องการยิง Ads ได้หลายบัญชี 

จุดเด่นของตัวจัดการโฆษณาบน Facebook

ฟีเจอร์ตัวจัดการโฆษณาบน Facebook คือจะช่วยให้เราสามารถทำโฆษณาและจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด ดังนี้

สร้างโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ

จุดเด่นแรกของตัวจัดการโฆษณาบน Facebook ที่สร้างความแตกต่างไม่เหมือนกับสื่อออนไลน์อื่นคือ สามารถสร้างโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการโพสต์รูปเดียว อัลบั้มภาพ สไลด์โชว์ หรือจะโฆษณาในแบบ Instant Experience และอื่น ๆ

กำหนดกลุ่มเป้าหมายเจาะจงได้อย่างชัดเจน

อีกหนึ่งจุดเด่นของฟีเจอร์ตัวจัดการโฆษณาบน Facebook เราสามารถจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงได้ละเอียด (Target Audience) เพื่อให้โฆษณาของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ 

ทำไมธุรกิจออนไลน์จึงควรต้องใช้ Facebook Ads Manager

คำถามที่หลายคนสงสัย ทำไมต้องเลือกทำโฆษณาบน Facebook แล้วดีกว่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร เราอธิบายอย่างนี้ จากรายงาน HubSpot’s 2021 State of Marketing พบว่าการโฆษณาบน Facebook คือช่องทางโซเชียลมีเดียที่สามารถได้ผลตอบแทนการลงทุนหรือ ROI มากที่สุด และ Facebook เป็นช่องทางการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยมีสาเหตุดังนี้

• Facebook คือ Social Media ที่คนนิยมใช้กันอย่างทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน Facebook มีบัญชีผู้ใช้งานที่เป็น Active User มากถึง 2.9 พันล้านบัญชี
• ผู้คนทั่วโลกได้ใช้เวลาเฉลี่ยในการเล่น Facebook มากถึง 35 นาทีต่อวัน จึงเลยนำไปสู่ Conversion ที่ทำให้สามารถปิดการขายสินค้า โดยผ่านการยิงแอดโฆษณา (Ads)
• โฆษณา Facebook มีโอกาสมากที่สามารถเข้าถึงประชาชนทั่วโลก (ที่มีอายุมากกว่า 13 ปี) ได้มากถึง 34.1%
• สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงได้อย่างละเอียด สำหรับการในการยิงแอดโฆษณา (Ads) ไม่ว่าจะเป็น Engagement, Page Likes, หรือ CTA อื่นๆ

จากทั้ง 4 เหตุผลที่เราได้กล่าวมา คุณสามารถเห็นได้เลยว่าการลงทุนทำโฆษณาบน Facebook ผ่านเครื่องมือ Facebook Ads Manager ได้ผลลัพธ์ที่ดี และสามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทำให้มีผู้คนเห็นโฆษณามากขึ้น ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุที่ทำให้ Facebook Ads นั้นกลายเป็นเครื่องมือการตลาด ในยุคนี้ที่มีประโยชน์มากมาย และคนทำธุรกิจออนไลน์ควรต้องใช้ตัวจัดการโฆษณา Facebook

FB Ads Manager สามารถทำอะไรได้บ้าง

• สร้างรูปแบบกิจกรรมการตลาดและแคมเปญการโฆษณา โดยมีวัตถุประสงค์ให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ ต้องการสร้างการรับรู้หรือความสนใจในสินค้าหรือบริการ / อนุญาตให้คนอื่นมีปฏิสัมพันธ์กับเพจของตัวเอง / ต้องการกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการตลาดที่ได้จัดขึ้น

   

• บริหารจัดการรูปแบบของกิจกรรมทางการตลาดและการโฆษณา โดยสามารถสร้างโฆษณาได้หลายรายการพร้อมในหน้าเดียว เริ่มตั้งแต่การตั้งค่า แก้ไข กำหนดกลุ่มผู้ชมที่ต้องการ ควบคุมงบประมาณ และจัดการในการยิงโฆษณา

   

• ตรวจเช็กประสิทธิภาพการโฆษณาจาก Facebook Analytics เนื่องจาก FB Ads Manager มีฟีเจอร์ที่ช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีปฏิสัมพันธ์กับเพจ ทำให้สามารถนำข้อมูลส่วนนี้มาใช้วิเคราะห์แล้วนำไปปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

Facebook Ads มีการทำงานอย่างไร

พอรู้จักกับตัวจัดการโฆษณา Facebook กันไปบ้างแล้ว คราวนี้หลายคนคงเริ่มอยากรู้แล้วว่า Facebook Ads Manager มีการทำงานอย่างไร เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ ซึ่งการยิงแอดโฆษณาผ่านการ Bidding โดยต้องมาแข่งกับคนอื่นๆ เพื่อช่วงชิงพื้นที่โฆษณาอัตราการมองเห็น ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวอัลกอริทึมของ Facebook ทำงานอย่างไร และมีวิธีในการคัดเลือก Ads จากอะไรบ้าง

วิธีคัดเลือกโพสต์และคอนเทนต์ลงบน Facebook

โดยตัวอัลกอริทึมของ Facebook พิจารณาจาก 4 กลุ่มปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่

1. Inventory

คอนเทนต์ทั้งหมดที่มีความเป็นไปได้ในการแสดงบน Feeds ของ Audience

2. Signals

โดยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับโพสต์ เช่น เวลาในการโพสต์, จำนวน Like, Share, Comment ฯลฯ

3. Predictions

เป็นคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ของโพสต์ที่ผู้ใช้งานน่าจะรู้สึกดี หรือมีส่วนร่วมในทางบวก

4. Score

คะแนนเป็นการใช้ Algorithm ของทาง Websites Facebook โดยมาจากปัจจัยทั้ง 3 ข้อข้างต้น ได้ทำสรุปมาตัวเลขเพื่อหาความเป็นไปได้ว่าโพสต์นั้นจะเป็นโพสต์ที่ผู้ใช้งานสนใจ และมีส่วนร่วมในทางบวก

วิธีที่ Facebook Ads ทำงานและใช้ในการคัดเลือก Ads

นอกจากพิจารณาจากความสนใจของผู้ใช้แล้ว วิธีที่ Facebook Ads ทำงานและใช้ในการคัดเลือก Ads ก็จะมีด้วยกัน 3 ปัจจัย ดังนี้

1. ความเกี่ยวข้อง (Relevance)

อันดับแรกที่ Facebook Ads จะดูเลยก็คือ โฆษณาตัวนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของผู้ใช้งานมากน้อยแค่ไหน ถึงแม้ว่าตัวโฆษณาที่ทำออกมาจะเน้นไปที่กลุ่มคนที่ยังไม่เคยมีความสนใจกับสินค้ามาก่อน แต่ในการที่จะลงโฆษณาบน Facebook แนะนำให้ทำ Target Audience เพื่อเป็นการบอกความต้องการให้กับอัลกอริทึมได้รับรู้ว่าต้องการเข้าถึงใครบ้าง

2. คุณภาพของโฆษณา (Ad Quality)

เรื่องคุณภาพของโฆษณา (Ad Quality) ซึ่งเป็นสิ่งที่อัลกอริทึมจะทำการวิเคราะห์ โฆษณามีความคิดสร้างสรรค์ มีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ขนาดรูป Facebookการเขียนแคปชัน รูปแบบของโฆษณาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ประเมินว่าผู้ใช้งานบน Facebook มีความสนใจหรือไม่

3. งบประมาณและการประมูล (Budget & Bidding)

แน่นอนว่ายิ่งลงทุนงบโฆษณามากก็ยิ่งได้เปรียบคนที่ลงทุนน้อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว ด้วยหลักการง่ายๆ การลงทุนในโฆษณา Facebook ยิ่งใช้งบมาก็จะสามรถกระจายการแสดงโฆษณาได้มากขึ้น นั่นหมายถึงมีคนเห็นมากเพิ่มขึ้น

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเริ่มโฆษณาในตัวจัดการโฆษณา Facebook

• อยากเริ่มต้นทำโฆษณาบน Facebook เพื่อต้องการสร้างรูปแบบกิจกรรมการตลาดและแคมเปญการโฆษณาดูบ้าง แต่ว่าคุณจะต้องมี 4 อย่างนี้ก่อนจึงจะสามารถยิงโฆษณาบน Facebook ได้ ดังนี้

   

• Facebook Page ต้องมีสิ่งนี้ก่อนจึงจะสามารถยิงโฆษณาบน Facebook

   

• ช่องทางการชำระเงิน สามารถจ่ายผ่าน Facebook Pay บัตรเครดิต หรือช่องทางที่กำหนดได้ เพราะถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถยิงโฆษณาบน Facebook

   

• คอนเทนต์หรือโฆษณา แนะนำให้ทำคอนเทนต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้สนใจคอนเทนต์ของเราได้

   

• URL Website หรือ Instagram Account การยิงโฆษณาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรจะต้องมี CTA ใน Post Ads โดยต้องมี Landing Page เพื่อให้ลูกค้าคลิกอ่านข้อมูล หรือคลิกเข้ามากรอกฟอร์ม เพื่อที่จะเพิ่มโอกาส Conversion นอกจากนี้ถ้าเรามี Instagram account ก็สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี Instagram กับตัวจัดการโฆษณา Facebook ได้เลย

วิธีการใช้งาน Facebook Ads Manager ง่าย ๆ ใครก็สามารถทำได้

วิธีเปิดการใช้งานตัวจัดการโฆษณาบน Facebook หรือ FB Ads Manager สามารถเปิดใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : สร้างโฆษณา

สิ่งแรกที่จะต้องมี Facebook Page สำหรับธุรกิจก่อน ถ้ายังไม่มีสามารถสร้างเพจได้ที่ Create a Page หากมี Facebook Page แล้วสามารถสร้างโฆษณาได้เลย

ขั้นตอนที่ 2 : เริ่มต้นสร้างกิจกรรมการตลาดและแคมเปญการโฆษณา

คลิกปุ่มสีเขียว “Create Ad” ให้เลือกวัตถุประสงค์มีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ Awareness, Consideration และ Conversion

ขั้นตอนที่ 3 : กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการจะส่งโฆษณาไปให้กลุ่มคนกลุ่มไหนดู เพื่อให้ Facebook ช่วยกรองหากลุ่มเป้าหมายให้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด โดยการเลือกกลุ่มเป้าหมายนั้นจะมีหัวข้อที่กำหนดมาให้ เช่น สถานที่ อายุ เพศ ภาษา พฤติกรรมความสนใจ หรือสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายเองได้ โดยเลือกจากข้อมูลที่คุณมีอยู่ก็ได้เช่นกัน

ขั้นตอนที่ 4 : การกำหนดงบประมาณในการโฆษณา

โดยการกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการใช้ในการยิงโฆษณาบน Facebook มีด้วยกัน 2 วิธีหลักในการที่คุณจัดสรร งบประมาณของการใช้สื่อโฆษณา คือ Daily Budget กำหนดจำนวนเงินโดยเฉลี่ยที่จะใช้จ่ายค่าโฆษณาต่อวัน และ Lifetime Budget กำหนดจำนวนเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมดในการโฆษณาในช่วงเวลาที่กำหนด

ขั้นตอนที่ 5 : สามารถกำหนดตำแหน่งการแสดงโฆษณาเองได้

แน่นอนเมื่อจ่ายเงินแล้วคุณก็สามารถเลือกตำแหน่งการแสดงโฆษณาได้เลย ต้องการให้อยู่ในตำแหน่งไหน เช่น ฟีดข่าวบน Facebook, Messenger เป็นต้น หรือถ้าใครมือใหม่ยังไม่รู้ว่าตำแหน่งตรงไหนที่ดี สามารถเลือกใช้เป็น Automatics Placements เพื่อให้ระบบประเมินหาตำแหน่งโฆษณาที่คุ้มค่ากับงบประมาณและที่สำคัญตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้

ขั้นตอนที่ 6 : สร้างโฆษณาบน Facebook ของคุณ

คุณสามารถสร้างโฆษณาบน Facebook ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทำตามคำแนะนำ Facebook โดยการเลือกรูปแบบการโฆษณา ช่องทาง คำอธิบาย ของคุณ เช่น รูปแบบการโฆษณา มีตัวเลือกให้ดังนี้

• Single Image : โฆษณาที่สามารถใช้รูปภาพเดียว
• Single Video : โฆษณาที่สามารถใช้วิดีโอเดียว
• Slideshow : โฆษณาที่สามารถใช้รูปภาพได้ 2-10 ภาพ หรือวิดีโอ
• Carousel : โฆษณาที่สามารถใช้รูปภาพได้ไม่เกิน 10 ภาพ หรือวิดีโอแต่ไม่สามารถใช้ทั้งสองอย่างพร้อมกัน

ขั้นตอนที่ 7 : สามารถเผยแพร่โฆษณาบน Facebook ของคุณ

เมื่อดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 จนถึงขั้นตอนที่ 6 จนคุณพอใจกับโฆษณาที่กำหนดแล้ว จากนั้นให้คุณคลิกไปที่ปุ่ม “Publish” เพื่อบันทึกโฆษณาของคุณ ระบบจะดำเนินการตรวจสอบโฆษณา โดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 24 ชั่วโมง เมื่ออนุมัติก็สามารถเผยแพร่โฆษณาได้ทันที

เมื่อทุกคนได้อ่านบทความนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคนน่าจะเข้าใจกันแล้วว่าตัวจัดการโฆษณา Facebook คืออะไร สำหรับใครที่อยากยิงโฆษณาบน Facebook สามารถทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำได้เลย ขอบอกเลยว่าง่ายมาก ๆ และหัวใจสำคัญที่ช่วยให้โฆษณาของคุณประสบความสำเร็จนั่นก็คือ การทำโฆษณาให้มีคุณภาพและสามารถเรียกคนอื่นมามีส่วนร่วมในเชิงบวกกับเพจของคุณ ส่วนใครที่ค้าขายออนไลน์คุณสามารถให้ ZORT ช่วยจัดการระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ มีฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย และยังเชื่อมต่อได้กับทุกแพลตฟอร์ม Marketplace อื่น ๆ ได้อีกด้วย

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort