Keyword คืออะไร วิธีหา Keyword SEO เลือกยังไงให้เหมาะกับธุรกิจ

1,173 views

Keyword คืออะไร สำคัญอย่างไร? มีวิธีหา Keyword ยังไง ตอบทุกคำถามที่นี่

ปัจจุบันหลายธุรกิจหันมาสนใจทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยเลือกใช้วิธีการทำตลาดแบบ Search Engine Marketing (SEM) เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น การที่ทำให้แผนการตลาดแบบ SEM ประสบความสำเร็จได้ ก็จะต้องมีวิธีหา Keyword เพราะคือขั้นตอนแรกในการทำ SEO และการทำตลาดแบบ SEM จึงทำให้ Keyword สำหรับทำ SEO เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้ ZORT ชวนทุกคนมารู้จัก Keyword คืออะไร สําคัญอย่างไร และวิธีหา SEO Keyword อ่านไปพร้อมกันเลย  

ทำความรู้จักกับ Keyword คืออะไร สําคัญอย่างไร

ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าเราจะมีวิธีหา Keyword SEO อย่างไรบ้าง ก็ต้องมาทำความรู้จักกับ Keyword คืออะไร สําคัญอย่างไรให้มากยิ่งขึ้นว่าแท้จริงแล้ว Keyword คืออะไรกันแน่

Keyword คืออะไร

คีย์เวิร์ด หรือ Keyword คือ คำหรือวลีที่มีผู้ใช้ในการค้าหาสิ่งที่ต้องการบน Search Engine โดยจะเป็นคำที่ได้สะท้อนปัญหาหรือความต้องการของคน ใครยังนึกไม่ออกให้ดูจากตัวเอง เวลาจะไปเสิร์ชหาข้อมูลบน Google ยกตัวอย่าง Keyword ถ้าเราอยากรู้ข้อมูลปีหน้าขายของออนไลน์อะไรดี ให้เข้าไปที่ Google และค้นหาข้อมูลโดยใช้คำว่า ขายออนไลน์อะไรดี 2023 คำว่า “ขายออนไลน์อะไรดี 2023” นั่นแหละคือ คีย์เวิร์ด แต่จะเป็น Keyword ใน SEO ที่คนอื่นใช้ค้นหาเหมือนกันไหม ต้องมาเช็กว่าคีย์เวิร์ดนี้มีผู้ค้นหามากน้อยแค่ไหน 

Keyword มีความสำคัญอย่างไร

Keyword คือ หัวใจสำคัญในการทำการตลาดของเว็บไซต์ ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำเลย คือ การหา Keyword Google ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ยิ่งถ้าหา Keyword SEO ที่ดี มีปริมาณคนค้นหามาก และเว็บไซต์ก็มีโอกาสสูงที่จะติดอันดับต้น ๆ บน Google ก็เปรียบเหมือนกับว่าร้านค้าหรือเว็บไซต์ของเราขายของอยู่บนทำเลทอง จึงมีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาซื้อสินค้าร้านเรามากขึ้น

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนหา Keyword SEO มีอะไรบ้าง

มือใหม่หลายคนที่เพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์ อยากรู้วิธีหา Keyword SEO ที่ดีควรต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ดังนี้

  • ความเกี่ยวข้องของคีย์เวิร์ดกับเว็บไซต์
    วิธีหา Keyword SEO ที่ดี ควรต้องพิจารณาถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างของคีย์เวิร์ดกับตัวเว็บไซต์ของคุณ ว่ามีความเกี่ยวข้องกันมากน้อยแค่ไหน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยคัดกรองคีย์เวิร์ด และยังช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ดีขึ้นมากเท่านั้น เพราะคีย์เวิร์ดที่ดีจะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริง ๆ ที่ต้องการค้นหาข้อมูลของคีย์เวิร์ดนั้น ๆ

     

  • สถานที่อยู่ของกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์
    อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับการหา Keyword บน Google คือ สถานที่อยู่ของกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ ถ้าเวลาค้นหาคำที่น่าสนใจเพื่อมาในเว็บไซต์ แล้วไม่ได้ระบุสถานที่ตั้งหรือโลเคชั่นของเว็บไซต์ ระบบจะประมวลข้อมูลในค่าตั้งต้นของระบบเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่จริงโลเคชั่น และกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์คุณคือคนไทย ทำให้คีย์เวิร์ดที่ได้อาจไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

     

  • ควรต้องรู้จักคู่แข่ง
    นอกจากนี้สิ่งที่พิจารณาอีกอย่างหนึ่งคือ ต้องรู้จักคู่แข่งตัวเอง ดูว่าคู่แข็งเว็บไซต์คือใคร ทำ Content อะไรบ้าง แล้วมี Content น่าสนใจไหม มีคนอ่านมากน้อยแค่ไหน มีการตอบรับเป็นยังไง เพื่อเราได้นำมาพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีมากยิ่งขึ้น

 

ทำความรู้จักประเภทของ Keyword

Keyword สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีการใช้งานแตกต่างกัน ก็ลองมาดูกันสิว่าแล้วควรเลือก Keyword แบบไหน เพื่อให้เหมาะกับหน้าเว็บของคุณมากที่สุด

  1. Compare Keyword
    เป็นคีย์เวิร์ดสำหรับเปรียบเทียบตั้งแต่ 2 สิ่งขึ้นไป เพื่อใช้ในการตัดสินใจ เช่น รีวิวบริษัทขนส่งไหนดี, รีวิวตู้เย็น,  รีวิวระบบหลังบ้านเว็บ, รีวิวหลอดไฟ เป็นต้น ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบสินค้าเดียวกันแต่มีหลายยี่ห้อ
  2. Definition Keyword
    เป็นคีย์เวิร์ดที่สื่อความหมาย หรือ คำนิยามของคำนั้น ๆ เช่น Keyword คืออะไร, E-Marketplace คืออะไร, โพรไบโอติก คืออะไร, CRM คืออะไร, การลงทุนหลังเกษียณคืออะไร เป็นต้น เป็นการที่เจาะจงค้นหาคำ ๆ นั้นเลย
  3. Geographic Keyword
    เป็นคีย์เวิร์ดที่ระบุถึงสถานที่ ก็เหมือนเป็นการบอกว่าธุรกิจของคุณมีหน้าร้าน อยู่ที่ไหน เพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงให้กับเว็บไซต์ เพิ่มโอกาสการเข้าถึง และยอดขายให้กับคุณได้อีกด้วย เช่น คลินิกจัดฟัน ห้วยขวาง เป็นต้น
  4. Long-tail Keyword
    เป็นคีย์เวิร์ดคำยาว มักจะอยู่ในรูปแบบของ Niche Keyword ซึ่งจะเป็นคำเฉพาะเจาะลึกลงไปถึงรายละเอียดของข้อมูลที่ต้องการค้นหา โดยส่วนใหญ่แล้วผู้เสิร์ชจะค้นหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ระหว่างการตัดสินใจซื้อ ถ้าหากเป็นคีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจงมาก ๆ ก็มีการค้นหาที่น้อย ทำให้การแข่งขันไม่สูง แต่ก็สามารถเจาะเข้าไปถึงความต้องการของผู้สนใจได้
  5. Short Term Fresh Keyword
    คีย์เวิร์ดใหม่ตามกระแส ที่เล่นกับกระแสสังคม และไวรัลจากสื่อต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ได้เมื่อมีต้องการให้หน้าเว็บไซต์ของคุณมีปริมาณเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น แต่จะต้องมีปรับคำให้เหมาะสม และเข้ากับเว็บไซต์ เพราะถ้ากระแสพวกนี้มาเร็วไปเร็ว เมื่อเวลาผ่านไป ความนิยมก็ลดลง ตัวอย่าง Keyword คำว่า “ไม่ใหญ่แน่นะวิ….” คำว่านี้ถูกนำมาปรับใช้กับหลาย ๆ สถานการณ์ ดังนั้น จึงต้องพิจารณาคีย์เวิร์ดและปรับอย่างสม่ำเสมอ 

วิธีหา Keyword SEO เพื่อทำ SEO

เอาล่ะ! เมื่อรู้จัก Keyword SEO คืออะไร รู้จักประเภทของคีย์เวิร์ดเพื่อเลือกใช้ได้เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณกันไปแล้ว คำถามต่อมาคือแล้ววิธีหา Keyword SEO หรือ วิธีหา Keyword Google ต้องทำยังไง ซึ่งต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมหา Keyword SEO ที่น่าสนใจให้เลือกเพียบ! เราได้คัดมาเฉพาะโปรแกรมยอดนิยมในแวดวง SEO มาแนะนำให้กับทุกคน

  1. Google Keyword Planner
    Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือในการคีย์เวิร์ด ที่อยู่ใน Google Ads หรือ Google AdWords ซึ่งได้รับความนิยมและเหมาะสำหรับมือใหม่ เพิ่งเริ่มหัดทำเว็บไซต์ ที่สำคัญยังเป็นโปรแกรมที่ให้ใช้งานได้ฟรีด้วย ซึ่งโปรแกรมนี้ได้เปรียบตรงที่เป็นเครื่องมือของ Google ที่เป็น Search Engine จึงทำให้มีฐานข้อมูลของลูกค้าจำนวนมาก นอกจากหา Keyword Google ได้แล้ว ยังสามารถช่วยคิดไอเดีย Keyword ใหม่ ๆ ได้ด้วย
  2. Google Trends
    โปรแกรมหาคีย์เวิร์ด Google Trends เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือฟรีของ Google สามารถค้นหา Keyword รวมถึง Trends ของคำค้นหาต่าง ๆ ที่กำลังนิยมอยู่ในช่วงเวลานั้นบน Google ทั่วโลก จึงทำให้มีคำค่อนข้างเยอะมาก แถมยังรู้ได้อีกว่าคำค้นแต่ละคำมีคนค้นหามากน้อยแค่ไหนในแต่ละพื้นที่ จุดเด่นของโปรแกรมนี้ คือจะแสดงผลกราฟแนวโน้มการค้นหา ทำให้เราเปรียบเทียบได้งาน และช่วยให้หา Keyword SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. Ubersuggest
    อีกหนึ่งโปรแกรมหา Keyword SEO คงต้องยกให้กับ Ubersuggest โปรแกรมนี้ ได้ถูกพัฒนาโดย Neil Patel ซึ่งเป็นปรมาจาร์ยด้านการทำ SEO คนหนึ่งในแวดวงการตลาดออนไลน์ จุดเด่นของโปรแกรมนี้มีฟีเจอร์การใช้งานที่ค่อนข้างเยอะ ถือว่าครบเครื่องมาก ๆ แถมยังใช้งานง่าย ที่สำคัญสามารถเช็กเว็บไซต์ของคู่แข่งได้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์และปรับปรุงในการทำเว็บไซต์ของเราให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเช็ก traffic ได้ทีละหน้า และตรวจสอบ Backlink ได้อีกด้วย โปรแกรมนี้มีฟรีและเสียเงิน
  4. Keywordtool.io
    Keyword Tool.io โปรแกรมหา Keyword ที่ให้ใช้งานได้ฟรี สามารถหาคีย์เวิร์ดคำยาว (long-tail keyword) ได้ดีมาก จุดเด่นโปรแกรมนี้วิธีการใช้งานง่ายมาก ๆ ไม่ต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องสมัคร Account สามารถใช้งานค้นหา Keyword ได้ทันทีเลย อีกทั้งยังสามารถใน Search Engine อื่น ๆ เช่น Youtube, Bing ได้อีกด้วย นอกจากนี้ถ้าอยากหาไอเดียใหม่ หรือคำใกล้เคียงโปรแกรมนี้ก็มีเหมือนกัน
  5. Moz
    Moz เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมหา Keyword เสียเงินแต่น่าซื้อใช้มาก ด้วยจุดเด่นของโปรแกรมที่สามารถวิเคราะห์และแสดงผล Metrics ต่าง ๆ ของการทำ SEO ได้อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพสูง และก็สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่น่าใช้ ที่มีการแข่งขันไม่สูงมาก ให้เป็นตัวเลือกได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถค้นหาและเช็กคะแนน Keyword ที่ต้องการได้ พร้อมด้วยฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ อีกมากมาย จึงเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมหา Keyword Google ที่น่าซื้อใช้มาก ๆ

อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนน่าจะรู้จัก Keyword คืออะไร สำคัญยังไง และวิธีหา Keyword SEO กันมากขึ้น คงจะได้เห็นแล้วว่าหัวใจสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีบน Google นั่นก็คือ “Keyword” นั่นเอง เพราะถ้าหาคีย์เวิร์ดที่ดีมีคุณภาพ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด และช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่ดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่เริ่มทำเว็บไซต์ อย่าลืม! ที่จะนำไปปรับใช้กับการทำเว็บไซต์ของคุณในทุก ๆ คอนเทนต์ เพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากที่สุด สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองทำ SEO ลองอ่านวิธีการทำ SEO ง่าย ๆ สไตล์ SME ต่อได้ที่นี่

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort

0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x