แชร์เทคนิค การขายของแบบ Dropship ช่องทางทำเงินในธุรกิจออนไลน์

190 views

Dropship คืออะไร ต้องเริ่มอย่างไร แล้วทำไมคนขายของออนไลน์ควรรู้จัก

อย่างที่รู้กันดีว่าเทรนด์การซื้อขายออนไลน์กำลังเป็นที่นิยม จึงทำให้หลายคนผันตัวมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพื่อหารายได้เสริมกันมากขึ้น เพราะการขายของออนไลน์สินค้าบางประเภทไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะ ก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ หรือใครที่ไม่มีเงินทุนที่จะซื้อของก็อาจจะเลือกเป็นการขายของแบบ Dropship (ดรอปชิป) ก็ได้เช่นกัน พอได้อ่านแล้วพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ อาจจะดูเหมือนงง ๆ ไม่รู้จักการ Dropship คืออะไร วันนี้ ZORT จะมาเล่าให้คนอยากค้าขายออนไลน์ได้อ่านกัน พร้อมทั้งยังนำข้อดีข้อเสียของ Dropship และเทคนิคการทำธุรกิจ Dropship อย่างไรให้ปัง มาดูกัน

 

Dropship คืออะไร?


Dropship คือ การขายของออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่งที่เจ้าของร้านค้า ไม่จำเป็นจะต้องมีสินค้ามาเก็บไว้ในสต๊อก หรือที่หลายคนมักจะเรียกกันว่า “ตัวแทนจำหน่าย” ซึ่งเป็นการขายของแบบ Dropship ก็จะเป็นการที่ร้านค้านำสินค้าของร้านอื่นหรือคนอื่นมาขายในหน้าเพจร้านเรา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้า เพื่อมาเก็บไว้สต๊อกนั่นเอง และการทํา Dropship ยังไม่ต้องส่งสินค้าเองอีกด้วย เพียงแค่นำข้อมูลสินค้ามาโพสต์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook, LINE OA, Instagram, TikTok หรือ Twitter ส่วนราคาร้านค้าก็สามารถบวกเพิ่มกำไรเองได้ เมื่อมีสินค้าออเดอร์ตัวแทนจำหน่ายก็ติดต่อส่งข้อมูลให้กับซัพพลายเออร์ แล้วทางนั้นจะทำการส่งสินค้าให้กับลูกค้าเราเอง

 

อยากขายของแบบ Dropship ต้องเริ่มต้นอย่างไร

เมื่อทุกคนได้รู้จักกันแล้วว่าระบบ Dropship คืออะไรกันแล้ว คราวนี้หลายคนเริ่มมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้ อยากลองทำธุรกิจ Dropship บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ควรจะทำอะไรก่อนดี ถ้าอย่างนั้นก็ตามเรามาดูขั้นตอนเบื้องต้นในการขายของแบบ Dropship ดังนี้ 

  • เริ่มต้นด้วยการค้นหาร้านค้าหรือซัพพลายเออร์ที่เปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบระบบ Dropship
  • เลือกประเภทหมวดหมู่สินค้าชอบหรือสินค้าที่ต้องการขาย จากนั้นก็สมัครกับร้านค้านั้นได้เลย
  • เมื่อสมัครเป็น “ตัวแทนจำหน่าย” แล้ว จากนั้นให้นำรูปภาพและรายละเอียดของสินค้า มาโพสต์ลงในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของตัวเอง หรือจะเปิดเพจร้านค้าของตัวเองขึ้นมาใหม่ก็ได้
  • ช่วงแรกคนอาจจะไม่มีคนเห็น อาจจะเลือกใช้วิธีการซื้อโฆษณาจาก Facebook ก็ได้ เพื่อกระตุ้นการขายสินค้า
  • เมื่อมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า เราเพียงแค่รับคำสั่งซื้อแล้วส่งไปยังร้านค้าหรือซัพพลายเออร์นั้น ๆ เพื่อให้เขาจัดสินค้าให้กับลูกค้า
  • หากลูกค้าโอนเงินมาให้เรา ทางเราก็ทำการโอนเงินให้กับร้านค้าหรือซัพพลายเออร์อีกที โดยหักกำไรส่วนต่างที่ได้บวกเพิ่มกับสินค้า 

 

ข้อดีของการทำธุรกิจ Dropship


ขายของแบบ Dropship นั้น ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้น เราจะมาดูส่วนของข้อดีของการทํา Dropship กันก่อน ดังนี้

1. ไม่ต้องมีเงินทุนเยอะ หรือไม่มีเงินทุน ก็สามารถเปิดร้านขายของออนไลน์ได้
2. มีสินค้าให้เลือกขายด้วยกันหลากหลายประเภท อยากขายอะไรก็ได้ตามใจเรา
3. ลดความเสี่ยงในเริ่มต้นทำธุรกิจ เพราะไม่ต้องควักเงินซื้อสินค้ามาขาย จึงไม่ต้องกลัวขาดทุน
4. ไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่ ๆ เพราะสินค้าบางประเภทที่เลือกก็จะมีฐานลูกค้าในตลาดอยู่แล้ว
5. ระบบ Dropship เป็นธุรกิจที่ทำง่าย เพราะตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในสินค้านั้น ๆ
6. ช่วยประหยัดเวลาในการขายของออนไลน์ได้อย่างมาก เนื่องจากจะมีรูปภาพและข้อมูลรายละเอียดสินค้ามาให้พร้อม เราสามารถนำมาโพสต์ขายได้เลย

 

ข้อเสียของการทำธุรกิจ Dropship


คราวนี้ลองดูในฝั่งของข้อเสียของการทำธุรกิจ Dropship กันบ้าง เราจึงสรุปได้ ดังนี้

  1. ธุรกิจ Dropship เป็นธุรกิจที่เข้าถึงง่าย ทำให้มีคู่แข่งทางธุรกิจค่อนข้างสูงมาก
  2.  สินค้าบางประเภทจะมีคู่แข่งทางการตลาดค่อนข้างสูง อาจจะทำให้เราขายได้น้อย
  3. หากเจอสินค้าจากทาง Dropship คุณภาพไม่ดี สินค้าไม่ตรงปก เราอาจเสียความน่าเชื่อถือได้
  4. การขายของแบบ Dropship นั้น จะไม่สามารถทำเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ ซึ่งเราจะทำให้คนอื่นโต
  5. มีโอกาสสูงที่จะเจอ Dropship หักหลัง โดยการแย่งลูกค้าเราโดยไม่รู้ตัว เพราะราคาเขาสามารถลดได้

 

ขาย Dropship อะไรดี?


หนึ่งในคำถามของยอดฮิตของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ ที่อยากจะลองขายของแบบ Dropship แต่ไม่รู้ว่ามี สินค้า Dropship ขายดีอะไรบ้าง เราได้รวบรวมสรุปมาให้ ดังนี้ 

  • สินค้าแม่และเด็ก
  • อุปกรณ์แต่งรถ อะไหล่รถ
  • เฟอร์นิเจอร์ของใช้ในบ้าน
  • สินค้าประเภทอาหารและขนมต่าง ๆ
  • อุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือ
  • เครื่องออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ

 

เทคนิคการขายของแบบ Dropship อย่างไร ให้ธุรกิจปัง ขายดี กำไรงาม


แม้ว่าการขายของแบบ Dropship จะเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย ใครก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ อยากขายอะไรก็ได้ และยังไม่ต้องมีลงทุนเยอะอีกด้วย แต่จะมีเทคนิคการขายของแบบ Dropship อย่างไร ให้ร้านเราขายดีกว่าที่อื่น ๆ เราจะมาแชร์เทคนิคการทํา Dropship ดังนี้

  1. ศึกษาตลาดสินค้าที่ต้องการขายอย่างละเอียด
    สิ่งแรกสำหรับคนทำธุรกิจขายของออนไลน์ระบบ Dropship นั้น ก่อนอื่นเลยจะต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้า ควรเลือกเป็นสินค้า Dropship ขายดี หรือสินค้าที่มียี่ห้อหรือแบรนด์ ก็จะช่วยให้ขายของง่ายมากขึ้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ค่อนข้างจะเชื่อถือคุณภาพของสินค้าแบรนด์ มากกว่าการซื้อสินค้าที่ไม่มียี่ห้อ

  2. เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
    จะรู้ได้ยังไงว่าเราควรขายสินค้าอะไร ก่อนอื่นจะต้องรู้ก่อนว่าจะขายให้กับใคร เน้นกลุ่มคนประเภทใดมากที่สุด เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพ คนชอบเล่นเกม ชอบเล่นกีฬา ชอบทำอาหาร หรือคนชอบเล่นโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ จะได้เลือกสินค้ามาขายได้ตรงกับความต้องการ และมีโอกาสในการขายได้ดีนั่นเอง

  3. ควรเรียนรู้ศึกษาคู่แข่งทางการตลาด
    แน่นอนการทำธุรกิจขายของออนไลน์ โดยเฉพาะขายของแบบ Dropship จะมีคู่แข่งทางการตลาดค่อนข้างสูง ดังนั้น เมื่อตัดสินใจเลือกได้แล้วว่าจะขายอะไร สิ่งต่อมาที่จะต้องทำเลยคือ ศึกษาเรียนรู้คู่แข่งทางการตลาดว่าเป็นใคร เขามีกลยุทธ์การขายยังไง เพื่อนำมาปรับใช้ให้ร้านเราดูเหนือกว่านั่นเอง

  4. มองหาร้านค้าหรือซัพพลายเออร์ที่ทำธุรกิจ Dropship น่าเชื่อถือ
    อีกสิ่งที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามเลย คือ ต้องหาร้านค้าหรือซัพพลายเออร์ที่ทำธุรกิจ Dropship น่าเชื่อถือได้ เดี๋ยวนี้มีธุรกิจ Dropship ค่อนข้างมาก เพราะถ้ามีซัพพลายเออร์ที่มีสินค้าดีมีคุณภาพ สินค้าสต๊อกเพียงพอต่อความต้องการในการขาย จะทำให้เราสามารถขายของได้สบาย
  1. เช็กให้ชัวร์ด้วยการซื้อสินค้าจากร้านค้าหรือซัพพลายเออร์
    เมื่อตัดสินใจแล้วจะขายของแบบ Dropship แนะนำให้ลองสั่งสินค้ากับร้านค้าหรือซัพพลายเออร์นั้นมาใช้ก่อน เพื่อจะได้เช็คคุณภาพสินค้า และระยะเวลาการจัดส่งสินค้า แนะนำให้ลองสั่งหลายครั้งหน่อย โดยการใช้ชื่อคนอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบนั่นเอง 

  2. ควรตั้งราคาให้สมเหตุสมผล ไม่แพงเวอร์จนเกินไป
    ด้วยความการขายของแบบ Dropship มีการแข่งขันการตลาดสูง ทำให้มีหลายคนที่กำลังทำธุรกิจ Dropship ที่กำลังทำเหมือนเรา แถมสินค้าบางประเภทยังมีหลายร้านที่ขาย ดังนั้น ควรตั้งราคาให้สมเหตุสมผล เพราะถ้าราคาสูงเกินไป ลูกค้าก็จะเลือกไปซื้อร้านอื่นได้ แต่ถ้าราคาสูงกว่าอาจจะไปเพิ่มในส่วนโปรโมชันต่าง ๆ 

  3. ให้ขยันหมั่นโพสต์ขายของบ่อย ๆ
    คิดจะขายของออนไลน์ให้ปัง บอกเลยว่าโพสต์ครั้งเดียวอย่าคิดว่าพอ!! จะต้องขยันในการโพสต์สม่ำเสมอ โพสต์ทุกวัน อาจจะต้องใช้เวลาสัก 1 – 2 ชั่วโมงต่อวัน หรืออาจจะทำครั้งเดียว แล้วตั้งเวลาการโพสต์ก็ได้ เพราะการโพสต์บ่อย ๆ จะช่วยให้ผ่านตาคนมากที่สุด

จากการได้อ่านบทความนี้ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ธุรกิจ Dropship ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเงินลงทุนน้อย หรือคนที่อยากลองเริ่มต้นทำธุรกิจขายของ แต่ไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี เบื้องต้นอาจจะเริ่มจากการขายของแบบ Dropship ก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าสินค้าอะไรจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด เมื่อธุรกิจเริ่มดีขึ้น ได้กำไรมากขึ้น มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้าแล้ว จากนั้นค่อยเปลี่ยนมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ของตัวเอง หากมือใหม่ที่เริ่มขายของออนไลน์ใหม่ ๆ อยากจะได้คนช่วยจัดการออเดอร์ ดูแลจัดการหลังบ้าน รวมถึงจัดการสต๊อกสินค้า เลือกใช้บริการ Zortout ให้บริการระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจร

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

โทร 02.026-6423

Line: @zort

0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x