Isolation Effect หลักจิตวิทยาที่ช่วยให้แบรนด์โดดเด่น ใครเห็นก็จำได้

2 views

สร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและแตกต่างด้วยหลักการ Isolation Effect

 

ถ้าสินค้าทุกชิ้นในตลาดหน้าตาเหมือนกันหมด ลูกค้าก็จะไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือมองไม่เห็นแบรนด์ของเราด้วยซ้ำ ไม่ว่าใครก็ถูกดึงดูดด้วยสิ่งที่แตกต่าง ไม่เหมือนใครกันทั้งนั้น ดังนั้น การทำแบรนด์ก็เช่นกัน ต้องมีเอกลักษณ์และมีจุดเด่นที่ดูก็รู้เลยว่าเป็นแบรนด์เรา สิ่งที่กล่าวไปทั้งหมดนั้นสอดคล้องกับหลักจิตวิทยาที่ชื่อว่า Isolation Effect ที่สามารถแย่งชิงความสนใจหรือเปลี่ยนเกมให้กับธุรกิจได้เลย

 

Highlight & Summary

  • Isolation Effect เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่คนเราสนใจและสามารถจดจำสิ่ง ๆ หนึ่งที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าสิ่งอื่น เช่น แอปเปิลแดง 1 ลูก ในกองแอปเปิลเขียว 
  • หลักการ Isolation Effect สามารถปรับใช้กับการตลาดได้ เช่น การทำปุ่ม CTA ให้โดดเด่นจนคนอยากกด หรือทำรูปภาพสินค้าให้สวยงาม กระตุ้นให้เกิดการอยากซื้อ 
  • Isolation Effect ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ คนจะมองว่าแบรนด์นี้กล้าที่จะไม่เหมือนใคร และอยากเข้ามาเป็นลูกค้ามากขึ้น

 

 

Isolation Effect คืออะไร

 

Isolation Effect หรืออีกชื่อก็คือ Von Restorff Effect เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เอาไว้อธิบายสถานการณ์ เหตุการณ์ หรือสิ่งใดสิ่งหนี่งที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าสิ่งอื่น ก็มีแนวโน้มที่คนจะสนใจมากกว่า ซึ่งที่มาของ Isolation Effect มาจาก จิตแพทย์และกุมารแพทย์ชาวเยอรมัน Hedwig von Restorff เขาได้ตั้งสมมติฐานว่าสินค้าที่มีความแตกต่าง จะทำให้คนจดจำได้ง่ายกว่าสินค้าที่มีความคล้ายคลึงกัน

 

ตัวอย่างเช่น ถ้าวางแอปเปิลแดง 1 ลูกไว้ท่ามกลางแอปเปิลเขียวหลายสิบลูก แน่นอนว่าคนก็จะมองไปที่แอปเปิลแดงก่อนอันดับแรก เพราะสมองของเรามักจะจดจ่อไปที่สิ่งที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง รูปทรง สี หรือองค์ประกอบอื่น ๆ

 

หลักการ Isolation Effect นำมาประยุกต์ใช้กับการตลาดได้อย่างไรบ้าง

หลักการนี้สามารถนำไปใช้กับการสร้างแบรนด์หรือออกแบบ Packaging ได้ ซึ่งนักการตลาดส่วนใหญ่มักจะหยิบหลักการ Isolation Effect มาใช้กับสิ่งต่อไปนี้

 

การทำปุ่ม Call-to-Action (CTA)

เคยสังเกตกันไหมว่าปุ่ม “กดลงตะกร้าเลย” “สั่งซื้อสินค้า” “กดเพื่อรับส่วนลด 10%” หรือ “ติดต่อเราตอนนี้” มักจะโดดเด่นกว่าเนื้อหาอื่น ๆ เช่น สีสดใส ตัวอักษรใหญ่ ปุ่มเด้งขึ้นมา นี่แหละคือหลักการ Isolation Effect เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจและกระทำบางอย่างตามที่แบรนด์ต้องการ 

 

การดีไซน์ UX/UI ให้โดดเด่น

หลายแบรนด์เลือกใช้ Isolation Effect กับการออกแบบหน้าเว็บไซต์เพื่อโปรโมตสินค้า หรือถ้าให้สินค้าไหนขายได้เยอะ ๆ ก็ทำได้เช่นกัน เช่น ออกแบบรูปให้โดดเด่นกว่าสินค้าตัวอื่น เพิ่มคำว่า “สินค้าแนะนำ” หรือ “สินค้าขายดี” เข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้คนสนใจมากขึ้นเช่นกัน

 

 

Isolation Effect มีผลดีต่อแบรนด์ยังไง

 

สร้างการจดจำ (Memorability)

ในยุคที่ตลาดมีการแข่งขันสูง การทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าธุรกิจของคุณเป็นสินค้าที่มีคู่แข่งเยอะ ลองหาจุ

 

ดึงดูดความสนใจ (Attention-Grabbing)

การใช้สีสันตัดกัน รูปทรงสินค้าที่ไม่เหมือนใคร หรือคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ จะช่วยดึงดูดความสนใจและเกิดการบอกต่อได้อย่างง่ายดาย เพราะไม่ว่าใครก็ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ

 

ส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Personality)

ถ้าแบรนด์มีความแตกต่างและสามารถรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้อย่างดี จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกแบรนด์นี้รู้จักและเข้าใจตัวเอง เหมือนคนที่มีบุคลิกไม่เหมือนใครและอยากเข้ามาทำความรู้จัก มีแนวโน้มที่จะมาเป็นลูกค้าของคุณเพิ่มขึ้นด้วย

 

 

สรุป

Isolation Effect คือหลักจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณถูกมองเห็นและเกิดการจดจำ เชื่อว่าไม่ว่าธุรกิจไหนก็ไม่อยากถูกลืม ดังนั้น อย่ากลัวที่จะสร้างความแตกต่าง การที่แบรนด์ไหนสามารถโชว์เอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าลูกค้าต้องให้ความสนใจ และอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์อย่างแน่นอน

 

 

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort