ในสมัยก่อน การเริ่มต้นธุรกิจนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากมากๆ นั่นก็เพราะว่าในสมัยก่อนเรื่องของช่องทางการสื่อสาร, การขนส่ง หรือ แม้กระทั่งการเข้าถึงลูกค้านั้นไม่ได้ก้าวหน้าหรือล้ำยุคล้ำเทียบเท่าสมัยนี้ ถ้าจะให้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนถ้าหากเราอยากจะซื้อของอะไรสักอย่าง เราจำเป็นต้องเดินทางไปถึงหน้าร้าน เพื่อดูว่าร้านค้าเหล่านั้นได้มีการทำสต๊อกสินค้าที่เราต้องการรึเปล่า แต่ในทางกลับกัน ณ ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเพื่อเดินทางไปถึงหน้าร้านเพื่อเพียงแค่เช็คข้อมูลสินค้าว่า ราคาเท่าไหร่, คุณภาพเป็นอย่างไร หรือ สินค้าชิ้นนั้นยังเหลืออยู่ในคลังสินค้าของร้านหรือเปล่า นั่นก็เพราะว่า ณ ปัจจุบันเราเพียงแค่หยิบ Smart Phone, Laptop หรือ Tablet เราก็สามารถรู้ข้อมูลทุกอย่างได้ผ่านช่องทางไม่ว่าจะเป็น Social Media (Facebook, Line, Instagram), Search Engine อาทิ Google หรือว่าจะเป็น Application ในส่วนของ E-Commerce ต่างๆ เช่น Lazada หรือ Shopee
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจึงทำให้โลกในการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นผ่านโลก Online หรือที่ใครหลายๆ คนมักจะเรียกว่า Digital Disruption ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีธุรกิจมากหน้าหลายตา “เกิดขึ้นมาได้อย่าง่ายดาย” และก็ “หายไปอย่างง่ายดาย” เช่นกัน ซึ่งมีหลากหลายปัจจัยมากๆ ที่ทำให้เจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันได้อย่างที่ตั้งใจไว้ นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นมักจะมีเพียงแค่ Passion ซึ่งก็คือความอยากหรือความหลงไหลที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยไม่มีการวางแผนอย่างรอบคอบซึ่งส่วนมากมักจะรู้เพียงแค่ว่าจะขายอะไรแล้วจะขายให้ใคร
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของธุรกิจส่วนมากก็จะมักมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มยอดขายผ่าน Digital Marketing เช่นยิงแอด Facebook หรือ Broadcast บน Line OA ซึ่งบางที่อาจจะทำให้เกิดประโยชน์หรืออาจจะทำให้เกิดผลเสีย
แต่ถว่ามีหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เจ้าของธุรกิจมักจะละเลยจนทำให้เกิด Cost หรือค่าใช้จ่ายมากมายนั่นก็คือการจัดการสต๊อก เพราะว่าเจ้าของธุรกิจอาจจะยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า สต๊อกสินค้านั้นคืออะไร, สต๊อกสินค้าแบ่งออกได้กี่ประเภท แล้วจะมีวิธีการเช็คสต๊อกสินค้าหรือสั่งสินค้าอย่างไรให้แม่นยำที่สุด ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้แล้วละก็อดทนอีกนิดบอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน
เรามาเริ่มต้นกันที่ว่าสต๊อกสินค้านั้นคืออะไรกันแน่แล้วมันสำคัญยังไง
สต๊อกสินค้าคือวิธีการที่เราจัดเก็บสินค้าทั้งที่ “ผลิตเอง” และ “ทั้งที่นำเข้า หรือ สั่งภายในประเทศ” เพื่อนำมาเก็บไว้ในคลังเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรองรับและพร้อมส่งสินค้าเหล่านั้นตามออเดอร์ของลูกค้า ซึ่งถามว่าทำไมถึงเจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นต้องรู้ว่าสต๊อกสินค้าคืออะไร นั่นก็เพราะว่าการที่เราทำสต๊อกสินค้าอย่างแม่นยำจะทำให้เราสามารรถลดค่าใช้จ่าย (cost) ในเรื่องของ “ต้นทุนการผลิต”, “ต้นทุนพื้นที่จัดเก็บสินค้า” หรือ “ต้นทุนสิ้นค้าตกรุ่น หรือ dead stock” ดังนั้นถ้าเรารู้ว่าการทำสต๊อกสินค้านั้นมีประโยชน์ในเรื่องของการลดต้นทุน เรามารู้เพิ่มเติมกันอีกดีกว่าว่าสต๊อกสินค้านั้นนะมีกี่ประเภทแล้วแต่ละประเภทคืออะไรบ้าง
ประเภทของสต๊อกสินค้า
สต๊อกสินค้าในโลกธุรกิจเขามักจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ นั่นก็คือ “วัตถุดิบ”, “สินค้าระหว่างผลิต” และ “สินค้าสำเร็จรูป” ซึ่งสต๊อกสินค้าประเภทเปล่านี้นั้นมักจะยากที่เข้าใจหรือถ้าหากสงสัยสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Google
แต่ประเถทของสต๊อกสินค้าที่เราอยากจะบอกคุณนั้นมี 3 ประเภทใหญ่ๆ เหมือนกันแต่บอกเลยว่าสามรถเข้าใจและเห็นภาพได้ชัดเจนกว่านั่นก็เพราะว่าเราแบ่งสต๊อกสินค้าเหล่านี้ตามออกมาตามวิธีการเช็คสต็อกสินค้าโดยแบ่งออกเป็น “สินค้าดี”, “สินค้าเสีย” และ “สินค้ายอดนิม” ซึ่งแต่ละสต๊อกสินค้าเหล่านี้คือจะมีเอกลักษณ์และข้อดีสำหรับการทําสต๊อกสินค้าและการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ
-
สต๊อกสินค้าดี
สต๊อกสินค้าดีคือประเภทสินค้าที่เรารับมาหรือเราผลิตขึ้นมาแล้วมีคุณภาพที่ “ดีตามเกณ์มาตรฐาน” หรือ “สูงกว่ามาตรฐาน” ซึ่งวิธีการเช็คสต็อกสินค้าประเภทนี้นั้นง่ายมากเพียงแค่จดว่าจำนวนของสินค้าไม่ว่าจะเป็น “รับเข้ามา” หรือ “ผลติขึ้นมาเอง” นั้นมีจำนวนเท่าไหร่ แล้วเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสามารถนำส่งให้ลุกค้าอยู่เท่าไหร่ ซึ่งข้อดีของการทำสต๊อกสินค้าประเภทนี้สามารถทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า ต้นทุนของสินค้าสามารถสร้างรายได้และกำไรให้เราได้เท่าไหร่ พร้อมกับรู้อีกว่าต้นทุนนั้นมีสินค้าคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานกี่ชิ้นซึ่งจะทำให้เราสามารถคำนวนทั้งรายรับและรายจ่ายได้ดีขึ้น
-
สต๊อกสินค้าเสีย
สินค้าเสียนั้นตรงตามชื่อเลย นั่นก็คือสต็อกสินค้าที่ถูกจดไว้ว่าเป็นสินค้าที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน หรือ เป็นสินค้าที่เกิดปัญหาในส่วนของไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “การจัดส่ง” หรือ “การใช้งาน” ซึ่งข้อดีของวิธีการเช็คสต็อกสินค้าประเภทนี้นั่นก็คือเราสามรถ คำนวนได้ว่าค่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในตัวของสินค้าระหว่าง “การจัดส่ง” หรือ “การใช้งาน” นั้นมีมากน้อยขนาดไหน แล้วเราจะหาทางแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างไร ซึ่งอีกมุมหนึ่งนั่นก็คือการที่เราได้รู้ปัญหาผ่านการทำสต๊อกสินค้านั่นเอง
-
สต๊อกสินค้ายอดนิยม
ในส่วนของสต๊อกสินค้าชนิดนี้นั่นก็คือตรงตามชื่อเลยว่า สินค้ายอดนิยม ซึ่งการทำสต๊อกสินค้าประเภทนี้คือการเช็คดูว่า เรามีสินค้าขายดีอยู่กี่ประเภทแล้วมียอดสั่งซื้ออยู่ในแต่ละเดือนเท่าไหร่ เพื่อเราจะสามรถนำข้อมูลเหล่านี้มาคำนวนเพื่อทำให้การสั่งสินค้าตรงไปตามกฏและรายละเอียดของ EOQ หรือ Economic Oder Quantity ซึ่งก็คือการที่เราลดหรือประหยัดต้นทุนผ่านการสั่งซื้อสินค้าในแต่ละรอบ โดยคำนวนประมาณสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อให้เหมาะสมจากการคำนวนยอดขาย นั่นเอง
และนี่ก็คือรายละเอียดของข้อมูลที่สามารถบอกได้ว่า สต๊อกสินค้านั้นคืออะไร แล้วมีกี่ประเภท แล้วเราจะจัดการกับการทำสต๊อกสินค้าอย่างไรแล้วมีวิธีการเช็คสต๊อกสินค้าอย่างใดบ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าการเพิ่มยอดขายหรือการมีจุดเด่นในเรื่องของสินค้าหรือกลยุทธในการดำเนินธุรกิจอย่างเดียวนะไม่พอ เพราะว่าถ้าหากเราไม่มีการทำสต๊อกสินค้าหรือมีวิธีการเช็คสต๊อกสินค้าที่ละเอียดก็อาจจะทำให้เราเสียเงินไปเสียเปล่าๆ ได้ ดังนั้นจงจำไว้อีกว่าถ้าคุณไม่รู้จะทำยังไง Zortout มีโปรแกรมที่พร้อมจะช่วยคุณจัดการทั้งสินค้าและออเดอร์ได้อย่างง่ายดาย หรือถ้าหากคุณกลัวว่าจะใช้ไม่เป็นเราก็มีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมจะช่วยคุณเสมอ
ถ้าหากสนใจที่อยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของเราแล้วละก็สามารถ ติดต่อได้ตามข้อมูลด้านล่าง
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
โทร 02.026-6423
Line: @zort