WooCommerce คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง

1,509 views

WooCommerce plugin ใน WordPress ที่ร้านค้าออนไลน์ต้องมี!

 

การค้าขายผ่านทางออนไลน์มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการทำธุรกิจในปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ล้วนแต่ต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะมีความง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ จะต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์และสำหรับไว้ติดต่อค้าขายกับลูกค้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะใช้ WordPress เป็นเว็บไซต์หลัก แต่ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ WooCommerce ซึ่งเป็นปลั๊กอินชนิดหนึ่งใน WordPress ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าทางออนไลน์ เราจะไปไขข้อสงสัยกันว่า WooCommerce ไว้ใช้ทำอะไร WooCommerce ดีไหม มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร พร้อมทั้งวิธีการติดตั้ง และ WooCommerce ราคาเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายหรือไม่

 

WooCommerce คือปลั๊กอินใน WordPress

 

 

 

WooCommerce คืออะไร

WooCommerce คือปลั๊กอินใน WordPress ที่ช่วยเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ช ช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้เจ้าของธุรกิจออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย เป็นปลั๊กอินที่ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์อื่น ๆ เสริมมากมาย เช่น การติดตามคำสั่งซื้อ การอัปเดตสถานะการส่งสินค้า เป็นต้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี

 

WooCommerce เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดยนักพัฒนา 2 คนที่ชื่อว่า James Koster และ Mike Jolley จากจุดประสงค์ที่อยากจะทำปลั๊กอินให้คล้ายกับ Jigoshop หลังจากนั้นในปี 2015 บริษัทแม่ของ WordPress อย่าง Automattic จึงได้เข้าซื้อกิจการต่อ ปัจจุบัน WooCommerce มียอดดาวน์โหลดกว่า 27 ล้านครั้ง ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการใช้งานของปลั๊กอินตัวนี้ได้เป็นอย่างดี

 

เหตุผลที่ควรเลือกใช้ WooCommerce plugin

มีเหตุผลหลากหลายข้อที่คุณควรเลือกใช้ WooCommerce กับธุรกิจของคุณ เพื่อเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดาให้เป็นร้านค้าออนไลน์ที่สามารถซื้อขายได้ง่ายอย่างคล่องตัว

1. ใช้งานง่าย

WooCommerce คือปลั๊กอินที่เป็นหนึ่งในระบบจัดการเนื้อหาที่ใช้งานง่ายที่สุด หากคุณคุ้นเคยกับ WordPress คุณจะพบว่า WooCommerce ติดตั้งและจัดการได้ง่าย

 

2. ความยืดหยุ่น

WooCommerce plugin มอบความยืดหยุ่นในระดับสูง สามารถจัดการผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย รวมถึงสินค้าที่จับต้องได้ ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล การสมัครสมาชิก และอื่น ๆ คุณสามารถขายอะไรก็ได้ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงซอฟต์แวร์อย่างง่ายดาย

 

3. ความสามารถในการปรับแต่งได้

ด้วยธีมและปลั๊กอินหลายพันรายการ คุณสามารถปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ของคุณให้เข้ากับแบรนด์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณสามารถเปลี่ยนการออกแบบ เค้าโครง และฟังก์ชันการทำงานให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณได้

 

4. ความสามารถในการขยายขนาด

ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ WooCommerce plugin สามารถขยายขนาดตามธุรกิจของคุณได้ สามารถจัดการผลิตภัณฑ์บางรายการหรือแค็ตตาล็อกจำนวนมากได้โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

 

5. ความปลอดภัย

WooCommerce plugin ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างจริงจัง มีการอัปเดตเป็นประจำและสร้างขึ้นด้วยแนวทางปฏิบัติในการเขียนโค้ดที่ปลอดภัย

 

6. การสนับสนุนชุมชน

WooCommerce คือปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยม มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนามากมาย ซึ่งหมายความว่าคุณจะพบกับบทช่วยสอน ฟอรั่ม และบริการจากบุคคลที่สามมากมายเพื่อช่วยเหลือคุณในทุกปัญหาที่คุณอาจพบ

 

7. ทำให้ติด SEO ง่ายขึ้น

WooCommerce plugin ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึง SEO ช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ SEO ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่ในอันดับที่ดีในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา

 

8. เกตเวย์การชำระเงิน

WooCommerce รองรับเกตเวย์การชำระเงินที่หลากหลาย ทำให้คุณรับการชำระเงินจากลูกค้าทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น PayPal บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น ๆ

 

9. การวิเคราะห์และการรายงาน

WooCommerce คือปลั๊กอินสำหรับจัดทำรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับการขาย พฤติกรรมลูกค้า และตัวชี้วัดที่สำคัญอื่น ๆ ข้อมูลนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งในการตัดสินใจทางธุรกิจโดยมีข้อมูลครบถ้วน

 

10. ออกแบบมาเพื่อระบบอีคอมเมิร์ช

WooCommerce มีฟีเจอร์มากมายที่เหมาะกับระบบอีคอมเมิร์ช เช่น ระบบตะกร้าสินค้า ระบบจัดการออเดอร์ ระบบคูปองส่วนลด ระบบคิดค่าขนส่ง ระบบสต๊อกสินค้า ระบบติดตามสถานะการสั่งซื้อ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร้านค้าออนไลน์

 

เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ WooCommerce เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นร้านค้าออนไลน์หรือย้ายธุรกิจที่มีอยู่ไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

 

 

ใช้งาน WooCommerce plugin

 

WooCommerce ข้อดีมีอะไรบ้าง

นอกจากเหตุผลที่ควรใช้ WooCommerce ข้อดียังมีอีกหลายประการ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลดีต่อร้านค้าออนไลน์ของคุณทั้งสิ้น

 

  • ความคุ้มค่า: WooCommerce plugin พื้นฐานนั้นฟรี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ประหยัดงบประมาณสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

     

  • การวิเคราะห์: มอบเครื่องมือการวิเคราะห์และการรายงานโดยละเอียดเพื่อติดตามการขาย พฤติกรรมลูกค้า และตัวชี้วัดที่สำคัญอื่น ๆ

     

  • ขายสินค้าได้ทุกอย่าง: WooCommerce คือปลั๊กอินที่ยืดหยุ่น สามารถขายสินค้าได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงสินค้าดิจิทัล

     

  • มีความรวดเร็ว: WooCommerce สามารถโหลดหน้าเว็บได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองทั้งร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่

     

  • รองรับทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน : WooCommerce ช่วยให้มั่นใจได้ว่าร้านค้าของคุณจะมอบประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ราบรื่นให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

 

WooCommerce ข้อเสียมีอะไรบ้าง

WooCommerce ข้อเสียมีบางประการ ซึ่งเป็นข้อเสียเล็กน้อยที่ผู้ใช้งานควรจะทราบและนำไปพิจารณาก่อนติดตั้งปลั๊กอิน

  • ความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น: แม้จะใช้งานง่าย แต่ WooCommerce ก็อาจยากสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดการกับการปรับแต่งขั้นสูง

     

  • ต้องมีการอัปเดตเป็นประจำ: WooCommerce plugin มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราจำเป็นต้องคอยอัปเดตอยู่เป็นประจำ เพราะอาจถูกแฮคข้อมูลได้หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ

     

  • ต้องมีการเรียนรู้: การปรับแต่งขั้นสูงอาจต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการพัฒนาเว็บไซต์ เช่น CSS, HTML และ PHP

 

 

WooCommerce ติดตั้งอย่างไร

 

WooCommerce ติดตั้งได้อย่างง่ายดายเพียง 4 ขั้นตอน ดังนี้

 

  1. เข้าไปที่ WordPress dashboard
  2. กดเลือก “ตัวเลือกปลั๊กอิน”
  3. ค้นหาคำว่า “WooCommerce”
  4. ดาวน์โหลดปลั๊กอิน

 

เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการแนะนำขั้นตอนสำหรับการสร้างร้านค้าออนไลน์ต่อไป

 

 

 

WooCommerce ราคาเท่าไหร่

WooCommerce สามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าคุณต้องการธีมที่สวยงามและน่าสนใจในระดับพรีเมียม อาจต้องเข้าสู่การเป็นระบบสมาชิก WooCommerce แบบเสียเงิน โดยค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้สูงแต่อย่างใด ซึ่งมีให้เลือก 3 ระดับด้วยกันคือ Woo Starter ราคา 99 บาทต่อเดือน Woo Premium ราคา 209 บาทต่อเดือน และ Woo Business ราคา 419 บาทต่อเดือน

 

สรุปตอนท้าย

WooCommerce คือปลั๊กอินสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ระบบอีคอมเมิร์ชอย่างแท้จริง เพราะมีประโยชน์มากมายที่ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการจัดการการทำงานที่ครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน ที่สำคัญยังฟรีสำหรับทุกคนอีกด้วย ใครที่กำลังเปิดร้านค้าออนไลน์อยู่และมีเว็บไซต์ WordPress จะต้องไม่พลาดการติดตั้ง WooCommerce plugin เพื่อให้การซื้อขายในเว็บไซต์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort