เปิด Insight พฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละ Generation ประจำปี 2025

332 views

เจาะลึก Insight คนแต่ละ Generation แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคปี 2025 เป็นอย่างไรบ้าง

 

Generation กับการตลาดเป็นสิ่งแยกกันไม่ขาด เพราะคนแต่ละยุค แต่ละช่วงวัย มีประสบการณ์ วิถีการใช้ชีวิต ความสนใจ และพฤติกรรมซื้อของที่ต่างกันไปด้วย นักการตลาดจึงต้องเข้าใจความคิดของคนละเจนให้ดี เพื่อให้สามารถสื่อสารและผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้มากที่สุด ซึ่งทาง TCDC ได้จัดทำรายงานเจาะเทรนด์โลก ที่จะช่วยบอกพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละ generationในปี 2025 พร้อม insight ของคนแต่ละ Generation

 

Highlight & Summary

  • Gadgets หรือ Smart Watch เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในหมู่ Baby Boomers ที่คำนึงถึงสุขภาพและการใช้ชีวิตเป็นหลัก และเป็นเจนที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะมีกำลังทรัพย์สูงไม่แพ้กับ Gen Z เลย
  • วิกฤติวัย 30 คือสิ่งที่ชาว Millennials กำลังเผชิญ แบรนด์อาจสร้างพื้นที่ผ่อนคลาย 24 ชั่วโมงให้พวกเขาได้คลายความเครียด หรือสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจหลังเลือกงาน
  • มีคาดการณ์ว่าเด็กเจนอัลฟากว่า 65% จะทำงานในตำแหน่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในปัจจุบัน และเพียง 50% ที่จะจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และหันไปทำงานสายอาชีพที่ AI ทำแทนไม่ได้

 

 

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค Baby Boomers (1945 – 1964)

ถ้าพูดถึงกลุ่มเป้าหมายหลักในการทำการตลาด หลายธุรกิจมักจะให้ความสนใจ Gen Z หรือ Millennials จนลืมไปว่าชาว Baby Boomers ก็มีกำลังซื้อสูงและมองหาสินค้าที่ได้คุณภาพไม่ต่างกัน รวมถึงสามารถปรับตัวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้เร็วกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งทางสหประชาชาติก็คาดการณ์เอาไว้ว่าในปี 2050 จะมีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่าวัยรุ่นอายุ 15 – 24 ปีเสียอีก

 

ใครที่มีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน จะเห็นว่าพวกเขาติดโซเชียลกว่าเราเสียอีก คอนเทนต์ที่เหมาะกับชาว Baby Boomers คือ Video Commerce โดยเฉพาะบนเฟซบุ๊ก 85% ของผู้สูงอายุนิยมไถฟีดวิดีโอเพื่อดูคอนเทนต์ต่าง ๆ โดยไม่เปิดเสียงแต่อ่านคำบรรยายแทน อาจใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ชัด ใช้คำกระชับ ตรงประเด็น พยายามหลีกเลี่ยงภาษาวัยรุ่น ที่อาจทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้

 

นอกจากนี้ Smart Watch กลายเป็นสินค้าขายดีในหมู่ Baby Boomers เพราะช่วยตรวจจับข้อมูลสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความดัน หรือจำนวนก้าวเดิน เพราะสุขภาพคือ Priority ของคนกลุ่มนี้ ดังนั้น ธุรกิจไม่ควรข้ามเพียงเพราะแก่แล้ว แต่ควรผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับสภาพร่างกายของพวกเขา เพราะกำลังทรัพย์ของ Baby Boomers ก็ถือว่าไม่น้อยเลย

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค Gen X (1965 – 1980)

ตอนนี้ Gen X กลายเป็นกลุ่มคนที่กล้าใช้เงินฟุ่มเฟือยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าความคุ้มค่าไม่ได้หมายถึงแค่ราคา แต่ต้องรวมถึงคุณภาพ ความทนทาน และมอบประสบการณ์ที่ดีกลับมาด้วย การทำ Loyalty Program อาจเป็นการตลาดที่ตอบโจทย์ เพราะพวกเขาจะได้สิทธิประโยชน์หรือคุณค่าบางอย่างจากการซื้อสินค้า ทำให้รู้สึกคุ้มค่ายิ่งขึ้นไปอีก

 

ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์ความงาม Gen X กลายเป็นผู้ที่ถูกลืมโดยทันที แต่รู้ไหมว่าพวกเขานี่แหละเป็นฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงช่วงอายุ 43 – 58 ปีที่ยังคงรักสวยรักงามไม่ต่างจากวัยรุ่น (อาจจะมากกว่าวัยรุ่นด้วยซ้ำ) ดังนั้น แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามควรหันมาใส่ใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น และออกสินค้าสะท้อนความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เชื้อชาติ รูปร่าง หรือสีผม 

ไม่ว่าใครก็ต้องมีช่วงเวลาที่นึกย้อนประสบการณ์ในวัยเด็ก และอยากกลับไปสัมผัสสิ่งเหล่านั้นอีกครั้งการตลาดแบบห้วนนึกถึงอดีตหรือ Nostalgia Marketing สามารถดึงดูดความสนใจของชาว Gen X ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่สร้างอารมณ์และความรู้สึกร่วม แต่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับพวกเขาอีกด้วย

 

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค Millennials (1981 – 1995)

ใคร ๆ ก็บอกว่าคนเราควรประสบความสำเร็จก่อนอายุ 30 เป็นสิ่งที่ Millennials กำลังเผชิญหรือก็คือ Tri-life Crisis วิกฤติวัย 30 ที่เต็มไปด้วยความเครียดจากการแต่งงาน การหย่าร้าง การงาน การผ่อนบ้าน และอีกมากมาย งานวิจัยจาก Stylist เผยว่าผู้หญิงวัย 30 ปีกว่า 75% อยากมีเสถียรภาพทางการเงิน แต่มีเพียงแค่ 34% ที่สามารถทำตามเป้าหมายได้แล้ว

 

สุขภาวะคือสิ่งสำคัญที่สุดของชาว Millennials โดยเฉพาะการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มทั้งกายและใจ คนที่เหนื่อยจากงานก็ย่อมอยากมอบรางวัลให้ตัวเอง การเปิดบาร์กลางคืน สวนสาธารณะกะดึก หรือยิม 24 ชั่วโมง ช่วยผ่อนคลายความเครียดของคนวัย 30 ได้เป็นอย่างดี 

 

ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มประเทศ Blue Zone ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้กินอาหารที่ดี พักผ่อนเต็มที่ และมีเวลาไปออกกำลังกาย ถือเป็นความใฝ่ฝันของชาว Millennials แต่ถ้าไปอยู่ที่นั่นไม่ได้ก็ขอไปเที่ยวประเทศที่อากาศและสภาพแวดล้อมดีไปก่อน เช่น ญี่ปุ่น สกอตแลนด์ รวมถึงขอได้ลองสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายเหมือนกับคนในชุมชนจริง ๆ กินอาหารพื้นเมืองหรือทำสวนบ้าง เป็นต้น

 

พฤติกรรมซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) ถูกใจคนกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก รายงานจาก eMarketer เผยว่าชาว Millennials 45 ล้านคน ใช้งาน Digital Wallet เป็นประจำแถมยังผ่อนชำระตรงเวลาอีกด้วย

 

 

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค Gen Z (1996 – 2011)

Gen Z คือกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจทั่วโลกในยุคนี้ จากความสามารถในการซื้อและหาเงินที่สูงจนแซงหน้าคนเจนก่อน ๆ ได้ หลายคนอาจมองว่าพวกเขาติดโซเชียลมีเดียมากที่สุด แต่ความจริงแล้ว Gen Z กลับ Joy of Logging Off ไม่จำเป็นต้องเล่นมือถือตลอดเวลา แต่ออกไปทำกิจกรรมออฟไลน์มากขึ้น ไปคาเฟ่หรือเดินเล่นบ้าง อีกทั้งยังมองหากิจกรรม Workshop เพื่อเข้าสังคมมากขึ้นด้วย

 

อย่างไรก็ตาม Gen Z ยังคงเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ ๆ ของสังคมและสร้างไวรัลได้มากถึง 71% หยิบยกกระแสต่าง ๆ มาบอกต่อคนในโลกออนไลน์จนเกิดเป็นเทรนด์ฮิตไปทั่วโลก เช่น Y2K หรือดัดแปลงเพลงยุค 90 ให้มีความทันสมัยมากขึ้น 

 

ความรักสำหรับ Gen Z เป็นเรื่องที่เปิดกว้างมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพศตรงข้ามเสมอไป แต่เรื่องงานเรียกได้ว่าค่อนข้างสาหัส คนบางกลุ่มกำลังเผชิญกับสภาวะ First Job Crisis ไม่สามารถปรับตัวกับการเข้าสังคมและการทำงานได้ แถมหางานยากกว่ายุคพ่อแม่ในช่วงวัยเดียวกัน แต่ก็มี Gen Z บางส่วนที่เลือกหารายได้จากการเป็น Influencer, TikToker หรือ Creator บนช่องทางต่าง ๆ แทน

 

พวกเขายินดีลงทุนกับสินค้าประเภท Gadgets, Smart Phone หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ช่วยให้ใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ฝั่งวัยรุ่นชาวจีนเลือกที่จะสนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่นมากกว่าแบรนด์ไฮเอนด์ ส่วนวัยรุ่นอเมริกันจับจ่ายใช้สอยกับแบรนด์เนมมือสองมากขึ้น เพราะอยากรักษ์โลกมากขึ้น

 

 

 

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค Gen Alpha (2010 – 2024)

กลุ่ม Alpha คือ Generation ที่เกิดมาพร้อมโซเชียลมีเดียอย่างแท้จริง ไม่แปลกใจเลยว่าถ้าพวกเขาอยากจะโตมาเป็น Influencer หรือ Creator ตามรอยคนดังต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ ในอนาคตก็อาจเกิดความร่วมมือระหว่างแบรนด์ แพลตฟอร์ม และรัฐบาล เพื่อออกกฎเกณฑ์การใช้ Social Media ที่ปลอดภัยต่อเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีเพิ่มขึ้นด้วย

 

คาดการณ์ว่าเด็กเจนอัลฟา 65% จะทำงานในตำแหน่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในปัจจุบัน และเพียง 50% ที่จะจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และหันไปทำงานสายอาชีพที่ AI ทำแทนไม่ได้ แบรนด์อาจจะนำประเด็นนี้มาต่อยอดเป็นการทำ Workshop เพื่อพัฒนาทักษะให้กับพวกเขาและโปรโมตแบรนด์ไปในตัว 

 

รวมถึง Gen Alpha ยังถูกนิยามว่าเป็นเจนแห่งการถดถอย เพราะอ่านและเขียนหนังสือได้น้อยลงจากการเล่นมือถือมากเกินไป แบรนด์อาจสร้างพื้นที่สำหรับการศึกษาให้เด็กและทุกคนในครอบครัว เพื่อส่งเสริมการอ่านหนังสือมากขึ้น ทางฝั่งพ่อแม่ก็ต้องระมัดระวังการแชร์เรื่องราวของลูกบนสื่อออนไลน์ ที่จะกลายเป็น Digital Footprint กลับมาทำร้ายลูกในอนาคตได้

 

ไม่ใช่แค่ Social Media แต่พวกเขาโตมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศและภาวะโลกร้อน Sustatinability เป็นสิ่งที่พวกเขาตระหนักมากที่สุด ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องออกแบบมาให้รักษ์โลกให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าแบรนด์ไหนยังดึงดันที่จะทำร้ายโลกแบบเดิม ก็อาจเสียลูกค้ากลุ่มนี้ที่คาดการณ์ว่าจะมีมากถึง 2.2 พันล้านคนในปี 2030

 

 

 

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค Gen Beta (2025 – 2039)

เป็น Generation ที่ยังไม่เกิดขึ้นมา แต่ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าเราจะคาดการณ์พฤติกรรมของพวกเขาไว้ก่อน เพื่อเตรียมกลยุทธ์หรือสินค้าต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งมีแนวโน้มว่า Gen Beta จะเป็นผู้สร้างจินตนการให้กลายเป็นจริงได้จากการป้อนคำสั่งต่าง ๆ ให้กับ AI รวมถึงกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับโลกเทคโนโลยี และตระหนักถึงภัยคุกคามบนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น

 

นอกจากจะมีหัวก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีแล้ว Gen Beta จะเข้ามาทำลายกฎเกณฑ์เดิม ๆ ในยุคก่อน ๆ เพราะพวกเขาโตมากับสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและเพศ ทำให้พวกเขาเข้าใจคนทุกกลุ่มเป็นอย่างดี มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเสมอภาค และให้สังคมมีความเคารพซึ่งกันและกัน

 

ผู้คนในอนาคตจะโหยหากิจกรรมกลางแจ้งกันมากขึ้น เพราะพ่อแม่ของ Gen Beta ก็คือ Gen Z ที่ไม่ได้อินกับการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากเท่ากับเจนอื่น และกิจกรรม Physical อาจกลายเป็นสิ่งหายากในยุคที่อินเทอร์เน็ตเป็นเหมือนอวัยวะอีกชิ้น แบรนด์อาจวางแผนสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ให้คนได้ออกมาใช้ชีวิตและพบเจอกันในชีวิตจริงมากขึ้น

 

สรุป

เมื่อลองเปรียบเทียบกับพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละ Generation ในปี 2024 จะพบว่าการคาดการณ์ของปี 2025 เจนเนอเรชันต่าง ๆ ตระหนักรู้และสนใจด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น จะไม่ใช่เป็นเทรนด์อีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แถมเราได้เห็น Insight ของคนแต่ละ Generation ที่อาจคาดไม่ถึง รวมถึงแบรนด์ต่าง ๆ ต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่จะต้องส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคตอย่างแน่นอน

 

 

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร 02-026-6423

Line: @zort