เจาะลึกการทำ Loyalty Program สำหรับผู้บริโภคแต่ละ Generation ในปี 2024
ทุกวันนี้มีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ เหล่าธุรกิจที่มีส่วนแบ่งในตลาดแล้ว จำเป็นต้องรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ให้เหนียวแน่น จริงอยู่ว่าการหากลุ่มลูกค้าใหม่ก็สำคัญ แต่กลุ่มลูกค้าเดิมก็เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ในการรักษายอดขายให้กับสินค้าและบริการของแบรนด์ไปอีกนาน ดังนั้น การทำ Loyalty Program จึงเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยดึงลูกค้าให้ภักดีกับแบรนด์ต่อไป ZORT พาไปดูว่าการทำ Loyalty program แต่ละ Generation ต้องทำยังไง พร้อมส่องพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละ Generation อัปเดตปี 2024
ส่องพฤติกรรมของแต่ละ Generation พร้อมวิธีการทำ Loyalty Program
เทรนด์มาใหม่ทุกวัน แน่นอนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ถ้าแบรนด์สามารถเข้าใจถึงความต้องการและพฤติกรรมของแต่ละ Generation ได้ดี ก็สามารถออกแบบ Loyalty Program ที่เหมาะกับแต่ละ Generation ได้ด้วยนั่นเอง
Gen Z
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงเกิดปี 1997-2012 ชอบเสพคอนเทนต์ที่เป็นไวรัล ทันกระแสสังคม และตามเทรนด์บนโลกออนไลน์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วที่สุด หากมีข้อสงสัยก็จะชอบค้นหาคำตอบด้วยตัวเองผ่าน Google เป็นแพลตฟอร์มหลักและ TikTok ตามมาเป็นอันดับสอง ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพราะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อ
สำหรับการทำ Loyalty ให้ชาว Gen Z จะเป็น “Innovative Loyalty” เพราะคนกลุ่มนี้เกิดมาพร้อมกับความไวต่อข่าวสาร ดังนั้น รูปแบบการให้รางวัลจะเป็นการให้แบบทันทีทันใด (Instant Gratification Rewards) เช่น บัตรส่วนลดที่สามารถแลกรับได้ในทันทีบนแอปพลิเคชัน เป็นต้น และรางวัลที่พวกเขาได้รับต้องส่องมอบสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมด้วย
Gen Y
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงเกิดปี 1982-1996 ชื่นชอบสินค้าและบริการที่เหมาะแก่การทำหรือใช้คนเดียว ชื่นชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบหรูหรา มอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างจากคนอื่น ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตที่ดีและ Work-Life Balance นอกจากนี้ยังคาดหวังให้แบรนด์มีความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภคอีกด้วย
“Personalized Loyalty” เป็นรูปแบบการทำ Loyalty Program ที่ตอบโจทย์สำหรับชาว Gen Y อย่างที่กล่าวไปว่า พวกเขาต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ทำให้ชอบสิทธิพิเศษที่จะได้เฉพาะตัวฉันเท่านั้น อีกทั้งยังชอบความท้าทายมาก ๆ การเล่นเกมสะสมแต้มจึงถูกใจคนกลุ่มนี้สุด ๆ
Gen X
กลุ่มคนที่เกิดในปี 1965-1979 ด้วยความที่พวกเขาเติบโตจากการพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก จึงให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินและครอบครัวมากที่สุด รวมไปถึงความสวยงาม การดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ พวกเขาชื่นชอบทั้งการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะรู้สึกว่าสะดวก และซื้อผ่านหน้าร้าน เพื่อทดลองใช้สินค้าก่อนซื้อ
Gen X เหมาะกับการทำ Loyalty Program ในรูปแบบ “Inclusive Loyalty” เพราะพื้นฐานเป็นกลุ่มคนที่ชอบพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้ตัวเอง หากต้องเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้ได้สิทธิพิเศษ ก็ยินดีที่จะเรียนรู้ และยังชอบการเก็บแต้มไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้ของรางวัลชิ้นใหญ่
Baby Boomer
กลุ่มคนที่เกิดในปี 1945-1964 ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน แต่ก็ยังชอบเล่นโซเชียลมีเดียและเข้าสังคมเพื่อพบปะเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรุ่นใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าใจเทรนด์ต่าง ๆ ทันกระแสสังคม อีกทั้งยังคงให้ความสำคัญทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นอันดับแรก ๆ ด้วยความอาวุโสและมีความรู้มาก พวกเขาจึงคอยให้คำปรึกษาคน Gen อื่น ๆ ในสิ่งที่ตนเชี่ยวชาญอีกด้วย
สำหรับชาว Baby Boomer ควรทำเป็น “Traditional Loyalty” หรือการทำ Loyalty Program แบบดั้งเดิมอย่างการสมัครสมาชิก (Membership) และได้ส่วนลดที่พิเศษกว่าใคร
การทำ Loyalty Program สำหรับผู้บริโภคแต่ละ Generation นั้นจะอ้างอิงจากพฤติกรรมและความสนใจของพวกเขาเป็นหลัก เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของคนแต่ละเจนได้อย่างตรงจุดที่สุดนั่นเอง การทำ Loyalty Program ในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการสมัครสมาชิก สะสมแต้ม หรือการแบ่ง Tier ของลูกค้า เพื่อสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันไปตามขั้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการซื้อขายได้มากขึ้นด้วย
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort