การตลาดแบบ Contextual Marketing เปลี่ยนโอกาสรอบตัวเป็นกลยุทธ์มัดใจลูกค้า
การสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพที่ในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นการทำตลาดที่รวดเร็ว ทันกระแส และตรงกับความชอบของลูกค้า เพื่อดึงดูดความสนใจและการมีส่วนร่วมได้อย่างทันท่วงที และแน่นอนว่าการที่จะสื่อสารให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย จะต้องอาศัยบริบทรอบข้างของพวกเขาไปด้วย ZORT พาคุณมารู้จักว่าเทคนิคการตลาดแบบ Contextual Marketing คืออะไร แล้วทำไมธุรกิจควรหันมาสนใจกลยุทธ์นี้ให้มากขึ้น มาดูกันเลย!
Highlight & Summary
- Contextual Marketing คือรูปแบบการทำการตลาดให้ตรงกับบริบทหรือความสนใจของลูกค้า ให้พวกเขามีส่วนร่วมและรู้ว่าแบรนด์เข้าใจตัวตนของพวกเขา
- บริบทของลูกค้าที่สามารถนำมาทำการตลาดนั้นมีมากมาย เช่น ไลฟ์สไตล์ สถานที่ที่ลูกค้าอยู่ โซเชียลแพลตฟอร์มที่นิยมใช้ หรือแม้กระทั่งเทรนด์หรือเทศกาลที่กำลังเกิดขึ้น
- สามารถทำร่วมกับการทำ Content Marketing โดยการสร้างสรรค์คอนเทนต์หลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าไม่รู้สึกเบื่อ และเนื้อหาเหล่านั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาด้วย
Contextual Marketing คืออะไร
เคยมั้ย? เวลาเซิร์ชหาสินค้าอะไรบางอย่าง แล้วเมื่อไปเล่นเฟซบุ๊กกลับมีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่เราเซิร์ชขึ้นเต็มไปหมด นั่นคือ Contextual Marketing กลยุทธ์การตลาดที่นำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความสนใจ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลานั้น ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ร่วมให้กับลูกค้า
ถ้าธุรกิจไหนสามารถจับจุดได้ไว ก็จะช่วยให้คอนเทนต์หรือแคมเปญการตลาดนั้นมีประสิทธิมาก ๆ โดยอาจศึกษาจาก Customer Journey เพิ่มเติมว่าอะไรเป็นจุดให้พวกเขาตัดสินใจซื้อร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งการตลาดแบบ Contextual Marketing จะคล้ายกับการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalization Marketing) เพราะเป้าหมายคือสื่อสารไปถึงพวกเขาให้ตรงจุดที่สุดนั่นเอง
อย่างไรก็ตามการทำการตลาดแบบ Contextual Marketing โดยเฉพาะการยิงโฆษณาควรทำแต่พอดี ไม่เยอะจนเกินไป และถูกเวลา เพื่อให้พวกเขาไม่รู้สึกว่าถูกโฆษณาโจมตีจนมากเกินไป และอาจทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีกับแบรนด์ได้
ตัวอย่างบริบทของลูกค้าที่สามารถนำมาทำ Contextual Marketing ได้
- ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
- เหตุการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น เทศกาล หรือสภาพอากาศ
- โซเชียลมีเดียที่กลุ่มลูกค้านิยม เช่น Facebook, TikTok, YouTube เป็นต้น
- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊ค เป็นต้น
- สถานที่ที่ลูกค้าอยู่
- ช่วงเวลาใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น คนนิยมเล่นไอจีตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป
- ประวัติการซื้อสินค้าและระยะเวลาในการเลือกดูสินค้า
- การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย (กดไลก์, แชร์ หรือคอมเมนต์) เป็นต้น
เหตุผลที่ธุรกิจควรหันมาใช้กลยุทธ์ Contextual Marketing
บางคนอาจมองว่าการทำการตลาดแบบอ้างอิงบริบทของลูกค้าอาจยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ แต่ความจริงคือกลยุทธ์นี้ช่วยส่งเสริมทั้งภาพลักษณ์และสร้างกำไรให้กับแบรนด์ได้ Zortout จะมาบอกเหตุผลที่เหล่าผู้ประกอบการควรปรับใช้เทคนิค Contextual Marketing กับธุรกิจของคุณแบบเห็นภาพมากขึ้น
ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Gen Z
Gen Z เป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาตระหนักและสนใจสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นทางสังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มลูกค้าหลักและทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนี้ นักการตลาดจึงต้องนำกลยุทธ์การตลาดแบบ Contextual Marketing มาใช้กับกลุ่ม Gen Z เพื่อให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้และวางแผนการสื่อสารได้อย่างถูกจุด
ผลิตคอนเทนต์ออกมาตรงใจลูกค้า
Contextual Marketing ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมและปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค ทำให้สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ตรงตามความชอบของลูกค้า พวกเขาจะรู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจความเป็นตัวตนของพวกเขา ส่งผลให้การมีส่วนร่วม การจดจำ และการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าด้วยเช่นกัน
ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุน
กลยุทธ์ Contextual Marketing ทำให้นักโฆษณารู้ว่าควรสื่อสารอะไร ต้องทำแคมเปญการตลาดแบบไหน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงเลือกเครื่องมือสื่อสารที่ตอบโจทย์กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ประหยัดต้นทุน ไม่เสียเวลาลองผิดลองถูก หรือยิงโฆษณาแบบหลับตาสุ่ม เพื่อทดลองแผน A แผน B ว่าต้องทำแบบไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
การทำ Contextual Marketing ไม่จำเป็นว่าต้องหยิบสถานการณ์หรือประเด็นในเชิงบวกเท่านั้น แต่สามารถหยิบยกปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายต้องพบเจอ (หรือก็คือ Pain Point) มาสร้างเป็นการตลาดในเชิงที่สร้างสรรค์หรือทำให้เห็นว่าสินค้าและบริการของแบรนด์ช่วยแก้ปัญหาได้ เป็นเจาะลึก Insight ของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยมและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพวกเขาอีกด้วย
เทคนิคการทำการตลาดแบบ Contextual Marketing
1. สร้างแคมเปญการตลาดที่อิงตาม Customer Journey
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าการทำ Contextual Marketing สามารถศึกษา Customer Journey เพื่อนำมาแต่ละ Touchpoint มาสร้างเป็นแคมเปญการตลาดได้ ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่กระบวนการ Awareness, Interest, Desire ไปจนถึง Action เพราะแต่ละ AIDA Model มีส่วนสำคัญให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อทั้งนั้น
2. ร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ธุรกิจควรทำแคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์มที่ตรงกับบริบทของกลุ่มเป้าหมาย เช่น คุณมีธุรกิจเครื่องสำอางและกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ชอบเล่น TikTok ก็ควรทำแคมเปญการตลาดร่วมกับ TikToker ให้พวกเขาโปรโมทสินค้าให้ เพราะในยุคนี้การทำการตลาดร่วมกับ Influencer ก็ยังคงทรงอิทธิพลอยู่ รวมไปถึงสร้าง TikTok Shop เพื่อให้คนสามารถกดสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที
3. ใช้กลยุทธ์ Content Marketing
การทำ Contextual Marketing ที่ดี ควรสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตรงกับบริบทของลูกค้าในหลาย ๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บทความ, Infographic หรือทำคลิปวิดีโอสั้น โดยเนื้อหานอกจากจะโปรโมทสินค้าแล้วควรแทรกประโยชน์ไปให้พวกเขาด้วย เช่น สอนวิธีการใช้สินค้า, ตอบคำถามที่คนสงสัย หรือถ้าเป็นแบรนด์เสื้อผ้า อาจจะทำคลิป Lookbook หรือสอนแมทช์เสื้อแบรนด์กับลุคต่าง ๆ ลง YouTube เป็นต้น
4. วัดผลการทำ Contextual Marketing อย่างสม่ำเสมอ
หมั่นติดตามผลการทำการตลาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่าผลลัพธ์ออกมาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งสามารถวัดผลได้จากตัวชี้วัดต่าง ๆ เช่น ยอดขาย การมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยอดเข้าชมเว็บไซต์ และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เป็นต้น
Contextual Marketing เป็นการนำเอาบริบทรอบข้างลูกค้าหรือกระแสแบบ Real-Time มาพัฒนาเป็นคอนเทนต์เพื่อตอบสนองความต้องการให้ได้มากที่สุด ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังระมัดการทำการตลาดที่รุกล้ำลูกค้ามากจนเกินไป หากคุณวางแผนการการทำ Contextual Marketing ด้วยการสื่อสารในปริมาณที่พอดี เวลาที่เหมาะสม ตรงกับสิ่งที่พวกเขาสนใจ ก็จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort