อัปเดต 10 เทรนด์ E-Commerce 2023 ในไทย ที่น่าจับตามอง
แน่นอนการที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คงใช้กลยุทธ์เดิม ๆ ไม่ได้อีกต่อไป ด้วยเทรนด์ที่มีการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจควรตามให้ทัน เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสสำคัญของการทำธุรกิจ ยิ่งยุคสมัยนี้ที่หลายธุรกิจเริ่มปรับตัวไปตามพฤติกรรมของผู้โภค ช้อปออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าอุตสาหกรรม E-Commerce เข้าสู่การขายออนไลน์เต็มรูปแบบเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ ZORT จึงชวนผู้ประกอบการทุกท่าน มาติดตาม 10 เทรนด์ E-Commerce 2023 มีอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือได้ทัน มาดูกัน
E-Commerce คืออะไร
ก่อนที่จะไปดูว่าเทรนด์ E-Commerce ในไทย ปี 2023 มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ เรามาทำความรู้จักกับธุรกิจของ E-Commerce กันก่อนว่าคืออะไร ซึ่ง E-Commerce ย่อมาจาก Electronic Commerce คือ การทำธุรกิจที่ซื้อ – ขาย และแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขายผ่านทางเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยสามารถใช้ได้ทั้งข้อความ เสียง ภาพ และคลิปวิดีโอ สำหรับการทำธุรกิจ โดยการธุรกิจแบบ E-Commerce นั้นช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
จับตา 10 เทรนด์ E-Commerce 2023 ในไทย ที่น่าจับตามอง
เมื่อรู้จักธุรกิจ E-Commerce คืออะไรกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดู เทรนด์ E-Commerce 2023 ในไทยกันบ้าง ปีหน้ามีธุรกิจอะไรบ้างที่จับตา ซึ่งเราได้คัดเทรนด์ E-Commerce 2023 ที่น่าสนใจมาให้ฝากกับผู้ประกอบการออนไลน์ทุกท่าน มาดูกันเลย
1. เทรนด์การท่องเที่ยวฟื้นมูลค่า E-Commerce เติบโตขึ้น
จากรายงานมูลค่า E-Commerce ในช่วงปี 2020 โดย ETDA พบว่ามูลค่าของ E-Commerce ลดลงประมาณ 6.68% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการท่องเที่ยว เนื่องจากมูลค่าของ E-Commerce ประเทศไทยส่วนใหญ่จะมาจากการท่องเที่ยว ยิ่งมีสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 จึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อไทยเริ่มเปิดประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น
คาดการณ์ว่าในปี 2023 ทำให้มูลค่า E-Commerce ของไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ประกอบกับหลายธุรกิจก็เริ่มเข้าสู่ออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบหลังจากช่วงโควิด จึงส่งผลให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ดังนั้น ใครทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เชื่อว่าปี 2023 ธุรกิจเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ สอดคล้องกับแนวโน้มนโยบายของไทยที่กระตุ้นเน้นการท่องเที่ยวมากขึ้น
2. เทรนด์สงคราม e-Marketplace กำลังจบลง
ใครที่ทำธุรกิจออนไลน์เชื่อว่าถ้าพูดถึง e-Marketplace ในไทย หลายคนคงนึกถึง 3 ค่ายใหญ่ ได้แก่ Shopee, LAZADA และ JD Central คงรู้จักกันเป็นอย่างดี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ด้วยจากงบที่ลงทุนอย่างมหาศาลในการโปรโมต จัดทำโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นและดึงดูดให้ผู้บริโภคและร้านค้าเข้ามาใช้งานมากขึ้น
แต่คาดการณ์ว่าในปี 2023 e-Marketplace เริ่มมีปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เห็นได้จากช่วงปลายปี 2022 ที่ใช้เงินในการทำการตลาดลดน้อยลง ทำให้นักการตลาดหลายคนมองว่า เทรนด์ E-Commerce 2023 จะทำให้สงคราม e-Marketplace กำลังจบลง ดังนั้น ในช่วงปี 2023 e-Marketplace แต่ละเจ้าเริ่มเน้นทำกำไรเพิ่มมากขึ้น ทำโปรโมชั่นลดลง แล้วหันมาเก็บเงินจากลูกค้าและร้านค้าเพิ่มมากขึ้น ใครขายของออนไลน์ผ่าน e-Marketplace ลองดูช่องทางการขายว่าค่ายไหนให้ประโยชน์กับธุรกิจมากที่สุด
3. เทรนด์ On-Demand Commerce สงครามการค้าออนไลน์กำลังเริ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าสงคราม e-Marketplace กำลังจบสิ้นลง แต่ในขณะเดียวกันก็มีสงครามใหม่ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นคือ On-Demand Commerce หรือที่เรียกให้เข้าใจง่าย ๆ Food Delivery ที่เน้นให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งธุรกิจประเภทนี้ในไทยที่หลายคนรู้จักกันดี LINE MAN, Grab, Food Panda หรือ Robinhood โดยในช่วงปีที่ผ่านมาหลายแพลตฟอร์มเริ่มมีการขยายธุรกิจให้มากกว่าแค่การส่งอาหาร
อย่างเช่น Grab มีบริการเรียกรถรับ-ส่ง ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รับ-ส่งเอกสาร รวมถึงบริการใหม่อย่างการเรียกแม่บ้าน ในขณะที่ฝั่ง Lineman ก็จับคู่ทำธุรกิจร่วมกับ Wongnai กลายเป็น Lineman x Wongnai ส่วน Robinhood ที่กำลังเปลี่ยนตัวเองเป็น Super App เพิ่มบริการด้านการท่องเที่ยว และเรียกรถรับส่งด้วย ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดเจนว่า E-Commerce 2023 ในปีหน้าธุรกิจ On-Demand Commerce เติบโตขึ้นแน่นอน และการแข่งขันสูงมาก ๆ
4. เทรนด์สินค้าจีนบุกตลาดไทยอย่างเต็มรูปแบบ
คงปฏิเสธไม่ได้เมื่อตลาด E-Commerce ของไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สินค้าหลากหลายประเภทจึงบุกตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยการขนส่งสินค้าจากจีนจำนวนมาก ไม่ว่าจะผ่านการขนส่งทั้งทางรถ ทางน้ำ และทางราง โดยนำสินค้าจากจีนเข้ามาเก็บไว้ที่โกดังในประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณใกล้กรุงเทพฯ เพื่อให้คนขายสามารถส่งสินค้าได้ภายใน 2 – 5 วันเท่านั้น ซึ่งสินค้าที่ถูกนำเข้ามาจากจีนก็มีความหลากหลายประเภท มีทั้งสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสินค้าที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น ใครทำธุรกิจขายของออนไลน์ก็ควรเช็กสินค้าให้ดีซะก่อน
5. เทรนด์ Short Video Commerce
E-Commerce 2023 อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงตั้งแต่ปลายปี 2022 ไปจนถึงเทรนด์ E-Commerce 2023 เลยก็ต้องยกให้กับ Short Video Commerce ที่เล่นเอาโลกออนไลน์ดุเดือดร้อนแรงเป็นอย่างมาก Short Video มีทั้งจาก TikTok, YouTube, Facebook เเละ Instagram เรียกได้ว่าทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างลงมาแข่งขันอย่างเต็มสตรีม ที่มาพร้อมบริการขายของ E-Commerce ถือเป็นตลาดการขายของออนไลน์ให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ฉะนั้นใครที่ขายของออนไลน์จึงไม่ควรพลาดช่องทางการขายของผ่าน Short Video Commerce
6. เทรนด์การโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
จากเมื่อก่อนหากทำโฆษณาสินค้าหรือบริการ หลายธุรกิจทำโฆษณาพุ่งตรงไปที่สื่อโทรทัศน์เป็นหลัก แต่เมื่อพอมาถึงยุคนี้ เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ช่องทางออนไลน์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของนักการตลาด เลือกลงสื่อโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ TikTok ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญค่าใช้จ่ายยังถูกลงอีกด้วย
7. เทรนด์การตลาดผ่านการบอกส่งต่อ โดย Influencer กำลังเติบโต
การทำตลาดแบบการบอกส่งต่อ โดย Influencer ถือเป็นอีกหนึ่ง เทรนด์ E-Commerce 2023 ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยการตลาดผ่านการบอกต่อ หรือ Affiliate Marketing ด้วยสินค้าหลายแบรนด์เวลาจะโฆษณา เดี๋ยวนี้เลือกใช้เป็นกลุ่ม Influencer ที่มีชื่อเสียงมากขึ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างแรงกระตุ้น เพื่อให้ลูกค้าสนใจและซื้อสินค้าหรือบริการนั่นเอง จึงทำให้วิธีนี้กลายเป็นเทรนด์ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น เนื่องจาก Influencer ช่วยสร้างรายได้ให้ง่ายขึ้น
8. เทรนด์ MarErce ผสมผสาน E-Commerce จนเกิดเป็น MarErce
อย่างที่บอกว่ายุคนี้การทำธุรกิจนั้นจะมาทำการตลาดแบบเดิม ๆ คงจะไม่ได้แล้ว ต้องตามเทรนด์ให้ทัน ถ้าเป็นเทรนด์ E-Commerce 2023 คนทำธุรกิจจะมาเน้นเรื่องการตลาด ส่วนคนขายออนไลน์จะเน้นเรื่องการขายคงไม่ได้แล้ว ปัจจุบัน Marketing กับ E-Commerce ได้ผสมผสานรวมเข้ากัน จนกลายเป็น มาร์เอิร์ซ (MarErce) คือ รูปแบบการทำธุรกิจดิจิทัลที่ E-Commerce ผสานเข้ากับมาร์เทค (MarTech) อย่างไร้รอยต่อ
ทั้งนี้ จึงส่งผลให้ผู้ให้บริการด้าน มาร์เทค (MarTech) เริ่มมีแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่การทำการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นแพลตฟอร์มในการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจออนไลน์ เพราะทำให้เกิดการซื้อขาย และเมื่อเกิดการขายแล้ว ฝั่งมาร์เทค (MarTech) ก็จะย้อนกลับไปทำ CRM หรือ Retention เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้าแล้วเกิดการซื้อซ้ำต่อไป ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า มาร์เอิร์ซ (MarErce) กลายเป็นหัวใจสำคัญในการที่จะเปลี่ยนแปลงให้กับตลาดออนไลน์ในอนาคต
9. เทรนด์ การแข่งขัน E-Commerce ของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่
นับเป็น E-Commerce 2023 อีกเทรนด์ที่น่าจับตามาก ๆ ด้วยแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ เริ่มมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงและดุเดือดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์ม Facebook, Line, TikTok ที่สามารถรองรับและส่งเสริมธุรกิจ E-Commerce มากยิ่งขึ้น ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ ที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่กระโดดไปใช้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น TikTok มีทั้ง TikTok Video, TikTok Ads, TikTok Shop ส่วนด้าน Facebook มี Facebook Shop, Facebook Live, Facebook Marketplace, Facebook Messenger และทางฝั่ง LINE มี LINE Chat, LINE OA, LINE Shop, LINE Pay ฯลฯ
นั่นหมายความเมื่อการแข่งขัน E-Commerce ของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่เกิดขึ้น คนทำธุรกิจออนไลน์อย่างเรา ๆ อาจจะได้ประโยชน์ตรงนี้ไปด้วย ทำให้มีตัวเลือกที่มากขึ้น สามารถเลือกช่องทางการขายของให้เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจ
10. เทรนด์ Green Commerce มาแรงอย่างต่อเนื่อง
ปิดท้ายด้วยเทรนด์ E-Commerce 2023 กับเทรนด์ Green Commerce บอกเลยว่ามาแรงตั้งแต่ปี 2022 ไปจนถึงปี 2023 กันเลย ด้วยกระแสของผู้คนที่หันมาสนใจสินค้าที่รักษ์โลกมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่หลายคนยอมควักเงินเพื่อซื้อสินค้าประเภทนี้ ฉะนั้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนไหนกำลังมองหา เทรนด์ E-Commerce 2023 ไม่รู้ว่าจะเลือกสินค้าประเภทไหนมาขายดีถึงจะปัง แนะนำให้ดูเป็นสินค้าเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือรักษ์โลก มาขายกันดู รับรองว่าปังแน่นอน
จบลงไปแล้วสำหรับ 10 เทรนด์ E-Commerce 2023 หวังว่าผู้ประกอบการออนไลน์ทุกคน น่าจะพอได้ไอเดียในการวางแผนการตลาด เพื่อกำหนดทิศทางการทำธุรกิจ E-Commerce ในไทยปี 2023 ใครยังคงทำธุรกิจในรูปแบบเดิม ๆ บอกเลยว่าปีหน้าจะต้องเตรียมปรับลุคเปลี่ยนโฉมใหม่ให้ธุรกิจก้าวทันเทรนด์ เพื่อปลุกยอดขายและช่วยดึงดูดให้สนใจในธุรกิจของเราเยอะ ๆ ถ้าหากก้าวเข้ามาในตลาด E-Commerce แล้วต้องคอยติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ ส่วนใครอยากได้ผู้ช่วยจัดการธุรกิจออนไลน์ให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น สามารถให้ ZORT ระบบจัดการออเดอร์และจัดการสต๊อกออนไลน์ เพื่อเข้ามาช่วยธุรกิจคุณให้ง่ายขึ้น
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort