ทำความรู้จักอีคอมเมิร์ซดังจากจีน “TEMU” บุกตลาด SME ไทยแล้วตอนนี้
ถ้าพูดถึง E-Commerce แพลตฟอร์มที่เป็นที่รู้จักในไทย ก็คงนึกถึง Shopee, Lazada หรือ TikTok Shop ที่คนนิยมใช้บริการกัน แต่ตอนนี้ก็มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมาแรงจากจีนอย่าง TEMU ที่เป็นกระแสในโลกตะวันตกมาสักพัก และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาด SME ของไทยแล้วด้วย ซึ่งแพลตฟอร์ม TEMU คืออะไร ดีไหม มีจุดขายอะไรที่ทำให้ขยายสาขาไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก มาดูกันเลย
Highlight & Summary
- TEMU เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากจีนที่โด่งดังจากการใช้กลยุทธ์ลดราคาสินค้าถึง 90% และรับประกันสินค้านานถึง 30 วัน
- ภายในระยะเวลาแค่ 2 ปี TEMU ขยายสาขาไปแล้วกว่า 49 ประเทศทั่วโลก และในสหรัฐอเมริกามีผู้ใช้งานแอปฯ เพิ่มขึ้นถึงหลัก 100 ล้านคน
TEMU คืออะไร
TEMU คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซภายใต้บริษัท PDD Holdings หรือ Pinduoduo จากประเทศจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยสินค้าที่วางขายบนแอปฯ TEMU เรียกได้ว่ามีตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ทั้งของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงเสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งรูปแบบโมเดลธุรกิจของ TEMU คือให้ผู้ขายในจีนสามารถจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
“Shop Like a Billionaire” คือสโลแกนของ TEMU ที่ต้องการสื่อว่าสินค้าราคาถูกมาก ๆ จนลูกค้าสามารถชอปปิงได้โดยไม่กังวล ราวกับตัวเองเป็นมหาเศรษฐี สำหรับใครที่สงสัยว่า TEMU ใช้ยังไง จะบอกว่าหน้าตาแอปพลิเคชันเหมือนแอปฯ อีคอมเมิร์ซทั่วไป มีภาษาไทย และสามารถผูกกับบัญชี Google, Facebook, Apple ID และ X เพื่อเข้าสู่ระบบ
ลดต้นทุนด้วยกลยุทธ์ Group Buying ซื้อเป็นกลุ่ม ถูกกว่า!
กลยุทธ์ที่ทำให้ TEMU สามารถขายสินค้าในราคาที่ถูกมาก ๆ ก็คือการสั่งซื้อแบบกลุ่ม (Group Buying) โดยแอปฯ จะรวบรวมคำสั่งซื้อสินค้าประเภทเดียวกันจากผู้ซื้อหลาย ๆ คน และส่งคำสั่งซื้อไปให้ผู้ขายจัดส่ง วิธีนี้ทำให้ผู้ซื้อได้ราคาสินค้าที่ต่ำกว่าตลาด ประหยัดค่าส่งไปได้เยอะ แต่ก็ติดตรงที่อาจได้รับของล่าช้ากว่าการกดสั่งเป็นรายบุคคล
TEMU ชูจุดขายแจกโปรโมชันโหด การันตีส่งไว
TEMU ใช้กลยุทธ์จัดโปรโมชันลดราคาสินค้าถึง 90% จัดส่งสินค้ารวดเร็วภายใน 4-9 วัน รับประกันสินค้า 30 วัน และสามารถแจ้งคืนสินค้าได้ภายใน 90 วัน เป็นการตัดราคาคู่แข่งและการทำสงครามราคาให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่น ๆ อย่างมาก จุดขายนี้ทำให้ TEMU มียอดขายมากกว่า 14,000 ล้านบาทต่อเดือน และมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันรวม 165 ล้านครั้งทั่วโลกอีกด้วย
ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ๆ ของ TEMU ในระยะเวลา 2 ปี และขยายตัวไปแล้วกว่า 49 ประเทศทั่วโลก ก็ทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ของโลกอย่าง Amazon, Walmart, eBay และ Etsy เกิดความสั่นสะเทือนไม่ใช่น้อย เพราะในสหรัฐอเมริกาเองก็มีผู้ใช้งานแอปฯ เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านคน และสร้างรายได้ในตลาดสหรัฐฯ สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
Top 10 สินค้าขายดีในแอป TEMU ประจำปี 2024
- เสื้อผ้าผู้หญิง
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- เสื้อผ้าผู้ชาย
- ของใช้ในบ้านและเครื่องครัว
- งานศิลปะและงานฝีมือ
- ผลิตภัณฑ์ความงาม
- ของเล่นและเกม
- รองเท้าผู้ขาย
- ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
- อุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น กลอนประตูดิจิตอล
TEMU กระทบตลาด SME ไทยอย่างไรบ้าง
TEMU เน้นขายสินค้าที่ไม่มีแบรนด์ ทำให้ราคาถูกมาก ๆ อาจสร้างความกังวลให้ฝั่ง SME ถูกกดดันเรื่องราคา ต้องลดราคาสินค้าหรือยอมขาดทุน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ อีกทั้ง TEMU ถือเป็นแพลตฟอร์มที่คนรู้จักในวงกว้างมากขึ้น อาจทำให้ SME ไทยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ยากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม สินค้าบนแอปฯ TEMU เป็นที่รู้กันว่าไม่ได้คุณภาพ มีสินค้าปลอมวางขายปะปนอยู่ รวมไปถึงการขโมยข้อมูลของลูกค้า โฆษณาเกินจริง และปัญหาด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ที่กล่าวหากันเองระหว่าง TEMU และ Shein ประเด็นทั้งหมดนี้ทำให้รีวิวแอปฯ ออกมาในเชิงลบค่อนข้างมาก ในจุดนี้หากทาง SME ไทยสามารถรักษาคุณภาพสินค้าและไม่สนใจเรื่องการตัดราคาเพื่อแข่งขันกับตลาด ก็อาจจะไม่ได้มีผลกระทบมากนัก
แม้ว่าจะสินค้าบน TEMU จะราคาถูกมาก ๆ แต่เมื่อสินค้าไม่ได้คุณภาพก็ถือว่าไม่คุ้มค่า ทั้งนี้ ตลาด SME ของไทยควรหันมาใส่ใจกับคุณภาพของสินค้า และผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด รวมถึงเตรียมตัวรับมือในทุกการแข่งขันต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต ส่วนปัญหาต่าง ๆ ที่ ZORT เล่าไปทั้งหมดนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ความนิยมของ TEMU ลดลงไปจากเดิมหรือไม่
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort