แจก 5 ไอเดียโปรโมชันขายสินค้าในระบบ POS ดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่
ในยุคที่ตลาดการแข่งขันดุเดือดแทบทุกเซกเมนต์ การใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย หรือโปรโมชันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องผสานรวมกับเทคโนโลยีเพื่อผลลัพธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ดีสุดให้กับลูกค้าที่นิยมใช้ร่วมกับระบบ POS ที่จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการนำมาช่วยสร้าง จัดการและวิเคราะห์โปรโมชันได้อย่างชาญฉลาดผ่าน 5 ไอเดียโปรโมชันไว้ดึงดูดให้ลูกค้าเก่ายังคงอยู่และมีลูกค้าใหม่มาเพิ่ม
ทำไมไอเดียโปรโมชันถึงสำคัญกับการตลาด
โปรโมชัน คือ การส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายซึ่งไม่ได้มีแค่การลด แลก แจก แถม แต่เป็นวิธีในการส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) การโฆษณา (Advertising) การใช้พนักงานขาย (Personal Selling) รวมถึงการให้ข่าวและการประชาสัมพันธ์ (Public Relation)
เหตุผลที่ทำไมธุรกิจต้องใช้ไอเดียโปรโมชันดึงดูดลูกค้าก็เพราะต้องการดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อขยายฐาย เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้ทันที ส่งเสริมการรักษาลูกค้าให้กลายเป็นพันธมิตรระยะยาว ช่วยเคลียร์สต๊อกสินเก่าและเพิ่มพื้นที่สำหรับสินค้าใหม่
ตัวอย่างและวิธีคิดโปรโมชันบนระบบ POS ให้ไม่ขาดทุน
ไอเดียโปรโมชันแบบเดิมอาจจะยังไม่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วซึ่งการเชื่อมต่อกับระบบ POS จะเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้ได้ โดยขอยกตัวอย่าง พร้อมวิธีคิดโปรโมชันเพื่อให้ธุรกิจตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างโปรโมชัน มีอะไรบ้าง
- การลดราคา (Discounts)
- ส่วนลดตามจำนวนเงิน หรือเปอร์เซ็นต์ เช่น ซื้อเสื้อ 2 ตัว ลด 10% หรือช้อปกระเป๋าวันนี้ลดทันที 30 บาท
- ส่วนลดสำหรับสินค้าเฉพาะ หรือหมวดหมู่ เช่น ลดเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม 5% ทุกรายการ หรือ สินค้าหมวดเสื้อผ้าเด็ก ลด 50% ทุกรายการ
- แบบมีเงื่อนไข (Conditional Promotions)
- ซื้อ X แถม Y เช่น ซื้อกาแฟ 1 แก้ว แลกรับคุ๊กกี้ 1 ชิ้น
- ซื้อขั้นต่ำตามกำหนด เช่น ซื้อขนมครบ 500 บาทรับพวงกุญทันที
- ชุดเซต การรวมสินค้าขายดีเข้าด้วยกันในราคาพิเศษ เช่น ซื้อนม A และขนมปัง B ในราคาพิเศษจาก 49 บาทลดเหลือ 39 บาท
- ระบบสมาชิกและสะสมคะแนน (Membership & Loyalty Points)
- แต้มสะสมคะแนน สามารถสะสมแต้มตามยอดซื้อ ใช้แต้มแลกส่วนลด หรือของรางวัล เช่น สะสมครบ 500 คะแนนสามารถแลกคูปองส่วนลดได้ 100 บาท
- เฉพาะสมาชิก ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกกว่าลูกค้าทั่วไป เช่น ราคาทั่วไป 219 บาท แต่ราคาสมาชิกเหลือเพียง 199 บาท
- รหัสส่วนลด กรอกรหัสส่วนลดที่ระบบ POS หรือสแกนคูปองผ่านระบบได้ทันที เช่น กรอกรหัส Freesep25 เฉพาะเดือนกันยายน 2568 รับส่วนลดทันที 25 บาท
- โปรโมชันตามช่วงเวลา (Time-based Promotions)
- Flash Sales ลดราคาพิเศษช่วงสั้น ๆ เช่น เสื้อผ้าแบรนด์ X ลดสูงสุด 35% ช่วง 14:00 – 16:00 น. เท่านั้น
- ตามฤดูกาล ปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส หรือช่วงหยุดยาว เช่น NEWYEAR Sales เช่น ซื้อขนม X 1 กล่อง แถม 1 กล่อง เฉพาะช่วง 31 ธันวาคม – 1 มกราคม เท่านั้น
ตัวอย่างวิธีคิดโปรโมชันให้คุ้มค่า
วิธีคิดโปรโมชัน คือ การคำนวณกำไรขั้นต้นส่วนเพิ่มจะช่วยให้ธุรกิจทราบผลกระทบทางการเงินที่แท้จริงซึ่งการเชื่อมต่อกับระบบ POS จะมีส่วนช่วยในการให้ข้อมูลที่จำเป็น เช่น ยอดขายตมโปรโมชันและต้นทุนสินค้าซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยในการตัดสินใจและปรับปรุงกลยุทธ์โปรโมชันให้เหมาะสมและคุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไปหรือไม่? ซึ่งสามารถคำนวณได้ ดังนี้
คำนวณยอดขายส่วนเพิ่ม คือ มูลค่าเงินที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมโปรโมชัน (โดยไม่สนใจต้นทุน)
สูตร
- ยอดขายส่วนเพิ่ม = (ยอดขายเป้าหมายจากโปรโมชัน)−(ยอดขายปกติถ้าไม่จัดโปรโมชัน)
- ยอดขายส่วนเพิ่ม = (30,000) − (35,000) เท่ากับ 5,000
ผลลัพธ์ การจัดโปรโมชันจะมียอดขายรวม (Revenue) ที่บันทึกในระบบลดลง 5,000 บาท
คำนวณกำไรขั้นต้นส่วนเพิ่ม คือ กำไรจริงที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง หลังจากหักต้นทุนสินค้าทั้งหมด รวมถึงสินค้าแถม
สูตร
- กำไรขั้นต้นส่วนเพิ่ม = (กำไรขั้นต้นจากยอดขายเป้าหมาย)−(กำไรขั้นต้นจากยอดขาย)
- กำไรขั้นต้นส่วนเพิ่ม = (12,000) − (24,500) เท่ากับ −12,500 บาท
ผลลัพธ์ การจัดโปรโมชันครั้งนี้ทำให้กำไรขั้นต้นลดลง 12,500 บาท เมื่อเทียบกับการขายแบบปกติ
จะเห็นได้ว่าการจัดโปรโมชันในครั้งนี้ ยอดขายรวมลดลง 5,000 บาทเมื่อเทียบกับยอดขายปกติและกำไรขั้นต้นก็ลดลง 12,500 บาทซึ่งหากมองความคุ้มค่าของต้นทุนอาจจะรู้สึกไม่คุ้มค่า แต่หากเป็นแบรนด์ใหม่ พึ่งเปิดตัวไม่นาน การคิดโปรโมชันในลักษณะนี้อาจช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ ให้เป็นที่รู้จัก หรือขยายตลาดได้มากขึ้น
ดังนี้ การวางกลยุทธ์ในการคิดโปรโมชันให้ชัดเจนว่าต้องการทำกำไร หรือต้องการขยายตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดได้ดีมากยิ่งขึ้น
5 ไอเดียโปรโมชันตอบรับเทรนด์ 2026 ดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่
แล้วจะเริ่มต้นคิดไอเดียยังไง? ขอแชร์ 5 ไอเดียตอบรับเทรนด์ 2026 ดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ไว้เป็นแนวทาง ได้แก่
Live Commerce
ไอเดียโปรโมชันที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Shopee, Lazada, Instagram ที่ในแต่ละช่วงเวลาของการไลฟ์มีช่วงเวลา Flash Sales, Limited Time Offers แจกส่วนลด คูปอง หรือของแถมต่าง ๆ จำนวนจำกัด จะช่วยสร้างความรู้สึกเร่งด่วนและกระตุ้นการตัดสินซื้อสินค้าของผู้ชมได้รวดเร็ว
Personalized Promotion
รู้หรือไม่ว่า? ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการบริการพิเศษเฉพาะบุคคลเพราะรู้สึกถึงความใส่ใจและได้สินค้าในแบบที่ต้องการที่ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลแต่ละบุคคลที่สะดวกมากขึ้นเมื่อเชื่อมต่อระบบ POS ซึ่งช่วยบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เช่น ลูกค้า A ชอบซื้อกาแฟร้อนในเช้าวันธรรมดานำไปสู่การส่งโปรโมชัน “ซื้อกาแฟแก้วที่ 2 ลด 50%” ในช่วงเช้าวันธรรมดาที่เพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อ หรือจะส่งคูปองลดราคาพิเศษ 50%ในวันเกิดที่ใช้แลกซื้อสินค้าได้ทุกหมวดที่สร้างความรู้สึกพิเศษและเป็นคนสำคัญของแบรนด์
Gamification
ไอเดียโปรโมชันที่คิดขึ้นมาจากความสนุก ที่อยากให้ลูกค้ารู้สึกไม่จำเจ ไม่น่าเบื่อกับโปรโมชันแบบเดิม ๆ โดยการสร้างความสนุกผ่านการเล่นเกมส์ เช่น รับส่วนลดทันที 5% เมื่อซื้อสินค้าครบตามเงื่อนและพร้อมรับโชคอีกแค่หมุนวงล้อที่อาจจะเป็นได้เป็นคูปองส่วนลดอีก 5% แลกซื้อสินค้าฟรี 1 รายการ หรือได้รับของที่ระลึกที่จะช่วยเพิ่ม Engagement และลูกค้ารู้สึกสนุกกับการใช้จ่าย
User-Generated Content (UGC)
UGC การมีส่วนร่วมกับแบรนด์เป็นอีกหนึ่งไอเดียโปรโมชันที่รับความนิยมซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยโปรโมตสินค้าที่ทำให้แบรนด์น่าเชื่อถือมากขึ้นและดูเป็นการตลาดจริงใจไม่โฆษณาเกินไป เช่น แบรนด์อาหาร อาจชวนผู้ติดตามมาแชร์สูตร หรือรูปเมนูที่ทำจากสินค้าของคุณ หรือแบรนด์เสื้อผ้าก็อาจให้ลูกค้าโพสต์ไอเดียการมิกซ์แอนด์แมตช์ที่ใช้สินค้าของคุณ โดยไอเดียไหนโดนใจ หรือยอดไลก์สูงสุดจะได้รับเงินรางวัล หรือของที่ระลึกจากแบรนด์
Collaboration Promotion
การร่วมมือกับแบรนด์อื่นที่กลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกันเป็นอีกหนึ่งโปรโมชันดึงดูดลูกค้า เช่น ร้านกาแฟ A x ร้านเบเกอรี่ B ภายใต้คอนเซปต์ ย้อนวัยชิม กับเมนูชาเย็นโบราณสูตรหวานพอดี ทานคู่กับปาท่องโก๋สูตรเด็ดที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ทั้งสองแบรนด์ได้ขยายฐานลูกค้า เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
ไอเดียโปรโมชัน จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายของธุรกิจที่แนะนำว่าให้ใช้ควบคู่กับระบบ POS เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในการคำนวณโปรโมชันและจัดการบริหารร้านค้าตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังครัวด้วยการดึงข้อมูลที่จำเป็นมาใช้ทำให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกลยุทธ์โปรโมชันให้เหมาะสม
หากใครสนใจระบบ POS เพื่อช่วยจัดเก็บข้อมูลร้านค้าและดึงข้อมูลที่จำเป็นในการนำมาวางแผนจัดโปรโมชันได้เหมาะสม ลดต้นทุนและสร้างผลกำไร “ ZORT” อาจเป็นคำตอบของคุณ
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort
