อัปเดต ขนาดรูป Facebook ปี 2023 เพื่อโพสต์สวยเป๊ะ สะดุดตาคน

23,106 views

Update2023 เลือกขนาดรูป Facebook อย่างไร ให้เหมาะกับการนำไปใช้บนโซเชียล

ในยุคโซเชียลมีเดียปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า Facebook ยังคงเป็นหนึ่งในแฟลตฟอร์มหลักและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ถือเป็นเป็นพื้นที่โซเชียลมีเดีลของคนที่ชอบโพสต์รูปภาพหรือแชร์ข่าวสาร หรือคอนเท้นต์ต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคอนเท้นต์ครีเอเตอร์ นักการตลาด รวมถึงเจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องใช้แพลตฟอร์มนี้ในการสื่อสารกับผู้คนและกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอ

ซึ่งในคอนเทนต์ต่างๆ ก็มีองค์ประกอบและเรื่องราวที่ใช้สื่อสารมากมาย นอกจากเนื้อหาหรือข้อความที่ควรมีความถูกต้อง น่าสนใจแล้ว รูปภาพก็ถือเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญที่จะทำหน้าที่สื่อสารและช่วยดึงดูดให้ผู้คนเข้ามา engage หรือมีส่วนร่วมกับคอนเท้นต์ที่เราครีเอทมากขึ้น ยิ่งในกลุ่มธุรกิจออนไลน์ต่าง ๆ ก็ยิ่งนิยมนำรูปภาพมาใช้ในการทำคอนเทนต์และทำสื่อเพื่อการโฆษณาอีกด้วย เพราะรูปภาพนี่แหละที่จะทำให้คนได้เห็นภาพของสินค้าต่างๆ ได้ดีมากกว่าการมีแค่ตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว

ขนาดรูปภาพใน Facebook ที่ใช้กันบ่อย

เนื่องจากทาง Facebook มีการอัปเดตขนาดรูป Facebook 2023 ที่เหมาะสมมาล่าสุดแล้ว ซึ่งจริงๆ Facebook มักจะอัปเดตการใช้งานหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขนาดปกเฟส รูปภาพโปรไฟล์ รูปภาพมาตรฐานที่ใช้โพสต์ รวมถึง Layout ของการโพสต์รูปอยู่สม่ำเสมอ วันนี้เลยพามาอัปเดตขนาดรูปอัปเดตล่าสุดในส่วนต่างๆ ที่ใช้กันบ่อย ซึ่งเรารวบรวมมาให้ทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

ภาพหน้าปก (Cover Photo)

ขนาดปกเฟส 2023 สำหรับส่วนหน้าปกหรือ Cover Photo ยังแนะนำให้ใช้เป็นรูปแนวนอน ในอัตราส่วน 16:9 เหมือนทุกๆปี ซึ่งทาง Facebook แนะนำว่ารูปภาพหรือวีดีโอที่นำมาใช้ควรให้มีสาระสำคัญอยู่ตรงกลาง (Center) ของรูปภาพ และเวลาที่เปลี่ยนภาพหน้าปก ควรรีเช็คให้รูปแบบออกมาสวยงาม การแคปตัดมีสัดส่วนเหมาะสม เพื่อช่วยดึงดูดสายตาของผู้เข้าชมนั่นเอง ซึ่งขนาดปกเฟส 2023 ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมดังนี้

  • ขนาดหน้าปก Cover Facebook Page สำหรับ New Pages Experience จะแนะนำให้ใช้ขนาด 1920×1080 px แม้ว่าจะเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุด แต่การแสดงผลบนมือถืออาจจะมีเนื้อหาหรือองค์ประกอบของภาพบางส่วนถูกครอปออกไป เนื่องจากเพจรูปแบบใหม่อย่าง New Pages Experience มีการปรับหน้าเพจใหม่ ดังนั้นควรจัดวางเนื้อหาบนรูปให้อยู่ในโซน Safe Area ที่มีขนาด 1920×710 px. และเว้นระยะจากด้านซ้ายล่างที่มีรูปโปรไฟล์เพจบัง

  • ขนาดปกเพจ Facebook และ Facebook Group สำหรับการแสดงผลในคอมพิวเตอร์และมือถือ แนะนำให้ใช้รูปภาพแบบ Full-HD ที่มีขนาด 1920×1080 px ซึ่งถือได้ว่าเป็นขนาดที่สมส่วนที่สุด แต่ก็หลีกเลี่ยงการจัดวางองค์ประกอบหรือเนื้อหาบนรูปที่มีความสำคัญบนพื้นที่สีดำ
  • ขนาดปก Cover Facebook Event สำหรับการแสดงผลในคอมพิวเตอร์และมือถือ แนะนำให้ใช้รูปภาพแบบ แนะนำขนาดที่ 1920×1008 px ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถแสดงผลได้ดีทั้ง 2 devices

สำหรับรูปภาพที่เราลง Facebook รูปภาพโปรไฟล์ถือได้ว่าส่วนสำคัญมากๆ เพราะเป็นรูปแรกที่คนอื่นๆ จะได้เห็นผ่านฟีด ซึ่งรูปภาพโปรไฟล์ก็ควรเลือกรูปที่มีความสวยงาม น่าดึงดูด และอาจจะใช้สื่อสารหรือแสดงตัวตนของเราหรือแบรนด์สินค้าของเรา ให้กับผู้ที่เข้ามาเจอโปรไฟล์ให้อยากทำความรู้จักเราเพิ่มขึ้นไปอีก อีกส่วนสำคัญคือขนาดรูป Facebook profile ที่เหมาะสม รวมทั้งโทนสีหรือองค์ประกอบต่างๆ ที่รวมออกมามีความสวยงาม น่าสนใจ รูป Facebook profile ที่แสดงผลทั้งบนแอคเคาน์ส่วนตัวและ Facebook Page จะะแสดงผลเป็นรูปวงกลม (Circle) จึงควรเลือกรูปภาพทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสและมีพื้นที่เผื่อด้านข้างเพื่อให้รูปออกมาสมบูรณ์เวลาแสดงผลบนหน้าโปรไฟล์

  • ขนาดรูป Facebook profile ที่แนะนำคือ 720 x 720 px

 

 

รูปภาพในอัลบั้ม (Facebook Album Photo)

การโพสต์รูปภาพบน Facebook ในกรณีที่โพสต์หลายๆ รูป หรือการโพสต์เป็นอัลบั้ม สิ่งที่ต้องคำนึงและระวังในการเลือกคือขนาดรูปลงเฟส เพราะจำนวนรูปที่ลงก็จะมีผลต่อภาพรวมที่ถูกแสดงผลออกมาเช่นกัน ซึ่งการโพสต์รูปในรูปแบบของอัลบั้มจะเหมาะกับคอนเทนต์ที่ต้องการเล่าเรื่องที่มีความยาวต่อเนื่อง หรือเนื้อหาที่ต้องการการอธิบายเพิ่มเติม ซึ่งสามารถใส่แคปชั่นประกอบแต่ละรูปภาพ เพื่อให้ผู้ชมผู้อ่านให้เห็นภาพและเข้าใจเนื้อหาของเรื่องราวที่อยากจะสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งรูปภาพจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าสนใจ และมีส่วนดึงดูดให้คนกดเข้ามาดูรูปภาพถัดๆ ไปของคุณมากขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งตามขนาดรูปลงเฟสรูปแรกของอัลบั้มเป็น 2 แบบหลักๆ คือรูปภาพแนวนอน และรูปภาพแนวตั้ง

 

รูปภาพแนวนอน อัลบั้ม ขนาดรูป Facebook แนวตั้ง แบบ 3 ภาพ , 4 ภาพ  และ 5 ภาพ

 

ขนาดโพสต์ Facebookสำหรับอัลบั้ม Facebook แนวนอน เป็นการจัดวางที่เหมาะกับการทำคอนเทนต์ที่ต้องการเล่าเรื่องราวหลากหลายมีความยาวหลายหน้า ทำให้คนรู้สึกอยากกดคลิกเข้ามาอ่าน หรือดูรูปภาพถัดๆ มาเพิ่มเติม การทำอัลบั้มรูปแนวนอน มีทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ

 

 

ขนาดรูปลงเฟสอัลบั้มรูป แบบ 3 ภาพ

  • ขนาดรูปปก (รูปแรก) ที่แนะนำคือ 600 x 1200 px ในสัดส่วน 2:1
  • ขนาดรูปเนื้อหา (รูปที่ 2 และ 3) ที่แนะนำคือ 1920×1920 px ในสัดส่วน 1:1
  • กรณีนี้การโพสต์รูปในอัลบั้มต้องไม่เกิน 3 รูป เพราะถ้ามีรูปภาพมากกว่า 3 รูป Facebook จะเปลี่ยน Layout ให้แสดงผลเป็นรูปแบบอื่นทันที

 

 

ขนาดรูปลงเฟส อัลบั้มรูป แบบ 4 ภาพ

  • ถ้าโพสต์รูปภาพแค่ 3 รูปในแนวนอน ขนาดของรูปแรก (หน้าปก) ก็จะแคบลงมา ทำให้ขนาดรูปเนื้อหามีพื้นที่น้อยลง

  • ขนาดรูปปก (รูปแรก) ที่แนะนำคือ 1920×1280 px ในสัดส่วน 3:2
  • ขนาดรูปเนื้อหา (รูปที่ 2, 3 และ 4) ที่แนะนำคือ 1920×1920 px ในสัดส่วน 1:1
  • กรณีนี้การโพสต์รูปในอัลบั้มต้องไม่เกิน 4 รูป เพราถ้ามีรูปภาพมากกว่า 4 รูป Facebook จะเปลี่ยน Layout ให้กลายเป็นอัลบั้ม 2+3 ทันที 

 

ขนาดรูปลงเฟส อัลบั้มรูป แบบ 5 ภาพ

  • ขนาดรูป (รูปที่ 1 และ 2) ที่แนะนำคือ 1920×1920 p ในสัดส่วน 1:1
  • ขนาดรูปเนื้อหา (รูปที่ 3, 4 และ 5) ที่แนะนำคือ 1920×1920 px ในสัดส่วน 1:1
  • กรณีนี้การโพสต์รูปในอัลบั้มตั้งแต่รูปที่ 6 เป็นต้นไป สามารถเป็นขนาดเท่าไหร่ก็ได้

 

แนวตั้ง อัลบั้ม ขนาดรูป Facebook แนวตั้ง แบบ 3 ภาพ , 4 ภาพ  และ 5 ภาพ

 

ขนาดรูปลงเฟสอัลบั้มรูป แบบ 3 ภาพ

ขนาดโพสต์ Facebook สำหรับอัลบั้มรูป แบบ 1+2 ก็จะเหมือนกับกับอัลบั้มรูปแนวนอน ในกรณีที่โพสต์รูปภาพเพียงแค่ 3 รูป และต้องการทำอัลบั้มแนวตั้ง พื้นที่รูปหน้าปกเมื่อแสดงผลออกมาจะมีขนาดแคบลงทันที

 

  • ขนาดรูปปก (รูปแรก) ที่แนะนำคือ 1200 x 600 px ในสัดส่วน 1:2
  • ขนาดรูปเนื้อหา (รูปที่ 2 และ 3) ที่แนะนำคือ 1920×1920 px ในสัดส่วน 1:1
  • กรณีนี้การโพสต์รูปในอัลบั้มต้องไม่เกิน 3 รูป เพราะถ้ามีรูปภาพมากกว่า 3 รูป Facebook จะเปลี่ยน Layout ให้แสดงผลเป็นรูปแบบอื่นทันที

 

ขนาดรูปลงเฟส อัลบั้มรูป แบบ 4 ภาพ

  • ขนาดรูปปก (รูปแรก) ที่แนะนำคือ 1280×1920 px ในสัดส่วน 1:1.5
  • ขนาดรูปเนื้อหา (รูปที่ 2, 3 และ 4) ที่แนะนำคือ 1920×1920 px ในสัดส่วน 1:1
  • กรณีนี้การโพสต์รูปในอัลบั้มต้องไม่เกิน 4 รูป เพราถ้ามีรูปภาพมากกว่า 4 รูป Facebook จะเปลี่ยน Layout ให้กลายเป็นอัลบั้ม 2+3 ทันที 

 

ขนาดรูปลงเฟส อัลบั้มรูป แบบ 5 ภาพ

  • ขนาดรูป (รูปที่ 1 และ 2) ที่แนะนำคือ 1920×1920 px ในสัดส่วน 1:1
  • ขนาดรูปเนื้อหา (รูปที่ 3, 4 และ 5) ที่แนะนำคือ 1920×1280 px ในสัดส่วน 3:2
  • กรณีนี้การโพสต์รูปในอัลบั้มตั้งแต่รูปที่ 6 เป็นต้นไป สามารถเป็นขนาดเท่าไหร่ก็ได้

 

Facebook Stories

นอกจากขนาดรูป Facebook ที่มีการอัปเดตและเป็นเหมือนการลงคอนเท้นต์มาตรฐานแล้ว สำหรับสายชอบ Short Video หรือสายชอบลง Story เพื่ออัปเดตคอนเท้นต์ง่ายๆ กระชับ รวดเร็ว และเหมาะกับสมาร์ทโฟน การลงคอนเท้นต์แบบ Story ควรสามารถแสดงผลเต็มบนสมาร์ทโฟนหรือมือถือได้ดี ชัดเจน โดยที่เนื้อหาไม่ถูกแคปออกไป

  • ขนาดที่เหมาะสมที่สุดนั่นก็คือ 1080×1920 px หรือ สัดส่วน 9:16

 

Video Facebook

วีดิโอเป็นเทรนด์ของคอนเท้นต์ที่มาแรง สามารถดึงดูดและสร้างเอนเกจได้ดีไม่แพ้กับรูปภาพ ซึ่งในปัจจุบันจะมีการทำวีดิโอสั้น ๆ เริ่มต้นที่ 15 วินาที (Reels) เหมาะกับการนำเสนอไลฟ์สไตล์ หรือสินค้าซึ่งใช้เวลาไม่นาน สั้น กระชับ ได้ใจความ โดยการอัปโหลดหรือโพสต์ Video แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

  • วีดิโอแนวนอน  1280 x 720 px
  • วีดิโอแนวตั้ง  720 x 1280 px

 

ประเภทของรูปภาพใน Facebook ที่คนนิยมใช้กัน

ขนาดรูป Facebook 2023 ได้ทำการปรับเปลี่ยนขนาดรูปภาพมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รูปภาพที่แสดงบนส่วนต่างๆของ Facebook ไม่ว่าจะเป็น Feed, ภาพหน้าปก (Cover photo), ภาพโปรไฟล์ (Facebook profile photo) รวมถึงรูปภาพในตำแหน่งอื่นๆ มีความคมชัด สวยงาม แสดงผลออกมาในสัดส่วนที่เหมาสม ชัดเจน ซึ่งการใช้รูปภาพได้ตรงตามกับขนาดที่ Facebook กำหนดนั้น จะช่วยให้รูปจะมีความคมชัด และใช้ได้เต็มพื้นที่ รวมทั้งการจัดวางภาพตามจำนวน ในสัดส่วน/อัตราส่วนที่เหมาะสม จะช่วยดึงดูดให้คนกดเข้ามาดูคอนเทนต์ที่โพสต์ได้มากขึ้นด้วย

สำหรับขนาดรูปที่นิยมใช้กันประจำ เช่น รูปแนวจตุรัส, รูปสี่เหลี่ยมแนวนอน, รูปสี่เหลี่ยมแนวตั้ง ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

 

รูปภาพแนวจตุรัส

รูปแนวจตุรัสเป็นขนาดรูป Facebook ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีความเรียบง่าย แสดงผลได้ดีทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เหมาะกับคอนเทนต์หลายรูปแบบ

ขนาดที่แนะนำ คือ 1200 x 1200 px หากอัปโหลดใหญ่กว่านี้สามารถทำได้ แต่ไม่เกิน 2048 x 2048 px

 

รูปภาพแนวนอน

รูปแนวนอนบนขนาดโพสต์ Facebook ที่เป็นอีกแบบที่นิยม ใช้ได้ดีกับภาพถ่ายขนาดกว้างกว่าไซต์มาตรฐานซึ่งทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น โดยขนาดรูป Facebook ที่นิยมใช้กันใช้มีสัดส่วน 16:9 หรือ 1200 x 600 px ซึ่งจะนิยมใช้ กับ Shared Link และรูป Cover Facebook Event นอกจากนี้ยังมีขนาดแนวนอนมาตรฐานอีกอย่างที่แนะนำคือ 16:9 ที่มีขนาด 1920×1080 px ที่สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

รูปภาพแนวตั้ง

จะเป็นขนาดรูปภาพที่มาแรงเหมาะกับสมาร์ทโฟนเพราะรูปภาพจะแสดงผลเกือบจะเต็มหน้าจอทำให้รูปภาพดูน่าสนใจ ใช้เมื่อต้องการเน้นรูปภาพเป็นพิเศษ หรือองค์ประกอบของรูปภาพเหมาะกับแนวตั้งมากกว่าแนวนอน โดยขนาดรูป Facebook แนวตั้งจะอยู่ที่อัตราส่วน 4:5 หรือ 1080 x 1350 px 

  • ขนาดรูปแรก 720×1080 px หรือ 1280×1920 (1:1.5)
  • ขนาดรูปเนื้อหา 1:1

แต่เราขอแนะนำที่ขนาด 920 x 1200 px ที่ลดขนาด px ลงมาแต่สะดวกในการใช้งานมากกว่า

 

รูปภาพจากการแชร์ลิงก์จาก Facebook (Shared Link)

Shared Link หมายถึงลิงก์ที่แชร์จากเว็บไซต์มาบน Facebook จะเหมาะกับเพจที่มีเว็บไซต์ที่ใช้บ่อย เช่นมีการลงบทความ หรือมีรายละเอียดที่ต้องการให้คนที่สนใจคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์มากขึ้นนั่นเอง เราจะใช้รูปภาพจากการแชร์ลิงก์ต้องการพาผู้ใช้งานเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ หรือเมื่อต้องการแชร์ลิงก์มายังสื่อโซเชียลมีเดียช่องทางอื่น ๆ โดยภาพหน้าปกที่อยู่บนบทความเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องเป็นภาพเดียวกันกับลิงก์ที่แชร์มายังสื่อโซเชียลต่าง ๆ 

ขนาดรูปภาพบนเว็บไซต์จะภาพขนาดมาตรฐาน 4:3 แต่หากแชร์ลงลิงก์จะสัดส่วนประมาณ 1:9:1 หรือขนาด 1200 x 628 px

 

การเลือกขนาดรูปบน Facebook สำคัญอย่างไร?

จากการอัปเดต ขนาดรูป Facebook 2023 และขนาดโพส Facebook 2023 ล่าสุด จะเห็นว่าการเลือกขนาดรูปอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมไปถึงการจัดวางอัตราส่วนของภาพก่อนที่จะโพสต์ใน Facebook สามารถช่วยสร้างความน่าสนใจ และดึงดูดให้คนเลือกที่จะเข้ามาดูหรือเอนเกจกับคอนเท้นต์ของเรา ซึ่งนำไปสู่การเพิ่ม followers หรือต่อยอดเป็น conversion ในอนาคตได้  

แต่หากเลือกใช้ขนาดภาพที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้รูปนั้นไม่ดึงดูหรือเนื้อหาบางอย่าง ถูกครอปตัดออกไป ซึ่งอาจทำให้คนที่เห็นโพสต์จะไม่สนใจแล้วเลื่อนผ่าน ในยุคที่มีคอนเทนต์ต่างๆ มากมาย การใส่ใจกับคอนเทนต์ที่สะดุดตา ดูแล้วเข้าใจง่าย ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการผลิตคอนเทนต์เพื่อการโฆษณา

จากที่อัปเดตเรื่องขนาดรูป Facebook 2023 ไปแล้ว เลยอยากขอเสริมเรื่องความสำคัญของการใช้รูปกับการตลาดเพิ่มเติม ว่ามีความเกี่ยวข้องและสำคัญมากน้อยอย่างไร

 

รูปภาพดีมีส่วนสำคัญกับการตลาดอย่างไร

สำหรับเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือคนที่ทำงานหรือใช้สื่อโซเชียลมีเดียด้านตลาดออนไลน์เพื่อสร้าง ตัวตน แบรนด์และประชาสัมพันธ์แบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จัก การมีช่องทางโปรโมทต่างๆ อย่างเช่น เฟสบุ๊คเพจ เว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ อาจไม่ช่วยในการโปรโมทและสร้างศักยภาพด้านการตลาดในธุรกิจของคุณได้มากพอ เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ต่างกัน คือตัวเนื้อหาที่เผยแพร่ (Content) ซึ่งถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะเนื้อหาแบบรูปภาพที่มีผลต่อการตลาดเป็นอย่างมาก รูปๆหนึ่ง อาจสามารถสื่อสารและตีความได้หลายความหมาย ขณะเดียวกันก็สามารถดึงความสนใจจากผู้พบเห็นได้อย่างดี จากข้อมูลในหลายแหล่งได้แสดงให้เห็นว่ารูปภาพนั้นมีพลังและอิทธิพลมากมายกับการตลาด ซึ่งสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้

 

ผู้ชมมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์สนใจกับคอนเท้นต์ที่มีรูปภาพประกอบมากกว่าคอนเท้นต์ที่มีแต่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว

จากข้อมูลจากบทความด้านการตลาดบอกว่า 96% ของผู้ชมจะให้ความสนใจและตอบรับหรือเข้ามามีส่วนร่วมกับคอนเท้นต์ที่มีรูปภาพประกอบมากกว่าคอนเท้นต์ที่มีแต่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว ซึ่งข้อนี้เป็นการตอกย้ำว่ารูปภาพมีส่วนสำคัญที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี

 

ความสำคัญของรูปภาพกับการขายของออนไลน์

สำหรับร้านขายของออนไลน์ทั้งบนโซเชี่ยลมีเดียและ เว็บไซต์ E-Commerce กลุ่มลูกค้าได้ให้ความสำคัญของส่วนต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการตัดสินใจซื้อของของพวกเขา ตามลำดับไว้ดังนี้

  • ภาพของสินค้าที่คุณภาพดีและสวยงามนั้นมีความสำคัญมากกว่าข้อมูลของสินค้าในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการมากที่สุด
  • รายละเอียดที่ชัดเจนและครบถ้วนและการรีวิวจากผู้ใช้จริงคนอื่นๆ ได้คะแนนลดหลั่นลงมา
  • ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ E-Commerce ต่างๆ มองว่ารูปภาพที่มีคุณภาพสูงและสวยงามมีความสำคัญมากต่อการตัดสินใจใช้บริการของพวกเขา

 

โพสต์ที่มีภาพประกอบได้รับ อัตราการให้ความสนใจ (Engagement rate : ER%) สูง

ในด้านการวัดผลทางการตลาด อัตราการให้ความสนใจ (Engagemant rate : ER%) และมีส่วนร่วมในโพสต์ต่างๆ บนเฟสบุ๊ค โพสต์ที่มีรูปภาพประกอบมีค่าเฉลี่ย ER% อยู่ที่ 0.37 % ในขณะที่โพสต์ที่มีข้อความเพียงอย่างเดียวจะมีค่า ER% เฉลี่ยอยู่ที่ 0.27%

จะได้เห็นได้ว่าการใช้รูปภาพรวมถึงขนาดรูป Facebook และโซเชี่ยลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม นั้นมีความสำคัญและส่งอิทธิพลเป็นอย่างมากในการดึงดูดและทำให้ผู้คนหันมาสนใจกับตัวคอนเท้นต์ที่เราต้องการนำเสนอและสื่อสารกับพวกเขา กล่าวได้ว่ากลยุทธ์ในการใช้รูปภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อวิธีทำการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการทำ Content Marketing ซึ่ง หัวใจสำคัญในการสื่อสารก็คือ “คอนเท้นต์” เพราะคอนเท้นต์ คือ “สาร” (Message) ที่แบรนด์หรือผู้ส่งสารต้องการสื่อสารกับอีกฝ่ายที่เรียกกว่า กลุ่มเป้าหมาย (Audience) หรือผู้รับสาร โดยเน้นการนำเสนอคอนเท้นต์ หรือเนื้อหาที่น่าสนใจ สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บทความ,Blog,วิดิโอ,กราฟฟิค ซึ่งหากเราสามารถที่จะนำกลยุทธ์การเลือกใช้รูปภาพที่น่าสนใจมาช่วยในการสื่อสารหรือนำเสนอ ก้จะช่วยทำให้การสร้างแบรนด์ โฆษณา และสิ่งที่เราต้องการนำเสนอให้กับกลุ่มเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

(ข้อมูลจาก https://taladpanya.com/images-in-content-marketing-strategy/)

 

วิธีการเลือกใช้รูปภาพในการทำ Content Marketing

เรามีวิธีการเลือกใช้รูปภาพในการทำ Content Marketing มาสรุปรวบรวมให้ทุกคนสามารถหยิบไปประยุกต์และปรับใช้กับช่องทางโวเชียลมีเดีย และสร้างแบรนด์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม

 

รูปภาพสินค้า

อย่างที่ย้ำให้เห็นในบทความข้างต้นว่าการใช้รูปภาพเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ การทำ Content Marketing โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ต่างๆ การใส่ภาพสินค้าทุกชิ้นที่มีขายและทำให้แน่ใจว่าภาพสินค้าทุกภาพนั้นต้องมีคุณภาพที่ดี รวมถึงควรมีธีม และ mood & tone ต่างๆของรูปภาพที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ในแบรนด์ของคุณ หรือที่ชอบได้ยินว่าเป็นการคุมโทนรูปภาพหรือคอนเท้นต์นั่นเอง ซึ่งเป็นวิธีการสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

Infographics (รูปภาพอินโฟกราฟิก)

การทำอินโฟกราฟิกเป็นอีกหนึ่งวิธีในการนำเสนอคอนเท้นต์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันค่อนข้างมาก เนื่องจาก เป็นการแสดงผลของข้อมูลหรือความรู้โดยภาพที่กระชับ ชัดเจน อ่านและเข้าใจง่าย เหมาะในการใช้ย่อยข้อมูลที่มีความซับซ้อน ตัวอย่างเช่น ป้าย แผนที่ งานวิจัย โดยอินโฟกราฟิกนี้ยังคงนิยมใช้ในสายงานด้าน คณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขต่างๆ เพื่อแสดงข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น แม้ว่าการทำอินโฟกราฟิกอาจจะดูยุ่งยากซับซ้อนไปบ้าง แต่ถือเป็นหนึ่งในรูปภาพที่สามารถสร้างพลังที่มหาศาลให้กับเนื้อหาที่เรานำเสนอ และสร้างคุณค่าให้กับเนื้อหาด้วยการทำเป็นภาพและข้อมูลที่ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญอินโฟกราฟิกได้รับการตอบรับจาก Social media ค่อนข้างดีในแง่ของการเอนเกจ ไม่ว่าจะเป็นการกดไลค์ กดแชร์ การตอบรับและให้ความสนใจกับตัวคอนเท้นต์ เนื้อหา และแบรนด์ที่นำเสนออีกด้วย เราจึงอยากแนะนำว่าควรมีรูปภาพแบบอินโฟกราฟิกในเพจของคุณเพื่อตอบสนองต่อการบริโภคของผู้คนสมัยใหม่ และช่วยให้การสร้างแบรนด์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องไม่ลืมเลือกใช้หรือทำขนาดรูปให้เหมาะสมตามขนาดรูป Facebook 2023 และขนาดโพสต์ Facebook 2023 ที่ได้บอกไว้ในตอนต้นด้วย

 

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับรูปภาพด้วย SEO :

นอกจากความสำคัญของรูปบนโซเชียลมีเดียแล้ว รูปภาพยังเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการสร้าง Traffic ในการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองข้ามความจริงในข้อนี้ไปเพราะคิดว่า การทำ SEO นั้นเน้นแค่ในข้อความ เนื้อหา และ Title Tags เท่านั้น แต่จริงๆแล้ว เราควรให้ความสำคัญกับการใส่ Keyword ที่เราต้องการให้ถูกค้นหาลงไปในรูปภาพที่ทำการอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์หรือบนช่องทางต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตด้วย

 

สิ่งสำคัญแรกก่อนที่จะอัพโหลดรูปภาพแต่ละครั้งคือตั้งชื่อรูปภาพให้ตรงกับเนื้อหาที่เราจะนำเสนอ รวมทั้งควรจะต้องมีความสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณมีร้านขายกาแฟและขนมออนไลน์ การตั้งชื่อภาพว่า “กาแฟ–ขนม” ย่อมดีกว่าตั้งว่า “Photo xxx“ เพราะเวลาที่ผู้คนค้นหาคำว่า กาแฟ–ขนม แล้วเลือกเมนูค้นรูปภาพ ภาพของคุณที่ได้ตั้งชื่อไว้มีโอกาสที่จะถูกเห็นมากกว่าภาพที่ตั้งว่า Photo xxx เพราะคีย์เวิร์ดไม่ตรงกับคำที่ผู้คนค้นหา

 

หลังจากการตั้งชื่อรูปภาพให้ตรงตามคีย์เวิร์ดที่ต้องการให้คนค้นหาเจอแล้ว สิ่งต่อมาคือการตั้ง Alt Tags หรือคำอธิบายรูปภาพสั้นๆ สำหรับภาพนั้นนั่นเอง เพราะจะช่วยให้ระบบ Search Engines เข้าใจว่ารูปภาพของคุณคืออะไร ตัวอย่างเช่น หากคุณขายเสื้อผ้า คุณอาจจะเขียนอธิบายสั้นๆ ว่า “เสื้อไหมพรมสีฟ้าอ่อน” แบบนี้ก็ได้

 

และท้ายสุด อย่าลืมปรับขนาดรูปภาพของให้เล็กและง่ายต่อการอัพโหลด เพราะภาพที่โหลดได้เร็วนั้นจะส่งผลดีต่ออับดับเว็บไซต์มากกว่าภาพที่โหลดช้าเพราะไฟล์ใหญ่ ดังนั้นพยายามอย่าให้ภาพมีขนาดใหญ่มากจนเกินไป และต้องไม่ลืมคำนึงถึงคุณภาพ ความคมชัดให้ความเหมาะสมในการแสดงผล เพื่อช่วยให้ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำ SEO เพิ่มขึ้นไปอีก

 

เมื่อเรามีการอัปเดตเรื่องขนาดรูป Facebook 2023 รวมถึงได้เห็นความสำคัญของการการใช้รูปภาพรวมถึงอินโฟกราฟิกต่างๆในการทำคอนเท้นต์ไปแล้ว เราเลยอยากเสริมเทคนิคในการเลือกใช้รูปภาพในการทำ Content Marketing โดยเฉพาะการทำการตลาดออนไลน์ต่างๆ ซึ่งไม่ว่าคุณคือนักการตลาด เจ้าของแบรนด์หรือเป็นคนที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจต้องการรูปภาพ หรือแรงบันดาลจากรูปภาพต่าง หรือต้องการนำรูปภาพไปใช้ในการทำงาน “คุณภาพของรูป” ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ที่เราไม่ควรจะมองข้ามเวลาที่เลือกใช้รูปภาพ

 

เพราะรูปภาพที่ดี จะช่วยนำสนอและถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ รวมทั้งเรื่องราวที่เราต้องการจะสารได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้ารูปภาพที่ใช้ มีความสร้างสรรค์ สวยงาม แปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ที่น่าดึงดูด มีคุณภาพ และโดนใจให้ลูกค้าเกิดความสนใจ ก็ยิ่งสร้างความประทับใจต่อลูกค้าหรือผู้ที่พบเห็นได้มากขึ้นอย่างแน่นอน และอาจนำไปสู่การมีส่วนร่วมหรือเพิ่มยอดผู้ติดตาม (Follower) ได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการที่ช่วยให้เราสามารถเลือกรูปได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับทำ Content Marketing และ Online Marketing จะมีอะไรบ้าง เราจะมาสรุปให้อ่านกันที่นี่เลย

 

เลือกใช้รูปภาพให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ต้องการใช้งาน

การเลือกใช้รูปภาพทุกภาพ ควรคำนึงและมีเหตุผลซัพพอร์ตว่าต้องการใช้รูปนี้เพื่อสื่อสารเรื่องอะไร กับใคร รวมทั้งต้องการให้ลูกค้าของเราหรือคนที่เข้ามาเห็น รู้สึกหรือคิดแบบไหน แล้วจึงค่อยเลือกรูปที่ตอบโจทย์นั้นๆได้ เช่น การโพสต์รูปภาพนางแบบใส่เสื้อผ้า เพื่อให้คนสามารถเห็นภาพการแต่งตัวได้ชัดเจน หรือการใส่เลขโปรโมชั่น หรือคำว่า SALE เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพแล้วรับรู้ถึง message ที่เราจะสื่อได้ทันที

 

เลือกรูปภาพที่ชัดเจน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เพราะรูปภาพที่สื่อความเป็นแบรนด์ หรือตัวตนของเราได้มากที่สุด ควรเป็นรูปภาพที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร อาจจะเริ่มจากการหา Reference, โทนสี pantone ต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างคาเรกเตอร์ Mood and Tone ที่ชัดเจน จากนั้นก็นำมาปรับให้เข้ากับโพสต์ หรือคอนเท้นต์ที่เราจะโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือนำมาประยุกต์ใช้กับแคมเปญที่เราจะทำ

 

เลือกรูปภาพที่มีความเกี่ยวข้องกับวันสำคัญ หรือเหตุการณ์สำคัญ

การโพสต์รูปภาพหรือสร้างคอนเท้นต์ที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญต่าง ๆ หรือเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น จะทำให้แบรนด์อยู่ในกระแส หรือเทรนด์ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ หรือการกลับมาโพสต์รูปวันครบรอบ หรือแชร์ความทรงจำดีๆ ในอดีต ก็จะทำให้มีความน่าสนใจ และมีเรื่องราวเชื่อมโยงกับคนที่ติดตามเรามาเป็นเวลานานได้

 

การโพสต์รูปที่เป็นตัวหนังสือหรือโควทคำคมต่างๆ

การโพสต์คอนเทนต์ด้วยข้อความหรือคำพูดที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจหรือให้กำลังใจกับผู้คน หรือแม้แต่ข้อความกระตุ้นความสนใจให้คนติดตามต่อ เช่น พบกับคอลเล็กชั่นใหม่ก่อนใคร !!! เดือนหน้ามีข่าวดีสำหรับ Followers ทุกคน จะเป็นอะไร กดติดตามไว้เลย แบบนี้เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่สร้างการมีส่วนร่วมกับคอนเท้นต์ออนไลน์ได้เป็นอย่างดี

 

เลือกใช้รูปภาพที่มีความสวยงาม

เพราะรูปภาพที่ถ่ายในมุมมองที่สวย มีองค์ประกอบภาพ แสงเงาเหมือนจริง และดูมีความคิดสร้างสรรค์ จะช่วยดึงดูดความสนใจของคนที่เห็นได้เป็นอย่างดี ยิ่งเป็นรูปภาพที่คุณใช้โพสต์ในเพจ หรือช่องทางโซเชี่ยลมีเดียด้วยแล้ว ยิ่งต้องคิดถึงจุดนี้ เพราะถ้าภาพของเราทั้งสวยทั้งน่าสนใจ ก็ช่วยให้คนอยากคลิกเข้ามาอ่านมากขึ้นแน่นอน

 

5 เทคนิคในการหารูปภาพแบบง่ายๆ ที่สรุปมาข้างต้นนี้ น่าจะเป็นตัวช่วยให้คุณทำ Online marketing ง่ายขึ้นและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างที่ตั้งใจ แต่นอกจากเรื่องของ “รูปภาพ” แล้ว การที่โพสต์ของเราจะมีคุณภาพด้านเนื้อหาและขนาดรูปภาพตรงตามที่แพลตฟอร์มแนะนำและรองรับ ก็เก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่จะประกอบรวมเป็นคอนเท้นต์และเข้าถึงผู้คนที่เราต้องการได้

 

ถ้าเราสามารถครีเอทเนื้อหา และข้อความต่างๆ ออกมาได้ตรงกับความต้องการ ก็จะมีส่วนช่วยได้มากอย่างแน่นอน เพราะถ้าเราเลือกภาพที่ใช้ออกมาได้ดี และมีเนื้อหาน่าสนใจ น่าดึงดูด และตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด การทำ Online Marketing ของคุณก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

นอกจากการเลือกใช้รูปภาพและขนาดรูป Facebook ให้เหมาะสมแล้ว นักการตลาดหรือสายคอนเท้นต์ครีเอเตอร์ต่างๆ ก็ควรรู้เกี่ยวกับเนื้อหาหรือภาพต้องห้ามของ Facebook ที่หากนำเนื้อหาหรือภาพเหล่านี้มาใช้บนเพจ Facebook หรือมีการซื้อ Facebook Ads ที่เราชอบเรียกว่าการรันแอด ก็มีความเสี่ยงทำให้ Ads โดน Disapproved หรือเพจอาจโดนแจ้งเตือนจาก Facebook เลยก็ได้

 

ซึ่งจากประกาศของ Facebook นั้น ระบุว่ามีเนื้อหาถึง 31 เนื้อหาที่ต้องพึงระวังและเป็นข้อห้ามในการทำโฆษณา Facebook ซึ่งเราจะหยิบยกบ้างข้อที่เกี่ยวข้องกับการใช้รูปภาพที่ใช้ประกอบเนื้อหาเช่นกัน หรือการเลือกใช้ขนาดรูป Facebook ให้ทุกคนเข้าใจง่ายมากขึ้น

 

เนื้อหาที่ต้องพึงระวังและเป็นข้อห้ามในการทำโฆษณา Facebook

 

1. รูปภาพของสินค้าบริการ หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ

ไม่ควรโพสต์รูปภาพของสินค้าบริการ หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ เช่นการพนันออนไลน์ หรือภาพที่ดูเป็นการเชื้อเชิญให้ทำผิดกฎหมาย

 

2. รูปภาพสินค้าประเภทบุหรี่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือนิโคติน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

ไม่ควรโพสต์รูปภาพสินค้าประเภทบุหรี่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือนิโคติน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ของสารเสพติดต่างๆ การขายหรือการใช้ รูปภาพที่ใช้ต้องไม่ส่งเสริมอุปกรณ์ในการจัดส่ง เช่น บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องระเหยไอ หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดที่จำลองการสูบบุหรี่หรือออกแบบมาเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือนิโคติน

 

3. รูปภาพของยา และสินค้าที่เกี่ยวกับยา 

ไม่ควรโพสต์รูปภาพของยา และสินค้าที่เกี่ยวกับยา หรือเป็นการโปรโมทการใช้ยาเพื่อผ่อนคลาย ยาตามใบสั่งแพทย์ หรือยาที่ควบคุมโดยกฎหมายต่างๆ รวมไปถึงยาและสินค้าที่เกี่ยวกับยา หรือเป็นการโปรโมทการใช้ยาเพื่อผ่อนคลาย ยาตามใบสั่งแพทย์ หรือยาที่ควบคุมโดยกฎหมายต่างๆ

 

4. รูปภาพผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ปลอดภัย

ไม่ควรโพสต์รูปภาพผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ปลอดภัย หรือส่งเสริมการขายหรือการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งการระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวปลอดภัยหรือไม่นั้นล้วนเป็นดุลยพินิจของ Facebook เอง ดังนั้นข้อนี้ แม้เราอาจจะเป็นแบรนด์อาหารเสริมที่ปลอดภัยก็จริงแต่หาก Facebook มองว่าไม่ปลอดภัยก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโฆษณาบน Facebook ได้

 

5. รูปภาพเกี่ยวกับอาวุธ กระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด 

ไม่ควรโพสต์รูปภาพ รูปภาพเกี่ยวกับอาวุธ กระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด หรือเป็นรูปภาพการใช้อาวุธ วัตถุระเบิด หรืออุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธ

 

6. รูปภาพสินค้าหรือบริการสำหรับผู้ใหญ่

ไม่ควรโพสต์รูปภาพสินค้าหรือบริการสำหรับผู้ใหญ่ ยกเว้นการโฆษณาการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด โดยหากเป็นโฆษณายาคุมกำเนิดต้องโฟกัสไปที่คุณสมบัติการคุมกำเนิดของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่เรื่องความพึงพอใจทางเพศหรือการเสริมสมรรถภาพทางเพศ และต้องกำหนดเป้าหมายไปยังผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น รวมถึงรูปภาพโป๊เปลือย หรือการแสดงให้เห็นภาพคนในท่าทางที่โจ่งแจ้งหรือส่อไปในทางเพศ หรือกิจกรรมที่ชี้นำหรือกระตุ้นเรื่องทางเพศจนเกินควร หรือเป็นโฆษณาที่สื่อถึงความสามารถในการเข้าถึงและดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ที่มีคนสร้างขึ้นมา

 

7. รูปภาพที่ประกอบเนื้อหาที่ให้ข้อมูลผิด ๆ เช่นข่าวลวง (Fake News) 

ไม่ควรโพสต์รูปภาพที่ประกอบเนื้อหาที่ให้ข้อมูลผิด ๆ เช่นข่าวลวง (Fake News) โดยที่ Facebook มี partner ในการตรวจสอบกรณีผู้ลงโฆษณาให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้อง

 

8. รูปภาพอุปกรณ์สอดแนมต่าง ๆ หรืออุปกรณ์ติดตามโทรศัพท์มือถือ

ไม่ควรโพสต์รูปภาพอุปกรณ์สอดแนมต่าง ๆ หรืออุปกรณ์ติดตามโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์สอดแนมอื่น ๆ ฟังก์ชั่นการทำงานที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง เช่น รูปภาพที่ลอกเลียนปุ่มเล่นวิดีโอ (กราฟฟิกเลียนแบบปุ่มเล่นวิดีโอโดยที่ไม่ได้เป็นวิดีโอจริง ๆ )

 

 9. รูปภาพ Before & After

ไม่ควรโพสต์รูปภาพเนื้อหาสุขภาพส่วนบุคคลที่มีภาพ “ก่อนและหลัง” หรือภาพที่มีผลลัพธ์ที่เกินจริงและไม่น่าเป็นไปได้ เนื้อหาโฆษณาและรูปภาพที่ทำให้ผู้รับสารรู้สึกแย่กับรูปร่างหรือลักษณะของตัวเอง ตัวอย่างเช่น การโปรโมทรูปการลดน้ำหนัก หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือลดน้ำหนัก หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่แสดงภาพ Before & After

 

10. รูปภาพการจัดทำหรือขายเอกสารเท็จ

ไม่ควรโพสต์รูปภาพโปรโมทบริการจัดทำหรือขายเอกสารเท็จ เช่น บัตรประจำตัวปลอม วุฒิการศึกษาปลอม หรือหนังสือเดินทางปลอม

 

จากเนื้อหาที่ต้องพึงระวังและเป็นข้อห้ามในการทำโฆษณา Facebook นี้ 10 ข้อข้างต้นนี้เป็นข้อเด่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำคอนเท้นต์ ซึ่งรวมไปถึงการใช้ภาพประกอบเพื่อสื่อสารกับผู้อ่าน ผู้ชม โดยเฉพาะการใช้ทำคอนเท้นต์ที่มีการยิงโฆษณาเพิ่มเติม ที่นักการตลาด เจ้าของแบรนด์และคอนเท้นต์ครีเอเตอร์ทุกคน ควรระมัดระวังและติดตามการอัปเดตอยู่เสมอ เพราะเนื้อหาต้องห้ามนี้อาจจะมีเพิ่มขึ้นในอนาคตเมื่อมี trends หรือธุรกิจหลอกลวงอะไรใหม่ ๆ ที่จะมาใช้ Facebook สร้างความสับสนให้ผู้ใช้งาน ซึ่งความตั้งใจของ Facebook นั้นก็เพื่อที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและมีประโยชน์กับผู้ใช้งาน การป้องกันและปิดกั้นเนื้อหาต้องห้ามพวกนี้จึงจำเป็นและมีความสำคัญอย่างมากสำหรับ Facebook ที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งาน

 

หากต้องการอ่านรายละเอียดของเนื้อหาที่ควรระวังในการทำโฆษณา Facebook ครบทั้ง 31 ข้อ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Ads Policies ของ Facebook คลิก https://www.Facebook.com/policies/ads/ ได้เลย

 

Facebook และโซเชียลมีเดียมีการอัปเดตสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรติดตาม อัปเดตความเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นบทความ Update 2023 เลือกขนาดรูป Facebook นี้ รวมถึงเทรนด์ต่างๆ และผลิตคอนเทนต์ รวมถึงเลือกใช้ขนาดรูปหรือเนื้อหาให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้คอนเทนต์ได้รับความสนใจ และสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ หรือต่อยอดในการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามได้มากขึ้นอีกด้วย

 

นอกจากนี้บทความนี้อยากเน้นให้เห็นความสำคัญของการใช้รูปประกอบอยู่ในคอนเท้นต์ ทั้งการเลือกใช้รูปภาพ ขนาดรูปภาพ รูปแบบต่างๆ และวิธีการเลือกใช้รูปภาพ และขนาดของรูปภาพโดยเฉพาะ ขนาดรูป Facebook และอีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากคือการหลีกเลี่ยงเนื้อหาต้องห้ามและไม่เหมาะสมใน Facebook เพื่อให้คอนเท้นต์ที่เราครีเอทและสื่อสารสามารถดึงดูดและเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น และเพื่อประสิทธิภาพให้เราทำการตลาดได้อย่างดีและเหมาะสมต่อไป

 

 

สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร

โทร 02.026-6423

Line: @zort

0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x