1. ไปที่เมนู “ตั้งค่า” หัวข้อ “บริษัท/ร้านค้า”
2. เลือกหัวข้อ “ตั้งค่าโปรแกรม”
ตั้งค่าโปรแกรม #
การตั้งค่าส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรม โดยมีรายละเอียดดังนี้
A. การตั้งค่าจัดการสินค้า #
· คลังสินค้า/สาขาหลัก : ใช้สำหรับตั้งค่าคลังสินค้าหลักในระบบ โดยสามารถเปลี่ยนได้สูงสุด 3 ครั้ง
· จัดการสินค้า >> สินค้าคงเหลือติดลบได้ / สินค้าพร้อมขายติดลบได้ : ใช้สำหรับตั้งค่าให้จำนวนสินค้าติดลบได้ หรือสำหรับการขายสินค้าพรีออเดอร์
· แก้ไขรายการที่สำเร็จได้ : ใช้ในการตั้งค่าให้สามารถแก้ไขรายการที่สำเร็จแล้วได้
· วันหมดอายุรายการขาย : ใช้ในการตั้งค่ากำหนดวันหมดอายุของรายการขาย หรือระบุวันที่ครบกำหนดการสั่งซื้อ
B. ตั้งค่าการแจ้งเตือน #
กำหนดการแจ้งเตือนจำนวนสินค้าคงเหลือขั้นต่ำ : ซึ่งเมื่อถึงจำนวนที่ตั้งค่าไว้ ระบบจะมีแจ้งเตือนหรือเปลี่ยนสีตรงจำนวนสินค้าเป็นสีเหลือง และสีแดงตามลำดับ โดยการตั้งค่าส่วนนี้จะใช้สำหรับสินค้าทุกรายการในระบบ
C. ตั้งค่าการคำนวณบัญชี #
กำหนดการตั้งค่าการคำนวณข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในหน้ารายงาน เช่น ยอดขาย, กำไรในระบบ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
· ภาษีมูลค่าเพิ่ม : กำหนดค่าภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นค่าเริ่มในรายการซื้อ – ขาย
· การคำนวณกำไรขั้นต้น : การตั้งค่าการคำนวณกำไรในระบบ โดยสามารถเลือกได้ 2 รูปแบบ คือ
1. Moving Average (คำนวณแบบค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (คำนวณเมื่อโอนสินค้าแล้ว))
2.FIFO (first in first out) (คำนวณแบบเข้าก่อน ออกก่อน (คำนวณเมื่อโอนสินค้าแล้ว)
(แปะลิงค์คู่มือ การคิดกำไรแบบ Moving Average และ FIFO เพิ่มเติมค่ะ)
***ทั้งนี้แนะนำร้านค้าปรึกษากับทางฝ่ายบัญชีได้โดยตรงว่าต้องเลือกคำนวณตามรูปแบบใด***
· ตั้งค่าคำนวณกำไรอ้างอิงวันที่รายการ : กำหนดวันที่ที่ใช้ในการคำนวณกำไร โดยหากไม่ติ๊กเลือกระบบจะคำนวณกำไรตามวันที่ที่โอนสินค้า
· การคำนวณต้นทุนสินค้า : การคำนวณต้นทุนสินค้า ซึ่งต้นทุนสินค้านั้นระบบจะนำมาจากราคาในรายการซื้อสินค้าหรือต้นทุนตอนทำการปรับจำนวนสินค้า ซึ่งหากต้องการนำค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มาคำนวณต้นทุนด้วย สามารถตั้งค่าเลือกเพิ่มเติมได้ 3 แบบ ดังนี้
1. รวมค่าส่งในต้นทุน/กำไร
ระบบจะกระจายค่าส่งที่เรียกเก็บจากลูกค้า โดยจะกระจายไปเป็นราคาขายของสินค้า ซึ่งจะเฉลี่ยตามราคาสินค้านั้น ๆ
2. กระจายต้นทุน/กำไรจากส่วนลด, คำส่ง, รายได้จาก Platform
ระบบจะกระจายส่วนลด, ค่าส่ง, และรายได้จาก Platform (เป็นค่ารายได้ที่มาจาก Marketplace) เพื่อใช้ในการคำนวณกำไร
ฝั่งรายการขาย จะกระจายส่วนลด, ค่าส่ง, รายได้ platform โดยจะกระจายไปเป็นราคาขายของสินค้า ซึ่งจะเฉลี่ยตามราคาสินค้านั้น ๆ
ฝั่งรายการซื้อ และรับคืน จะกระจายส่วนลด, ค่าส่ง, รายได้ platform โดยจะกระจายไปเป็นราคาต้นทุนของสินค้าเฉลี่ยตามราคาสินค้านั้น ๆ
3.คำนวณต้นทุนรายการรับคืนจากต้นทุนรายการขาย
หากไม่ติ๊กเลือก เมื่อมีการทำรายการรับคืนสินค้า ระบบจะนำราคาสินค้าที่ใส่ในรายการรับคืน มาคำนวณเป็นต้นทุนสินค้าที่มีการขายในรอบถัดไป
หากติ๊กเลือก เมื่อมีการทำรายการรับคืนสินค้า ระบบจะคืนต้นทุนสินค้าเข้าระบบให้ เมื่อมีการทำขายในครั้งถัดไป การคำนวณกำไรจะใช้ต้นทุนเดิม
· การคำนวณยอดขาย : การตั้งค่าเลือกสถานะ และวันที่ที่ใช้ในการคำนวณยอดขาย โดยการคำนวณยอดขายจะสามารถเลือกการคำนวณได้ 2 รูปแบบ คือ
1. คำนวณจากการชำระเงิน ยอดขายจะคำนวณจากรายการขายที่ชำระเงินแล้วเท่านั้น (รายการขายสถานะเป็นรอโอน หรือสำเร็จ และการชำระเงินต้องเป็นชำระครบ)
ซึ่งจะสามารถเลือกวันที่ที่ต้องการคำนวณได้ 2 แบบ คือ
1.1 อ้างอิงวันที่รายการขาย : วันที่ที่ลูกค้าสั่งซื้อ หรือวันที่ของรายการขาย
1.2 อ้างอิงวันที่ชำระเงิน : วันที่ที่ลูกค้าชำระเงิน
2. คำนวณจากการโอนสินค้า ยอดขายจะคำนวณจากรายการขายที่โอนสินค้า หรือส่งสินค้าแล้วเท่านั้น (รายการขายสถานะเป็นสำเร็จ และการชำระเงินเป็นรอชำระหรือชำระครบ)
ซึ่งจะสามารถเลือกวันที่ที่ต้องการคำนวณได้ 2 แบบ คือ
2.1 อ้างอิงวันที่รายการขาย : วันที่ที่ลูกค้าสั่งซื้อ หรือวันที่ของรายการขาย
2.2 อ้างอิงวันที่โอนสินค้า : วันที่ที่มีการโอนสินค้า หรือส่งสินค้า
· มูลค่าสินค้าคงเหลือ : การตั้งค่าคำนวณมูลค่าสินค้าคงเหลือในระบบ โดยสามารถคำนวณได้ 2 แบบดังนี้
1. อ้างอิงจากราคาทุนเฉลี่ย : ราคาในรายการซื้อสินค้า หรือราคาจากรายการปรับจำนวนสินค้ามาหารค่าเฉลี่ยกับจำนวนสินค้าที่มี (ไม่ใช่ต้นทุนเฉลี่ยที่แสดงในหน้าสินค้า)
2. อ้างอิงจากราคาซื้อ : ราคาซื้อที่ลงในหน้าสินค้า
สำหรับร้านค้าที่ต้องการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นใบเสนอราคาที่เมนูรายการขาย สามารถติ๊กเปิดการใช้งานได้เลย
E. ตั้งค่าการแสดงผล สามารถเลือกตั้งค่าได้ ดังนี้
1. การตั้งค่าแสดงสถานะการจัดส่ง : ตั้งค่าแสดงคอลัมวันที่จัดส่งในหน้าดูรายการขาย
2. แสดงช่องทางการขาย : แสดงคอลั้มช่องทางการขายในหน้าดูรายการขาย
3. กำหนดล็อตอัตโนมัติ เมื่อขายสินค้าออก : เพื่อให้ระบบใส่ล็อต สินค้าให้อัตโนมัติ เมื่อมีการสร้างรายการขาย
4. รายการขายสำเร็จ เมื่อแพ็คสินค้าครบ : เปลี่ยนสถานะรายการขายเป็นสำเร็จ เมื่อมีการแพ็คสินค้า ซึ่งหากไม่ติ๊กเลือก เมื่อทำการแพ็คสินค้า สถานะรายการขายจะเปลี่ยนเป็นแพ็คแล้ว
5. อนุมัติแจ้งชำระเงินจากลูกค้าอัตโนมัติ : เมื่อลูกค้า/ผู้ซื้อ แจ้งชำระเงินผ่านลิงค์ (share link, หน้าสั่งซื้อ, หน้า sale page) ระบบจะอนุมัติการชำระเงินทันที และสถานะรายการขายเปลี่ยนเป็นชำระครบให้อัตโนมัติ ซึ่งจะไม่สามารถตรวจสอบการชำระเงินได้
6. แนบสลิป เมื่อลูกค้าแจ้งชำระเงิน : ตั้งค่าบังคับการแนบสลิป เมื่อมีการชำระเงินผ่านลิงค์ (share link, หน้าสั่งซื้อ, หน้า sale page)
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-026-6423
Line: @zort