3. หลังจากนั้นจะปรากฏการสร้างรายการขายตามภาพด้านล่างนี้
4. กรอกข้อมูลการซื้อสินค้าทั้ง 7 ส่วน
A ข้อมูลของเอกสาร จะแสดงข้อมูในส่วนของเลขที่รายการขาย วันที่สร้างรายการ วันหมดอายุรายการ เลขอ้างอิง ช่องทางการขาย ประเภทภาษีและตัวแทนจำหน่าย (หากมี)
B ข้อมูลของลูกค้า จะแสดงในส่วนของชื่อลูกค้า รหัสลูกค้า เบอร์โทรศัพท์ อีเมลและที่อยู่ลูกค้า
กรณีอยากทราบว่าลูกค้าท่านนี้เคยสั่งซื้อสินค้ารายการขายใดบ้าง ให้คลิกที่ไอคอน “ดูรายการขาย” ระบบจะแสดงข้อมูลรายการขายก่อนหน้านี้ขึ้นมาให้จำนวน 10 รายการ (คลิกเลือกข้อมูลลูกค้าก่อนกดดูรายการขายเดิม)
ตัวอย่างข้อมูลรายการขายก่อนหน้านี้ (ดูรายการขายย้อนหลังได้ 10 รายการเท่านั้น)
C ข้อมูลสินค้า สามารถเลือกสินค้า ช่องทางการจัดส่ง หรือใส่หมายเหตุ ส่วนลดท้ายบิล ค่าส่งเพิ่มเติมได้
D ข้อมูลที่อยู่ผู้รับ กรณีที่อยู้ผู้ติดต่อกับผู้รับเป็นคนละที่กัน สามารถใส่ที่อยู่เพิ่มเติมตรงนี้ได้
E ข้อมูลการจัดส่งสินค้า สามารถกำหนดวันที่ส่งสินค้าได้
F ข้อมูลการชำระเงิน หากลูกค้าชำระเงินแล้วมาแล้วสามารถกดเพิ่มการชำระเงิน หากต้องการแนบสลิปหรือหลักฐานการชำระเงิน ผู้ใช้งานสามารถแนบรูปภาพได้เลย
G ข้อมูลคลังสินค้า/สาขา เลือกสถานะเป็นรอโอนหรือโอนทันที และระบุคลังสินค้าได้
5. หลังจากบันทึก จะปรากฏรายการขายตามภาพด้านล่างนี้
(2) สร้างรายการขายแบบย่อ (สร้างอย่างง่าย) #
ใช้สำหรับรายการขายที่ไม่ต้องการลงรายละเอียดลูกค้า หรือสถานะรายการต่าง ๆ
1. ไปที่เมนู “รายการขาย” หัวข้อ “ดูรายการขาย”
2. กด “สร้างอย่างง่าย”
3. กรอกข้อมูลสินค้า ช่องทางชำระเงินและคลังสินค้าให้ครบถ้วน
4. กด “บันทึก”
5. หลังจากบันทึก จะปรากฏรายการขายตามภาพด้านล่างนี้
(3) สร้างรายการขายจากไฟล์ Excel (นำเข้าไฟล์ Excel) #
การสร้างรายการขายจากไฟล์ Excel จะต้องดาวน์โหลด template จากระบบเพื่อนำเข้าข้อมูล ตามรูปแบบที่ระบบกำหนดเท่านั้น
1. ไปที่เมนู “รายการขาย” หัวข้อ “ดูรายการขาย”
2. กด “นำเข้าไฟล์ (Excel)”
3. เลือก “นำเข้าเข้ารายการใหม่”
4. ดาวน์โหลดไฟล์ template
5. จากนั้นกรอกข้อมูลที่ต้องการ โดยแต่ละคอลัมน์จะมีรายละเอียดดังนี้
ส่วนที่ 1 รายการขาย
หมายเลขรายการ : กรอกหมายเลขรายการขายที่ต้องการ กรณีร้านค้าต้องการให้ระบบรันหมายเลขรายการอัตโนมัติ ให้ใส่คำว่า “Auto”
รหัสลูกค้า : กรอกรหัสของลูกค้า (ถ้ามี)
ชื่อลูกค้า : กรอกชื่อของลูกค้า
อีเมลลูกค้า : กรอกอีเมลของลูกค้า (ถ้ามี)
เบอร์โทรลูกค้า : กรอกเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า (ไม่ต้องใส่ขีดกลาง และไม่เว้นวรรค โดยระบบจะให้ใส่เพียง 1 เบอร์เท่านั้น ตัวอย่างเช่น 021234567)
ที่อยู่ลูกค้า : กรอกข้อมูลที่อยู่ของลูกค้า (ห้ามใช้ตัวอักษรย่อ และต้องเว้นวรรคด้านหลังคำว่า “แขวง/เขต” ด้วย ตัวอย่าง 188 อาคารสปริงทาวเวอร์ ชั้น 20 ยูนิต 1, 2 แขวง ทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400)
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : กรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของลูกค้า (ถ้ามี)
ชื่อสาขา : กรอกชื่อสาขา (ถ้ามี)
เลขที่สาขา : กรอกเลขที่สาขา (ถ้ามี)
วันที่ทำรายการ : กรอกข้อมูลวันที่สร้างรายการขาย เช่น 30/9/2025 ระบบจะสร้างรายการขายเป็นของวันที่ 30 กันยายน 2568
ช่องทางการขาย : กรอกชื่อช่องทางการขายที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามา
ส่วนลดท้ายบิล : กรอกส่วนลดท้ายที่ต้องการ (ถ้ามี) โดยร้านค้าสามารถกรอกได้ทั้งส่วนลดที่เป็น % หรือจำนวนเต็ม เช่น 10% หรือ 100 เป็นต้น
ประเภทภาษีมูลค่าเพิ่ม : กรอกประเภทภาษีมูลค่าเพิ่มของรายการขาย โดยระบบจะให้ระบุข้อมูล 3 ประเภทหลัก ๆ คือ ไม่มี, แยกภาษี และรวมภาษี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม : กรอกจำวนภาษีมูลค่าเพิ่มของรายการขาย (กรณีไม่ได้กรอกข้อมูล ระบบจะคำนวณให้อัตโนมัติ)
อ้างอิง : กรอกหมายเลขอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับรายการขายดังกล่าว (ถ้ามี)
หมายเหตุ : กรอกข้อความที่ต้องการบันทึกข้อมูลลงในรายการขายดังกล่าว เช่น สินค้าพรีออเดอร์จัดส่งภายใน 15-30 วัน
Tag : กรอก keyword ที่ใช้สำหรับค้นหารายการขายบนระบบ ZORT เช่น ร้านค้าติดแท็กคำว่า “พรีออเดอร์” ไว้ เมื่อร้านค้ากรอกคำว่า “พรีออเดอร์” ลงในช่องค้นหาในหน้า “ดูรายการขาย” ระบบจะแสดงเฉพาะรายการขายที่ติดแท็กคำว่า “พรีออเดอร์” ขึ้นมาให้ (กรณีร้านค้าติดแท็กหลายรายการให้ใส่ , คั่นแต่ละแท็กด้วย)
ส่วนที่ 2 ตัวแทนจำหน่าย
ชื่อตัวแทนจำหน่าย : กรอกชื่อของตัวแทนจำหน่าย (ถ้ามี)
อีเมลตัวแทนจำหน่าย : กรอกอีเมลของตัวแทนจำหน่าย (ถ้ามี)
เบอร์โทรตัวแทนจำหน่าย : กรอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวแทนจำหน่าย (ถ้ามี)
ที่อยู่ตัวแทนจำหน่าย : กรอกที่อยู่ของตัวแทนจำหน่าย (ถ้ามี)
ส่วนที่ 3 ช่องทางจัดส่ง
วันที่จัดส่ง : กรอกวันที่ที่ร้านค้าจัดส่งสินค้า เช่น 10/10/2025 (กรณีต้องการเรียกขนส่งผ่านระบบ ZORT ไม่ต้องกรอกข้อมูลในช่องนี้)
ช่องทางจัดส่ง : กรอกชื่อขนส่งที่ต้องการจัดส่งสินค้า (กรณีต้องการเรียกขนส่งผ่านระบบ ZORT ไม่ต้องกรอกข้อมูลในช่องนี้)
ค่าส่ง : กรอกค่าจัดส่งที่ต้องการเก็บเพิ่มจากลูกค้า เช่น 50
เก็บเงินปลายทาง : หากเป็นรายการขายแบบเก็บเงินปลายทางให้กรอกคำว่า “มี” กรณีเป็นรายการขายที่ไม่เก็บเงินปลายทางให้กรอกคำว่า “ไม่มี”
ภาษีค่าส่ง : หากร้านค้าต้องการรวมภาษีมูลค่าเพิ่มค่าส่งด้วย ให้กรอกคำว่า “มี” กรณีไม่ต้องการรวมภาษีมูลค่าเพิ่มค่าส่ง ให้กรอกคำว่า “ไม่มี”
ชื่อผู้รับ : กรอกชื่อของผู้รับสินค้า
เบอร์โทรผู้รับ : กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับที่สามารถติดต่อกลับได้
อีเมลผู้รับ : กรอกอีเมลของผู้รับสินค้า (ถ้ามี)
ที่อยู่จัดส่ง : กรอกข้อมูลที่อยู่ผู้รับสินค้า (ห้ามใช้ตัวอักษรย่อ และต้องเว้นวรรคด้านหลังคำว่า “แขวง/เขต” ด้วย ตัวอย่าง 188 อาคารสปริงทาวเวอร์ ชั้น 20 ยูนิต 1, 2 แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400)
Tracking No : กรอกหมายเลขพัสดุ กรณีร้านค้าจัดส่งสินค้าด้วยขนส่งอื่นนอกเหนือจากที่ระบบ ZORT รองรับ
ส่วนที่ 4 สถานะ
สถานะ (รอ,สำเร็จ) : กรอกสถานะของสินค้าที่ต้องการ เช่น กรณีเป็นรายการขายที่รอจัดส่ง ให้กรอกคำว่า “รอ” ที่แปลว่า “รอโอนสินค้า” กรณีเป็นรายการขายที่จัดส่งเรียบร้อยแล้ว ให้กรอกคำว่า “สำเร็จ” ที่แปลว่า “จัดส่งสินค้าสำเร็จแล้ว”
รหัสคลัง/สาขา : กรอกรหัสคลังสินค้าที่ต้องการตัดสต็อกสินค้า เช่น W001
ชื่อคลัง/สาขา : กรอกชื่อคลังสินค้าที่ต้องการตัดสต็อก เช่น คลังสินค้าหลัก
ส่วนที่ 5 ข้อมูลการชำระเงิน
ช่องทางการชำระเงิน : กรอกชื่อช่องทางการชำระเงินที่ลูกค้าชำระเงินเข้ามา เช่น เงินสด หรือ Kbank เป็นต้น
จำนวนเงินที่ชำระ : จำนวนเงินที่ลูกค้าชำระ เช่น 500
วันที่ชำระ : กรอกวันที่ที่ลูกค้าชำระเงินเข้ามา เช่น 10/10/2025
ส่วนที่ 6 ข้อมูลสินค้า
รหัสสินค้า : กรอกรหัสสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อ เช่น P001
ชื่อสินค้า : กรอกชื่อสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อ เช่น กระเป๋า
จำนวน : กรอกจำนวนสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อ เช่น 2
ราคาต่อหน่วย : กรอกราคาขายต่อหน่วย เช่น 1000
ส่วนลดต่อหน่วย : กรอกส่วนลดสินค้า (ถ้ามี) เช่น 100
6. กดนำเข้าไฟล์
7. กด “บันทึก”
Notes:
- กรณีร้านค้าสร้างรายการขายแบบไม่เก็บเงินปลายทาง (non-COD) จะเรียกขนส่งได้เฉพาะแบบไม่เก็บเงินปลายทางเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น “เก็บเงินปลายทาง” ในหน้าเรียกขนส่งได้
ตัวอย่างรายการขายแบบไม่เก็บเงินปลายทาง
ตัวอย่างการเรียกขนส่งของรายการขายแบบไม่เก็บเงินปลายทาง
- กรณีร้านค้าสร้างรายการขายแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) จะเรียกขนส่งได้เฉพาะแบบเก็บเงินปลายทางเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น “ไม่เก็บเงินปลายทาง” ในหน้าเรียกขนส่งได้
ตัวอย่างรายการขายแบบเก็บเงินปลายทาง
ตัวอย่างการเรียกขนส่งของรายการขายแบบเก็บเงินปลายทาง
- หากร้านค้าต้องการเปลี่ยนรูปแบบ จะต้องกลับมาแก้ไขที่หน้ารายการขายเท่านั้น
- ร้านค้าสามารถกดเรียกขนส่งแบบ COD และ non-COD พร้อมกันได้
เพียงเท่านี้ ร้านค้าก็สามารถสร้างรายการขายบนระบบ ZORT ได้แล้ว