โดยเมื่อทำการเชื่อมต่อระบบเรียบร้อยแล้ว จะสามารถตั้งค่าได้ทั้งหมด 5 ส่วนดังนี้
1. การตั้งค่าทั่วไป
2. การตั้งค่าใบเสร็จรับเงิน และรายจ่าย
3. การตั้งค่าใบแจ้งหนี้ และบันทึกรายจ่าย
4. การตั้งค่ารายการขาย Masking ข้อมูล (สำหรับรายการขายที่ไม่แสดงชื่อลูกค้าตาม Policy ของแพลตฟอร์ม)
5. การส่งข้อมูลรายได้จากแพลตฟอร์ม
1. การตั้งค่าหัวข้อทั่วไป #
โดยสามารถเลือกตั้งค่าได้ 2 ส่วนดังนี้
A. การอัพเดทข้อมูลเอกสารอัตโนมัติ
การตั้งค่าสำหรับกำหนดระยะเวลาการส่งข้อมูลไปที่ PEAK โดยจะสามารถเลือกได้ 4 หัวข้อ คือ
· ไม่มีการอัพเดท : รายการขายจะไม่ส่งไปที่ PEAK ทางร้านต้องกดส่งรายการเอง ที่ปุ่มส่งข้อมูลรายการ (ปุ่มด้านบน)
· อัพเดทข้อมูลรายวันไป PEAK : รายการขายจะส่งไปที่ PEAK ทุกสิ้นวัน (ส่งเวลา 03:00 ทุกวันถัดไป)
· อัพเดทข้อมูลรายเดือนไป PEAK : รายการขายจะส่งไปที่ PEAK ทุกวันที่ 1 ของเดือนถัดไป เวลา 03:30 น.
· อัพเดทข้อมูลรายชั่วโมงไป PEAK : รายการขายจะส่งไปที่ PEAK ทุกนาทีที่ 0 ของชั่วโมงถัดไป
B. กำหนดหมายเลขรายการโดย
· กำหนดหมายเลขรายการโดย ZORT : เมื่อรายการขายส่งไป เลขที่เอกสารบน PEAK จะเป็นเลขเดียวกับหมายเลขรายการขายของ ZORT
ตัวอย่างรายการขาย
ตัวอย่างเอกสารจาก PEAK
· กำหนดหมายเลขรายการโดย PEAK : เมื่อรายการขายส่งไป เลขที่เอกสารจะเป็นเลขที่ของ PEAK และหมายเลขเอกสารของ ZORT จะไปเป็นเลขอ้างอิง
ตัวอย่างรายการขาย
ตัวอย่างเอกสารจาก PEAK
2. ใบเสร็จรับเงินและรายจ่าย #
การตั้งค่าสำหรับการส่งใบเสร็จ (รายการขาย) และรายจ่าย (รายการซื้อ) เหมาะสำหรับรายการซื้อขายที่ชำระเงินแล้ว จะสามารถเลือกได้ว่าจะส่งข้อมูลส่วนใดไป PEAK ได้บ้าง ดังนี้
A. รายการที่ส่งข้อมูล
สามารถเลือกได้ว่าจะส่งข้อมูลอะไรไป PEAK ได้บ้าง สามารถเลือกได้ดังนี้
· รายการขาย
· รายการซื้อ
· รายการรับคืนสินค้า (รับคืนของรายการขาย)
· รายการคืนสินค้า (รับคืนของรายการซื้อ)
B. สถานะรายการที่ส่งข้อมูล สามารถเลือกได้ว่าจะส่งรายการไป PEAK ที่สถานะรายการขายเป็นอะไร ซึ่งในส่วนของรายการใบเสร็จ ระบบจะเลือกจากการชำระเงินเป็นหลัก
· ชำระครบและสถานะสำเร็จ หมายถึง รายการขายจะต้องเป็นสถานะสำเร็จ (ส่งสินค้าแล้ว) และชำระครบ (ชำระเงินครบ)
· ชำระครบ หมายถึง รายการขายจะต้องเป็นชำระครบ (ชำระเงินครบ) เท่านั้น ส่วนการโอนสินค้าหรือส่งสินค้า สามารถเป็นสถานะรอโอน / รอส่งได้
ตัวอย่างการตั้งค่าชำระครบเท่านั้น (ชำระเงิน และยังไม่ได้ส่งสินค้า)
ตัวอย่างการตั้งค่าชำระครบ และสำเร็จ (ชำระเงินและส่งของแล้ว)
หมายเหตุ : รายการขายทั้ง 2 สถานะ จะส่งข้อมูลไป PEAK เหมือนกัน
ตัวอย่างรายการขายที่สร้างเอง ส่งไป PEAK เป็นใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี
จากรูปรายละเอียดดังนี้
- สีส้ม : ตั้งค่าใช้เลขที่เอกสารของ PEAK หมายเลขรายการขายของ ZORT จะส่งไปเป็นเลขอ้างอิงใน PEAK และเลขที่เอกสารจะเป็นเลขที่ของ PEAK
- สีแดง : ชื่อสินค้า โดยชื่อสินค้าจะใช้ชื่อสินค้าในหน้าเมนูสินค้า (อาจทำใช้ชื่อสินค้าบน PEAK ไม่ตรงกับรายการขาย)
- สีฟ้า : ราคาสินค้าต่อหน่วย
- สีเหลือง : ส่วนลดท้ายบิล จากตัวอย่างเป็นรายการขายที่สร้างเอง จะส่งส่วนลดไปด้วย
- สีม่วง : ค่าส่งที่ลูกค้าชำระเงินมา
- สีเขียว : วันที่เอกสารบน PEAK จะใช้วันที่ที่ชำระเงินใน ZORT
C. รายการถูกยกเลิก
สามารถตั้งค่าเมื่อรายการใน ZORT ยกเลิก ให้ส่งไปยกเลิกบน PEAK ด้วย
· ส่งข้อมูลยกเลิกรายการ
ตัวอย่างรายการยกเลิกบน ZORT
ตัวอย่างรายการยกเลิกบน PEAK
D. รายการขายหน้าร้าน
การตั้งค่าการส่งรายการขายจาก App POS หรือระบบหน้าร้านไปที่ PEAK โดยรายการขายจะส่ง 2 แบบ
1. รายการที่มีเบอร์โทรศัพท์ของสมาชิก ระบบจะส่งข้อมูลไป PEAK เหมือนรายการขายปกติ
2. รายการที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของสมาชิก ระบบจะส่งข้อมูลไป PEAK เป็นแบบรวมรายการต่อวัน โดยจะรวมรายการ และส่งไปที่ PEAK เป็น 1 รายการ
ตัวอย่างรายการแบบที่ 1 รายการที่มีเบอร์โทรศัพท์ของสมาชิก
จากรูปรายละเอียดดังนี้ #
· สีส้ม : หมายเลขรายการขาย จากรูปตัวอย่างเลือกตั้งค่าใช้หมายเลขรายการขายของ PEAK หมายเลขรายการของ ZORT จะแสดงเป็นเลขอ้างอิง
· สีเทา : เบอร์โทรศัพท์ลูกค้าที่กรอกใน App POS
· สีแดง : ชื่อสินค้า, จำนวน, ราคา
· สีฟ้า : ส่วนลดรายสินค้า, สินค้าต่อหน่วย
· สีเขียว : วันที่รายการ กรณีตั้งค่าให้ส่งรายการใบเสร็จ วันที่รายการจะเป็นวันที่ชำระเงินในรายการขาย
ตัวอย่างรายการแบบที่ 2 รายการที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของสมาชิก
จากรูป รายการขายของ POS วันที่ 25 สิงหาคม มีทั้งหมด 3 รายการ ซึ่งถ้ารายการส่งไปที่ PEAK จะรวมเป็น 1 รายการ โดยจะรวมสินค้า, ราคา, ส่วนลดในรายการเป็นยอดเดียว
จากรายการขายของ ZORT 3 รายการ จะส่งข้อมูลไป PEAK ดังนี้
· สีแดง : สินค้า โดยสินค้าจะส่งไปตามรายการ
· สีฟ้า : ส่วนลดต่อหน่วย หรือส่วนลดรายสินค้า
· สีเทา : ชื่อลูกค้า เมื่อส่งไปจะเป็น POS Customer
· สีเขียว : วันที่รายการขายจะอ้างอิงวันที่ชำระเงิน
· สีม่วง : จำนวนเงินรวม จะนำมูลค่าสุทธิของทุกรายการขายมารวมกัน
E. การตั้งค่าช่องทางการชำระเงิน
รายการขายที่ส่งใบเสร็จ หรือใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีไป PEAK จะอ้างอิงการชำระเงินเป็นหลัก โดยสามารถเลือกส่งข้อมูลตามช่องทางการชำระเงินที่ต้องการได้ เช่น หากมีรายการขายหลายช่องทาง หากต้องการให้ข้อมูลส่งไปแค่รายการขายจาก “เงินสด” เท่านั้น สามารถเลือกช่องทางการชำระเงินแค่ “เงินสด” แค่ช่องทางเดียวได้ หรือหากต้องการให้ส่งทุกรายการ สามารถเลือกทุกช่องทางการชำระเงินได้
การเชื่อมต่อช่องทางชำระเงินระหว่าง ZORT x PEAK
การตั้งค่าช่องทางชำระเงินบน ZORT จะสามารถกรอกรหัสช่องทางชำระเงินของ PEAK ได้ดังนี้
1. เข้าไปที่ระบบ PEAK เมนู “การเงิน”
2. เลือก “เงินสด/ธนาคาร/e-Wallet” หัวข้อ “ดูภาพรวม”
3. คลิกเลือกช่องทางการชำระเงินที่ต้องการ
4. เลือก “แก้ไข”
5. คัดลอกเลขที่ช่องทางการเงิน แล้วนำมาใส่ที่ ZORT
3. ใบแจ้งหนี้ และบันทึกรายจ่าย #
การตั้งค่าสำหรับการส่งใบแจ้งหนี้ (รายการขาย) และบันทึกรายจ่าย (รายการซื้อ) โดยการส่งใบแจ้งหนี้จะดูสถานะรายการส่งของเป็นหลักโดยสามารถเลือกได้ว่าจะส่งข้อมูลส่วนใดได้บ้าง ดังนี้
A. รายการที่ส่งข้อมูล
· ส่งข้อมูลใบแจ้งหนี้ (ของรายการขาย) : รายการขายสถานะรอชำระ จะส่งไปเป็นใบแจ้งหนี้
· ส่งข้อมูลบันทึกรายจ่าย (ของรายการซื้อ) : รายการซื้อสถานะรอชำระ จะส่งไปเป็นบันทึกรายจ่าย
B. สถานะรายการที่ส่งข้อมูล
· สถานะสำเร็จและยังไม่ชำระ หมายถึง รายการขายจะต้องเป็นสถานะ “สำเร็จ” (ส่งสินค้าแล้ว) และสถานะการชำระเงินเป็น “รอชำระ” (ยังไม่ได้ชำระเงิน)
· สถานะรอโอนและยังไม่ชำระ หมายถึง รายการขายจะต้องเป็นสถานะ “รอโอน” (ยังไม่ได้ส่งของ) และสถานะการชำระเงินเป็น “รอชำระ” (ยังไม่ได้ชำระเงิน)
ตั้งค่าสถานะรายการขายสำเร็จและยังไม่ชำระ
ตัวอย่างรายการขายที่ส่งไปเป็นใบแจ้งหนี้บน PEAK
จากรูปรายละเอียดดังนี้
· สีส้ม : หมายเลขรายการขาย จากรูปตัวอย่างเลือกตั้งค่าใช้หมายเลขรายการขายของ PEAK หมายเลขรายการของ ZORT จะแสดงเป็นเลขอ้าอิง
· สีแดง : ชื่อสินค้า
· สีฟ้า : ราคาสินค้า
· สีเหลือง : ส่วนลดท้ายบิล
· สีเขียว : วันที่รายการ กรณีตั้งค่าให้ส่งรายการใบแจ้งหนี้ จากสถานะสำเร็จ / รอชำระ (คือส่งสินค้าก่อน แต่ยังไม่ชำระเงิน) วันที่รายการบน PEAK จะเป็นวันที่ส่งสินค้า หรือวันที่โอนสินค้าบน ZORT
ตั้งค่าสถานะรายการขายรอโอนและยังไม่ชำระ
ตัวอย่างรายการขายที่ส่งไปเป็นใบแจ้งหนี้บน PEAK อ้างอิงการตั้งค่า สถานะรอโอนและยังไม่ชำระ
จากรูปรายละเอียดดังนี้
· สีส้ม : หมายเลขรายการขาย จากรูปตัวอย่างเลือกตั้งค่าใช้หมายเลขรายการขายของ PEAK หมายเลขรายการของ ZORT จะแสดงเป็นเลขอ้าอิง
· สีแดง : ชื่อสินค้า, จำนวน, ราคา
· สีเหลือง : ส่วนลดท้ายบิล หรือส่วนลดทั้งรายการ
· สีชมพู : ค่าจัดส่งที่เก็บจากลูกค้า
· สีเขียว : วันที่รายการ กรณีตั้งค่าให้ส่งรายการใบแจ้งหนี้ จากสถานะรอโอน/ รอชำระ (คือยังไม่ได้ส่งสินค้าและยังไม่ได้รับเงิน) วันที่รายการบน PEAK จะเป็นวันที่รายการขาย
เมื่อรายการขายส่งไป PEAK เป็นใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษีแล้ว เมื่อมีการชำระเงินในรายการขายใน ZORT รายการจะอัพเดทสถานะการชำระเงินบน PEAK ให้ โดยจะอ้างอิงเลขรายการเดิม และออกเอกสารเป็นใบเสร็จเท่านั้น
ตัวอย่างรายการขายของ ZORT
ตัวอย่างรายการขายที่ส่งไปเป็นใบเสร็จบน PEAK หลังจากส่งไปเป็นใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษีแล้ว
4. รายการถูก Masking ข้อมูล #
เนื่องจากรายการขายที่มาจากช่องทาง Tiktok shop และ Shopee (ยกเว้นกรณีที่ลูกค้ากดขอใบกำกับภาษีจากแพลตฟอร์มเข้ามา) จะไม่แสดงข้อมูลลูกค้าตาม Policy ของทางแพลตฟอร์ม ทำให้ระบบไม่ส่งข้อมูลไปยัง Peak ได้ หากร้านค้าต้องการส่งข้อมูลรายการขายจาก Tiktok shop และ Shopee ไปยัง Peak สามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ดังนี้
A. อัพเดทข้อมูลไป (Tiktok shop)
· ไม่มี : ไม่อัพเดทรายการขายจาก Tiktok shop ไปยัง Peak
· กำหนดเอง : กรอกรหัสและชื่อลูกค้าที่ต้องการ เพื่อเป็นการ Masking ข้อมูล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะไปแสดงเป็นข้อมูลลูกค้าบนเอกสารของ Peak ด้วย
B. อัพเดทข้อมูลไป (Shopee กรณีที่ลูกค้าไม่ได้กดขอใบกำกับภาษีเข้ามา)
· ไม่มี : ไม่อัพเดทรายการขายจาก Shopee ไปยัง Peak
· กำหนดเอง : กรอกรหัสและชื่อลูกค้าที่ต้องการ เพื่อเป็นการ Masking ข้อมูล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะไปแสดงเป็นข้อมูลลูกค้าบนเอกสารของ Peak ด้วย
ตัวอย่างรายการขายจาก Tiktokshop และเอกสารบน Peak ที่ทำการ Masking ข้อมูลลูกค้าแล้ว
- การส่งข้อมูล
เป็นการตั้งค่าการส่งข้อมูลรายการเพิ่มเติม จาก ZORT ไปยัง PEAK โดยเราสามารถตั้งค่าได้ ดังนี้
A : การส่งข้อมูล (รายได้ Platform คือ ค่ารายได้ที่ทาง Marketplace รองรับให้กับร้านค้า โดยจะประกอบไปด้วยค่า voucher ส่วนลดจาก Marketplace, ค่าเหรียญ, ค่า Coin ที่ทาง Marketplace มอบเป็นส่วนลดให้ผู้ซื้อ ซึ่งค่าส่วนลดกลุ่มนี้ร้านค้าจะได้รับคืนมาเป็นรายได้ของร้านค้า)
- กระจายรายได้จาก Platform ในสินค้า : ไม่ส่งรายได้จาก Platform ไปเป็นรายได้อื่น
- กำหนดรายได้จาก Platform เป็นรายได้อื่น : ส่งรายได้จาก Platform ไปเป็นรายได้อื่น
ตัวอย่างเอกสารแบบกระจายรายได้จาก Platform ในสินค้า
ตัวอย่างเอกสารแบบกำหนดรายได้จาก Platform เป็นรายได้อื่น
B : Rebate เป็นรายได้ หรือค่าตอบแทนพิเศษที่ทาง Marketplace จ่ายให้กับทางร้านค้า โดยค่า Rebate จะถูกบันทึกอยู่ในรายการขายเป็น “รายได้จาก Platform”
- ไม่รวมค่า Rebate: ระบบจะไม่ส่งค่า Rebate ไปที่ PEAK
- รวมค่า Rebate: ระบบจะส่งค่า Rebate ไปที่ PEAK ด้วย
ตัวอย่างค่า Rebate ที่แสดงในรายการขาย
ตัวอย่างเอกสารของ PEAK กรณีตั้งค่าไม่รวม Rebate
ตัวอย่างค่า Rebate ที่แสดงในรายการขาย
ตัวอย่างเอกสารของ PEAK กรณีตั้งค่ารวมค่า Rebate
C : การตั้งค่า Tag นี้ จะเป็นแท็กที่มาจากรายละเอียดของช่องทางการขาย การจัดส่ง หมายเลขการจัดส่ง หรือชื่อตัวแทนจำหน่าย โดยไม่รวมแท็กที่ผู้ใช้งานสร้างเพิ่มขึ้นเองในรายการขาย
- แสดง Tag ช่องทางการขาย : ช่องทางการขายในแต่ละรายการขาย เช่น Shopee, Lazada, TikTok, Facebook หรือช่องทางการขายที่ผู้ใช้งานระบุเอง เป็นต้น
- แสดง Tag ช่องทางการจัดส่ง : ช่องทางที่ใช้ขนส่งสินค้า ซึ่งระบุไว้ในแต่ละรายการขาย เช่น ไปรษณีย์ไทย, Kerry, DHL เป็นต้น
- แสดง Tag หมายเลขการจัดส่ง : หมายเลขพัสดุหรือหมายเลขติดตามพัสดุ (Tracking No.) ซึ่งระบุไว้ในแต่ละรายการขาย
- แสดง Tag ตัวแทนจำหน่าย : ชื่อตัวแทนจำหน่ายของแต่ละรายการขาย
ตัวอย่างข้อมูลกำหนดตัวเลือก Tag ที่ต้องการให้แสดงบน PEAK
สนใจใช้ระบบจัดการร้านค้าครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line: @zort
โทร 02-026-6423